ภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน กล่าวถึงความกังวลของชาวคลองเตย หลัง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ระบุ พื้นที่คลองเตยเหมาะที่จะตั้งสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ทั้งที่กฎหมายยังไม่มีความพร้อม ทำให้กระแสสังคมตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาลจึงเร่งเดินหน้าเรื่องนี้ ทั้งที่การกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถทำได้หลายวิธี เข้าใจว่าการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ไม่ได้ผลมากเท่าที่ควร จึงอยากถามว่า เหตุใดรัฐบาลกระเหี้ยนกระหือรือที่จะเร่งทำเรื่องนี้โดยเร็ว ทั้งที่มีเรื่องอื่นสำคัญ เช่น การจ้างงานการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลกเรื่องข่าวคาสิโนมีทุกวันหลายประเทศ ใช้เวลานานในการศึกษา เช่น ญี่ปุ่น ที่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป จึงถามว่า ประเทศไทยรอบคอบเพียงพอแล้วหรือไม่ เพราะจากผลนิด้าโพล ประชาชนไม่เห็นด้วยถึง 60% และรัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชนมากกว่า ฟังเสียงนายทุนที่จะเข้ามาลงทุน นอกจากนี้ รัฐบาลควรอธิบายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เพราะมีปัญหาเรื่องการฟอกเงินในบ่อนจำนวนมาก

ภัณฑิล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมาย แต่ไม่สามารถจัดการเว็บพนันออนไลน์ บ่อนเถื่อนที่ผิดกฎหมายได้ แล้วถ้าจะทำให้ถูกกฎหมาย ก็จะไม่มีใครมาขออนุญาต เพราะบ่อนเถื่อนเปิดได้อยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ยังแสดงความเป็นห่วงการแก้ พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่เปิดช่องให้เอกชนสามารถเข้ามาร่วมทุน โดยจัดตั้งบริษัทลูก ให้ร่วมลงทุนกับบริษัทมหาชนและบริษัทต่างชาติได้ ซึ่งจะขยายขอบเขตให้เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากวัตถุประสงค์เดิมตามผังเมืองคือการขนส่งโลจิสติกส์ ซึ่งมีข่าวหนาหูว่ามีบริษัทของนายทุนพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อจะรับบริหารจากการท่าเรือฯ หากประชาชนมีเบาะแสให้แจ้งมาได้
ภัณฑิล ยังกล่าวถึงมูลค่าที่ดินท่าเรือคลองเตย จำนวน 2,000 ไร่ เป็น โดยแบ่งอยู่ในเขตศุลกากร 1,000 ไร่ ที่จะใช้ทำอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่ามากถึง 4 แสนล้านบาท เทียบไม่ได้กับค่าออกใบอนุญาตที่มีมูลค่าเพียง 5 พันล้านบาท ดังนั้น รัฐบาลควรเอาไปทำประโยชน์อื่นให้ประชาชน ไม่ใช่เอาไปประเคนให้นายทุน เพื่อสร้างคาสิโน นอกจากนี้ จะมีการสร้างทางด่วน S-1 เพื่อรองรับการพัฒนาท่าเรือในฝั่งตะวันออก ที่จะทำเป็นศูนย์กระจายสินค้าใหม่ เอาตู้คอนเทนเนอร์สูง 8 ชั้น ให้รถบรรทุกขึ้นไปได้ จึงต้องสร้างทางด่วนเชื่อมเข้าไปข้างในโดยตรง ใช้พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ อีกทั้งจะมีการไล่ที่ประชาชนที่อาศัยอยู่หน้า สน.ท่าเรือ โดยยังไม่มีความชัดเจนเรื่องทางออกให้กับประชาชนหลายครัวเรือน ในขณะที่รัฐบาลคิดจะทำโครงการใหญ่ มูลค่าแสนล้านบาท ให้กับนายทุน จึงขอตั้งคำถามไปถึงสุริยะว่าหัวใจของโครงการ Entertainment Complex 10% จำเป็นต้องมีบ่อนคาสิโนหรือไม่ ถ้าไม่มีบ่อน จะทำ Entertainment Complex ไม่ได้หรืออย่างไร

ภัณฑิล กล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกตถึงการตั้งปรมาจารย์ด้านกฎหมาย เพื่อจะมาแก้เกี้ยวด้านกฎหมาย มันน่าสงสัย โดยเฉพาะชื่อของ วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ และบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ น่ากลัวมากเลย ประชาชนเริ่มเป็นห่วงแล้วว่า กฎหมายนี้มันจะพิเศษหรือเปล่า หรือตั้งเป็นเขตท่องเที่ยวพิเศษ ทั้งที่กฎหมายมีอยู่แล้ว ถ้าจะทำสถานบริการ ที่สำคัญกฤษฎีกาก็บอกแล้วว่ามันซ้ำซ้อนกัน ทำไมไม่แก้ พ.ร.บ.การพนัน ไปเลยแทนที่จะกระมิดกระเมี้ยน ชักเข้าชักออก ดังนั้นจึงขอท้าให้ทำประชามติ หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งในอเมริกาและยุโรป ก็มีปัญหา ไม่ใช่สำเร็จอย่างเดียวสำหรับคาสิโน จะเอาแต่โมเดลการพัฒนาเมืองรอง เหมือนที่อเมริกาพัฒนาลาสเวกัส ไม่ได้ และกรุงเทพฯ ก็มีพร้อมอยู่แล้ว ทั้งวัดและอาหารอร่อย คนที่มาเที่ยวไม่ใช่เพราะมีบ่อนคาสิโน เชื่อว่า คนกรุงเทพฯ จะไม่เอา ประกอบกับเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน เรื่องการเช่าที่ดิน 99 ปี เพราะการจะคุมทุนต้องใช้เวลานาน รวมถึงการที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนในเมือง จะส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน