



ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทย ถูกโจมตีว่ามีดีลลับตั้งรัฐบาลข้ามขั้วกับพรรคพลังประชารัฐ โดยล่าสุดการเดินทางไปประเทศอังกฤษของ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับอีกครั้งว่าเป็นการไปคุยดีลลับกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
ล่าสุด ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงประเด็นนี้ก่อนเริ่มประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและประชุม ส.ส. ที่พรรคเพื่อไทยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่าน โดยยืนยืนในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณของดีลลับอะไรทั้งนั้น และถ้ามีเขาคงมาแจ้งผมแล้วว่าต้องทำยังไง เพราะคนดีลก็กลับมาแล้ว และในนามของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้รับการแจ้งข่าวหรือแจ้งเบาะแสอะไรเหมือนอย่างที่เป็นข่าว
ส่วนกระแสข่าวที่ถูกปล่อยออกมาเป็นกระบวนการดิสเครดิสพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ‘นพ.ชลน่าน’ ระบุว่าแล้วแต่จะมอง แต่พรรคเพื่อไทยชินชาเรื่องนี้ไปแล้ว และคงไม่สามารถห้ามใครไม่ให้วิจารณ์เรื่องนี้ได้ ถ้ามองในมุมบวกก็เป็นบวก ถ้ามองมุมลบพรรคเพื่อไทยก็โดนหนัก พร้อมย้ำว่าเพื่อไทยยึดมั่นในประชาธิปไตยและเสียงของประชาชนเป็นหลัก การผิดแผกแหวกประเพณีไปมุมอื่น มันหมายถึงพรรคเพื่อไทยจะเดินไปในสายการเมืองลำบาก และพรรคเพื่อไทยจะกลายเป็นสถาบันการเมืองที่ไม่มีใครยอมรับ แล้วพรรคเพื่อไทยจะทำไปทำไม เพราะฉะนั้นทุกอย่างเราทำเพื่อประชาชนส่วนมาก ไม่ใช่คนส่วนน้อยแน่นอน
ส่วนความชัดเจนเรื่องประธานสภาฯ ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ‘นพ.ชลน่าน’ ให้ความมั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 4 ก.ค. ที่จะมีการโหวตตำแหน่งประธานสภาฯ และส่วนตัวมั่นใจว่าจะจบลงได้ด้วยดี ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะเจรจาของทั้งสองพรรคที่ต้องหารือกัน ส่วนการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการดำเนินกิจกรรมสำคัญทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยจะใช้เป็นมติของพรรค
‘นพ.ชลน่าน’ ยังให้คำมั่นว่าพรรคเพื่อไทยถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน ขอให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว และพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมจะจับมือกันต่อไป ไม่มีทางแยกกันได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ‘นพ.ชลน่าน’ เพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมเสนอชื่อ ‘สุชาติ ตันเจริญ’ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ กับพรรคก้าวไกล ได้คุยกับ ‘สุชาติ’ แล้วหรือยัง โดย ‘นพ.ชลน่าน’ บอกว่ายังไม่ได้คุยกัน ส่วนกระแสข่าวว่าหากวันโหวตมีการเสนอชื่อ ‘สุชาติ’ ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ แล้วเจ้าตัวไม่มา ผลจะเป็นอย่างไร
‘นพ.ชลน่าน’ อธิบายว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมด้วย หากผู้เสนอชื่อไม่อยู่ในที่ประชุม ถือว่าขาดคุณสมบัติ ขัดต่อข้อบังคับการประชุมฯ และอาจนำไปสู่การร้องเรียนว่าการโหวตประธานสภาฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้
นอกจากนี้ ‘นพ.ชลน่าน’ ยังย้ำถึงจุดยนของพรรค ต่อกรณีที่มีบุคคลออกมาเสนอความเห็น เสนอให้วันที่ 24 มิ.ย. เป็นวันชาติ ว่าเดิมทีวันที่ 24 มิ.ย. คือ วันเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปี 2475 ซึ่งบริบทของประเทศไทยการที่จะกำหนดว่าวันไหนสำคัญจะมีปัจจัยพิจารณาหลายอย่าง หากมาถามว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนอย่างไรนั้นตอบไม่ได้ เพราะพรรคไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ แต่วันที่ 24 มิ.ย. เป็นวันที่ต้องระลึกถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งมีความสำคัญในเรื่องของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ส่วนจะทำอย่างไรให้วันดังกล่าวเป็นไปตามประชาธิปไตยที่แท้จริง นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการจะเสนอในมุมนี้มากกว่า
เมื่อถามย้ำว่า สิ่งที่พูดถึงม่ได้ให้น้ำหนักไปในทางเดียวกันกับจุดยืนของพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ ‘นพ.ชลน่าน’ ตอบด้วยน้ำเสียงดุดันทันทีว่า พูดอย่างนั้นคงไม่ถูกและเขาขอไม่วิจารณ์การนำเสนอของพรรคอื่น อย่าเอามาเปรียบเทียบใครจะเสนออะไรอย่างไร ก็ขอให้เป็นประเด็นถกเถียงกันในสังคม แต่จะเอาพรรคก้าวไกล มาเปรียบเทียบกับเพื่อไทยหรือเอาเพื่อไทยไปเปรียบเทียบกับพลังประชารัฐคงไม่ใช่เรื่อง ใครจะตอบอะไรก็เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
‘นพ.ชลน่าน’ ยังย้อนถามสื่อมวลชนว่า พรรคก้าวไกลกล้าเสนอให้ วันที่24 มิ.ย.เป็นวันชาติหรือไม่ ซึ่งเขาได้ถามไปยังพรรคก้าวไกล เขาก็บอกว่าไม่ได้เสนอเพียงแต่เป็นแค่มุมมองของสมาชิกบางคนเท่านั้น พร้อมขอสื่อว่าอย่าบิดเบือนหรือบิดประเด็นในเรื่องนี้ เพราะเราต้องสร้างความรักความสามัคคีในชาติให้เกิดขึ้นให้ได้
ล่าสุด ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงประเด็นนี้ก่อนเริ่มประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและประชุม ส.ส. ที่พรรคเพื่อไทยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่าน โดยยืนยืนในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณของดีลลับอะไรทั้งนั้น และถ้ามีเขาคงมาแจ้งผมแล้วว่าต้องทำยังไง เพราะคนดีลก็กลับมาแล้ว และในนามของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้รับการแจ้งข่าวหรือแจ้งเบาะแสอะไรเหมือนอย่างที่เป็นข่าว
ส่วนกระแสข่าวที่ถูกปล่อยออกมาเป็นกระบวนการดิสเครดิสพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ‘นพ.ชลน่าน’ ระบุว่าแล้วแต่จะมอง แต่พรรคเพื่อไทยชินชาเรื่องนี้ไปแล้ว และคงไม่สามารถห้ามใครไม่ให้วิจารณ์เรื่องนี้ได้ ถ้ามองในมุมบวกก็เป็นบวก ถ้ามองมุมลบพรรคเพื่อไทยก็โดนหนัก พร้อมย้ำว่าเพื่อไทยยึดมั่นในประชาธิปไตยและเสียงของประชาชนเป็นหลัก การผิดแผกแหวกประเพณีไปมุมอื่น มันหมายถึงพรรคเพื่อไทยจะเดินไปในสายการเมืองลำบาก และพรรคเพื่อไทยจะกลายเป็นสถาบันการเมืองที่ไม่มีใครยอมรับ แล้วพรรคเพื่อไทยจะทำไปทำไม เพราะฉะนั้นทุกอย่างเราทำเพื่อประชาชนส่วนมาก ไม่ใช่คนส่วนน้อยแน่นอน
ส่วนความชัดเจนเรื่องประธานสภาฯ ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ‘นพ.ชลน่าน’ ให้ความมั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 4 ก.ค. ที่จะมีการโหวตตำแหน่งประธานสภาฯ และส่วนตัวมั่นใจว่าจะจบลงได้ด้วยดี ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะเจรจาของทั้งสองพรรคที่ต้องหารือกัน ส่วนการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการดำเนินกิจกรรมสำคัญทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยจะใช้เป็นมติของพรรค
‘นพ.ชลน่าน’ ยังให้คำมั่นว่าพรรคเพื่อไทยถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน ขอให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว และพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมจะจับมือกันต่อไป ไม่มีทางแยกกันได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ‘นพ.ชลน่าน’ เพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมเสนอชื่อ ‘สุชาติ ตันเจริญ’ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ กับพรรคก้าวไกล ได้คุยกับ ‘สุชาติ’ แล้วหรือยัง โดย ‘นพ.ชลน่าน’ บอกว่ายังไม่ได้คุยกัน ส่วนกระแสข่าวว่าหากวันโหวตมีการเสนอชื่อ ‘สุชาติ’ ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ แล้วเจ้าตัวไม่มา ผลจะเป็นอย่างไร
‘นพ.ชลน่าน’ อธิบายว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมด้วย หากผู้เสนอชื่อไม่อยู่ในที่ประชุม ถือว่าขาดคุณสมบัติ ขัดต่อข้อบังคับการประชุมฯ และอาจนำไปสู่การร้องเรียนว่าการโหวตประธานสภาฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้
นอกจากนี้ ‘นพ.ชลน่าน’ ยังย้ำถึงจุดยนของพรรค ต่อกรณีที่มีบุคคลออกมาเสนอความเห็น เสนอให้วันที่ 24 มิ.ย. เป็นวันชาติ ว่าเดิมทีวันที่ 24 มิ.ย. คือ วันเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปี 2475 ซึ่งบริบทของประเทศไทยการที่จะกำหนดว่าวันไหนสำคัญจะมีปัจจัยพิจารณาหลายอย่าง หากมาถามว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนอย่างไรนั้นตอบไม่ได้ เพราะพรรคไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ แต่วันที่ 24 มิ.ย. เป็นวันที่ต้องระลึกถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งมีความสำคัญในเรื่องของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ส่วนจะทำอย่างไรให้วันดังกล่าวเป็นไปตามประชาธิปไตยที่แท้จริง นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการจะเสนอในมุมนี้มากกว่า
เมื่อถามย้ำว่า สิ่งที่พูดถึงม่ได้ให้น้ำหนักไปในทางเดียวกันกับจุดยืนของพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ ‘นพ.ชลน่าน’ ตอบด้วยน้ำเสียงดุดันทันทีว่า พูดอย่างนั้นคงไม่ถูกและเขาขอไม่วิจารณ์การนำเสนอของพรรคอื่น อย่าเอามาเปรียบเทียบใครจะเสนออะไรอย่างไร ก็ขอให้เป็นประเด็นถกเถียงกันในสังคม แต่จะเอาพรรคก้าวไกล มาเปรียบเทียบกับเพื่อไทยหรือเอาเพื่อไทยไปเปรียบเทียบกับพลังประชารัฐคงไม่ใช่เรื่อง ใครจะตอบอะไรก็เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
‘นพ.ชลน่าน’ ยังย้อนถามสื่อมวลชนว่า พรรคก้าวไกลกล้าเสนอให้ วันที่24 มิ.ย.เป็นวันชาติหรือไม่ ซึ่งเขาได้ถามไปยังพรรคก้าวไกล เขาก็บอกว่าไม่ได้เสนอเพียงแต่เป็นแค่มุมมองของสมาชิกบางคนเท่านั้น พร้อมขอสื่อว่าอย่าบิดเบือนหรือบิดประเด็นในเรื่องนี้ เพราะเราต้องสร้างความรักความสามัคคีในชาติให้เกิดขึ้นให้ได้