อ่านท่าที 'กทม.' หลังถูกวิจารณ์ยับ 'ผังเมืองเอื้อนายทุน'

9 ม.ค. 2567 - 08:19

  • ประมวลปรากฏการณ์ ‘ผังเมืองเอื้อนายทุน’ จากจุดเริ่มต้นของ ‘สส.แบงค์’ สู่การแถลงข่าวชี้แจงของ ‘รองฯ ณุ’

People-and-members-of-the-House-of-Representatives-criticize-design-Bangkok-city -plan-SPACEBAR-Hero.jpg

ถกเถียงกันมาหลายสิบปี สำหรับเรื่องการวาง ‘ผังเมือง’ ในพื้นที่ ‘กรุงเทพมหานคร’ กรณีกำหนดการใช้งานที่ดิน แต่ละประเภท ที่ดูไม่เหมาะสม หรือสอดคล้องกับการพัฒนาเมือง อย่างประเทศที่เจริญแล้ว จนหลายฝ่ายเชื่อว่า อาจเป็นต้นเหตุของปัญหาคาราคาซัง อย่าง จราจรหนาแน่น ความเจริญในรูปแบบกระจุกตัว หรือแม้กระทั่งการออกแบบเมืองเพื่อให้เป็นไปตามอย่างที่ เจ้าของกรรมสิทธิ์ ‘นายทุน’ สามารถปรับใช้ได้ตามต้องประสงค์ 

อย่างการตั้งข้อสังเกตของ ‘ศุภณัฐ มีนชัยนันท์’ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่ออกมาจุดประเด็น 10 ประการ ให้หน่วยงานอย่าง ‘กทม.’ ทบทวนใหม่ กรณีจัดทำแผนผังเมืองฉบับใหม่ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญคือ ‘การกำหนดผังสี’ แบบ ‘เอื้อนายทุน’

People-and-members-of-the-House-of-Representatives-criticize-design-Bangkok-city -plan-SPACEBAR-Photo02.jpg
People-and-members-of-the-House-of-Representatives-criticize-design-Bangkok-city -plan-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: ‘ศุภณัฐ มีนชัยนันท์’ สส.กทม. พรรคก้าวไกล

‘สส.แบงค์’ มองว่า กทม.ทำโดยไม่มีหลักการและไร้ทิศทาง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงผังเมืองกรุงเทพฯ ในร่างปรับปรุงครั้งนี้ เป็นเพียงการเพิ่มความเข้มข้นของการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยส่วนใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงตามแนวรถไฟฟ้า และการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน ซึ่งไม่ใช่การวางผังเพื่อชี้นำความเจริญและกำหนดอนาคตเมือง แต่เป็นการวางผังหลังจากที่เมืองเจริญไปก่อนแล้ว และปรับผังตามการเจริญเติบโตอย่างไร้ทิศทาง ซึ่งการ ‘กำหนดพื้นที่สีแดง’ (พื้นที่สำหรับการพาณิชย์) อย่างไม่มีหลักการ ทำให้เห็นภาพการปะปนกระจายตัวอยู่บนพื้นที่ของ ‘นายทุน’ ไม่สอดคล้องกับผังการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจขนาดย่อย ของบรรดาผุ้ประกอบการ SME 

สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของ กลุ่ม 'เครือข่ายภาคประชาชนคว่ำร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร' ที่ออกมาแสดงทัศนะ คัดค้านและไม่เห็นด้วยต่อรูปแบบการจัดการ ในกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่ได้จัดทำมาทั้งหมด เพราะมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการพัฒนาจนเกินสมดุล ขัดต่อเจตนารมณ์สำคัญ อย่าง 'คุณภาพชีวิตของประชาชน' ทุกระดับ แต่การจัดทำร่างผังเมืองใหม่ (ครั้งนี้) ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด คือ กลุ่มนายทุน - อสังหาฯ ในการได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกจากรัฐที่อาจงอกเงย ตามที่ 'กรณ์ จาติกวณิช' ที่แสดงความกังวล ว่าอาจเกิดการอำนวยสิทธิ์ให้กลุ่มทุนสร้างตึกสูงเพิ่มขึ้น 

กระแสแรงขึ้นจนสื่อมวลชนจับจ้อง และลงพื้นที่สำรวจกันจ้าละหวั่น ‘กทม.’ ในฐานะตำบลกระสุนตก จึงต้องออกมาชี้แจง ถึงข้อวิจารณ์ในวันนี้ (9 มกราคม 2566) ตั้ังโต๊ะแถลงนำโดย ‘วิศณุ ทรัพย์สมพล’ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ‘รศ.ดร.นพนันท์ ตาปนานนท์’ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ‘ชูขวัญ นิลศิริ’ รองผู้อำนวยการสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง

People-and-members-of-the-House-of-Representatives-criticize-design-Bangkok-city -plan-SPACEBAR-Photo04.jpg

รองฯ วิษณุ โต้แย้งผู้วิจารณ์ว่า เนื่องจากเมืองมีการพัฒนา ฟื้นตัว และมีการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับนโยบายหลักที่อยากทำให้กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน เมืองที่มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น เมืองที่ไม่มีสิ่งกีดขวางบนทางเท้า ฯลฯ การปรับผังเมืองจึงเป็นโอกาสอันดี ที่จะนำสิ่งที่อยากให้มีบรรจุในผังเมืองใหม่ ซึ่งไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุนกลุ่มใด หากมีการได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการปรับผังสี จะต้องแบ่งส่วนหนึ่งของพื้นที่ดังกล่าวมาเพื่อประโยชน์สาธารณะ 

พร้อมกล่าวขยายรายละเอียดว่า ปัจจุบัน ‘ผังเมืองรวม’ กรุงเทพมหานครใช้มาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ให้สอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน - การปรับผังเมืองใหม่ ในทุก 5 ปี และการดำเนินงานครั้งนี้ กทม.กรุงเทพมหานครโดยสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ได้ดำเนินการทำ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2562 เพื่อวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป 

จนเกิดพระราชบัญญัติการผังเมืองใหม่ ในปี 2562 กำหนดให้ผังเมืองรวมมีรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 4 แผนผังเป็น 6 แผนผัง จึงต้องมีการจัดทำร่างผังเมืองรวมฯ ให้มีองค์ประกอบครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้

“ถามว่าการปรับผังสี มันเอื้อไหม ไม่ใช่เอื้อนายทุนแต่ทุกคนได้ประโยชน์หมด แต่การได้ประโยชน์จากการสร้าง คุณต้องแบ่งประโยชน์ส่วนหนึ่งมาสู่ประโยชน์สาธารณะ เรื่องตึกก็มีกฎหมายควบคุมอาคารอยู่ไม่ให้แออัดเกินไป”

‘วิศณุ ทรัพย์สมพล’ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

วิศณุ ระบุต่อว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนที่ 5 คือได้มีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและปรึกษาหารือกับประชาชนมาแล้ว 7 ครั้ง พร้อมเปิดให้ผู้มีส่วนได้เสียยื่นหนังสือแสดงความคิดเห็น เพื่อให้มีผลเกี่ยวกับสิทธิในการยื่นคำร้องขอให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน ตามมาตรา 30 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ผังเมือง พ.ศ. 2562 โดยจะขยายระยะเวลาการยื่นหนังสือได้ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 (จากเดิมสามารถยื่นได้จนถึงวันที่ 22 มกราคม 2567) 

ภายหลัง กทม. แถลงข่าวเสร็จไม่กี่ชั่วโมง ‘สส.แบงค์’ ยังคงตั้งคำถามต่อในแอพลิเคชัน X ถามหาถึงหลักเกณฑ์พิจารณา การอนุมัติผังเมืองสีแดง และลุกลามไปถึงบริษัทปรึกษาที่อยู่เบื้องหลังการร่างผังเมือง ซึ่งศุภณัฐ ระบุว่าบริษัทดังกล่าว ได้รับการว่าจ้างทำผังเมืองอยู่ 100 กว่าล้านบาท  

เรื่องนี้คงไม่ใช่คลื่นกระทบฝั่ง ที่มาแล้วจากไปโดยเร็ว แต่อาจเข้าขั้น ‘มหากาพย์’ เพราะดูแล้วก้าวไกลเองก็กัดไม่ปล่อย…

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์