



ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าว ภายหลังรัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน โดยศิริกัญญา กล่าวว่า รัฐบาลนี้ ไม่ใช่พึ่งมา 90 วัน แต่บริหารราชการมา 1 ปี 4 เดือนแล้ว ดังนั้น การจะระบุว่าแถลงผลงาน 90 วัน หมายถึงผลงานของนายกฯ คนใหม่หรือไม่ เพราะทั้ง ครม.หน้าเดิมในจำนวนเกินครึ่ง ดังนั้น ต้องเป็นผลงานเกินครึ่งทางของรัฐบาลแล้ว และถึงแม้จะใช้คำว่า แถลงผลงาน แต่สิ่งที่ได้ยินจากนายกฯ คือ การฝากงาน เป็นการแถลงฝากงานให้กับรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ เพื่อให้ไปศึกษาเรื่องต่างๆ โดยฝากงานทั้งสิ้น 11 ครั้ง และไม่ได้สรุปผลงานที่ผ่านมา 1 ปีกว่าที่ผ่านมาว่า ทำอะไรไปบ้าง ทำอะไรสำเร็จไปแล้ว ไม่ใช่ว่า รัฐบาลนี้ไม่มีผลงาน แต่กลับไม่แถลงผลงานจริงๆ จังๆ
ศิริกัญญา กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯ พูดในวันนี้ ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก ลักษณะคล้ายการแถลงนโยบายภาค 2 ปัญหาที่เราทราบใหญ่เท่าภูเขา แต่วิธีการแก้ไขปัญหา เล็กเท่าขนนก แต่ก็มีหลายเรื่องที่เราเห็นด้วย และพร้อมสนับสนุน ทั้งการทลายทุนผูกขาด การปรับโครงสร้างหนี้ บ้านเพื่อคนไทย การลดค่าไฟ แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก ส่วนนโยบายเร่งด่วนที่เคยแถลงกับสภาฯ ไว้ ก็มีการพูดแตะในทุกประเด็น 9 เรื่องจาก 10 เรื่อง แต่ไม่ได้พูดถึงอาชญากรรมออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ เมื่อมาดูสิ่งที่เป็นผลงานจริงๆ คือ การแก้ไขปัญหา PM 2.5 ที่ปริมาณฝุ่นลดลงทุกภูมิภาค แต่คนที่ติดตามเรื่องฝุ่นจริงจัง จะพบว่า ลดได้น้อยกว่าเป้าหมายที่ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีตั้งไว้ และการเผาในภาคการเกษตรกลับเพิ่มมากขึ้น และยังไม่มีมาตรการใดๆ จากรัฐบาลออกมารองรับต่อการเผาในภาคการเกษตร ทั้งอ้อย และข้าว
ศิริกัญญา ยังทวงถามนโยบาย Soft Power ที่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ หลังจากที่ แพทองธาร ชินวัตร นั่งเป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power มากว่า 1 ปี และโครงการ OFOS ก็พลาดเป้าทั้งหมด รวมทั้งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ระบุจะแจกปีหน้า ก็ขาดรายละเอียด และเงินหมื่นสำหรับผู้สูงอายุ ก็ยังมีการถอนเรื่องออกจากการประชุมคณะรัฐมนตรี
จากนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุว่า อยากเห็นรัฐบาลปฏิรูประบบราชการและการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาฝังรากลึกในสังคมไทย รวมถึงยังขาดนโยบายการกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่น ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือเป็นกลไกสำคัญ ทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง และฝุ่น PM2.5 รวมถึงไฟป่า
ส่วนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า จะมีแพลตฟอร์มในการรับเรื่องร้องเรียนนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ มองว่า ปัญหายาเสพติดของประเทศใหญ่กว่านั้น โดยเฉพาะชายแดน และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนโยบายด้านการต่างประเทศของไทยก็ยังไม่มีความชัดเจนในการแถลงผลงานในวันนี้
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังมองว่า นโยบายการลดราคาไฟฟ้า และพลังงานที่รัฐบาลควรดำเนินการ คือการทำโซลาร์ลูฟท็อป และสมาร์ทบริจด์ เพื่อให้ประชาชนสามารถผลิตไฟฟ้า ขายให้กับครัวเรือนอื่นๆ ได้
สำหรับนโยบายด้านการต่างประเทศนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ เห็นว่า ยังไม่มีความชัดเจนในนโยบายการต่างประเทศ ที่ไทยจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกใหม่ ที่สหรัฐอเมริกา ไม่ได้พุ่งเป้าเพียงประเทศจีนเท่านั้น และประเทศไทย ก็จะได้รับผลกระทบด้วย
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังหวังว่า การแถลงฝากงานของนายกรัฐมนตรี จะทำให้ประชาชนคนไทย มีความเชื่อมั่นได้ว่า นโยบายของรัฐบาล จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับประชาชน พร้อมมองว่า การแถลงผลงานของรัฐบาล ยังไม่ผ่านเกณฑ์ผิดความคาดหวังประชาชน เพราะนายกรัฐมนตรี ยังพูดไม่ครบ และคิดไม่จบ จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ให้ความสำคัญกับฝ่ายนิติบัญญัติ มาตอบกระทู้ถามและชี้แจงรายละเอียดในนโยบายต่างๆ รวมถึงการผ่านร่างกฎหมายต่างๆ เพื่อให้นโยบายประสบผลสำเร็จ เช่น การแก้ปัญหาการแข่งขันทางการค้า การปฏิรูปการศึกษา และงบประมาณ ซึ่งทุกเรื่อง พรรคประชาชนได้ยื่นร่างกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรไปแล้วกว่า 80 ฉบับ ตามการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านเชิงรุก ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมสนับสนุนนโยบายที่เป็นประโยชน์ของรัฐบาล
ส่วนจุดเด่นของพรรคเพื่อไทย ที่เคยมีความโดดเด่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ มองว่า 1 ปี 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลประสบความล้มเหลว การแจกเงินให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยในเฟส 1 ก็ยังกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่ดีเท่าที่ควร และยังพลาดไปหลายๆ เป้าตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังเห็นว่า หากในวันนี้ (12 ธ.ค.) นายกรัฐมนตรี มาตอบกระทู้ถาม ก็น่าจะสามารถตอบข้อซักถามของฝ่ายค้าน ที่ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ และเชื่อว่า น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในรายละเอียดนโยบายมากกว่านี้