เรียกได้ว่าพร้อมตอบโต้ทันทีสำหรับพรรคเพื่อไทย ภายหลัง ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ได้ออกมาประเมินการทำงาน ‘รัฐบาลเศรษฐา’ ไปเมื่อวันศุกร์ (16 ธ.ค.) และวิจารณ์ถึงการไม่มีโรดแม็ปที่ชัดเจน
โดยทาง อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้สวนกลับ พิธา ว่าในช่วงจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลบอกว่า 10 เดือน รอได้ เพื่อรอให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) หมดอายุ แต่พอ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เดินหน้าทำงาน เร่งรัดผลงานตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ไปจนถึงเดินสายหารือในเวทีระหว่างประเทศมากมาย เพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ อีกฝ่ายกลับรอไม่ได้ ทั้งที่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงาน 3 เดือนเท่านั้น
พิธา กลับรีบร้อน รอไม่ได้ ทำตัวย้อนแย้ง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลตั้งแต่หัววัน ขนาด พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ยังไม่ได้รับการพิจารณา ต้องใช้งบปี 66 ไปพลางก่อน ยังสามารถผลักดันนโยบายให้สำเร็จได้มากมายขนาดนี้ มีโรดแม็ปการทำงานที่ชัดเจน ทั้งลดค่าใช้จ่าย ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง พักชำระหนี้เกษตรกร ดิจิทัลวอลเล็ตส่งเรื่องไปยังสำนักงานกฤษฎีกาแล้ว เอฟทีเอเดินหน้าต่อเนื่อง ซอฟท์พาวเวอร์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ผู้นำอาเซียนก็ไปพบมาเกือบหมดแล้ว รวมถึงด้านผลักดันกฎหมายรัฐบาลก็พยายามขับเคลื่อนไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.อากาศสะอาด พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
อนุสรณ์ วิจารณ์อีกว่า พิธา เพิ่งกลับมาจากไปบุกค่ายวายจี (วายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์: YG Entertainment) ที่เกาหลี ไปโพสต์ข้อมูลสำคัญของบริษัทเขา ทั้งภาพคู่ตารางงาน รายชื่อเพลง จนถูกตั้งคำถามว่าเป็น พิธาหิวแสงหรือไม่ ทั้งนี้ การวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นสิทธิ รัฐบาลพร้อมรับฟังแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ประชาชนไม่ต้องรอ 10 เดือน รัฐบาลเศรษฐาทำงาน 3 เดือน ก็สำเร็จมากมาย ตั้งใจทำงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน รัฐบาลพยายามทำเต็มที่
คุณพิธา ต้องไม่หิวแสง ไม่รีบร้อนลนลานค้านไปหมดทุกเรื่อง ไปศึกษาผลงานรัฐบาลให้ครบถ้วนแล้วค่อยวิจารณ์ก็ไม่สาย งบฯ ก็ยังไม่ผ่าน ยังทำได้มากขนาดนี้ ควรให้กำลังใจรัฐบาล
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
ฟาด ‘ก้าวไกล’ อ้าง ‘สภาล่ม’ 1 ครั้ง ผลาญเงิน 8.2 ล้าน แต่ถ้าฝ่ายตัวเองทำล่มไม่เป็นไร?
นอกเหนือจากเรื่องของพิธาแล้ว อนุสรณ์ ยังพาดพิงไปถึงพรรคก้าวไกล สืบเนื่องจากเหตุการณ์ ‘สภาฯ ล่ม’ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ระหว่างการลงมติพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีผู้ลงมติ 228 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่ปฏิบัติหน้าที่
อนุสรณ์ วิจารณ์ว่า สมาชิกพรรคก้าวไกล เคยกล่าวไว้เองว่าสภาฯ ล่ม 1 ครั้ง มูลค่าความเสียหายประมาณ 8,291,945 บาท ทำประเทศชาติเสียหาย ทำประชาชนเสียโอกาส
เหตุการณ์สภาฯ ล่ม เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.นั้น ในขั้นตอนการแสดงตนเป็นองค์ประชุมก่อนลงมติร่างข้อบังคับดังกล่าว มี สส.พรรคก้าวไกล แสดงตน 92 คน ไม่แสดงตน 56 คน แต่พอถึงขั้นตอนการลงมติที่ห่างจากขั้นตอนแสดงตนเป็นองค์ประชุมแค่ 2 นาที พบว่าเหลือ สส.พรรคก้าวไกล ลงมติแค่ 2 คน จาก 92 คนที่แสดงตน คำถามคือ ถ้าเป็น สส.พรรคอื่น อยู่ในห้องประชุมสภาฯ แล้วไม่แสดงตน หรืออยู่แสดงตนในห้องประชุมสภาฯ แต่ไม่ลงมติ คงโดนสารพัดแฮชแท็ก (Hashtag: #) ปั่นขึ้นมาจากกองเชียร์บางฝ่ายว่า #กูสั่งให้มึงแสดงตน #กูสั่งให้มึงลงมติ #ไม่อยากลงมติลาออกไป
แต่พอเป็นพรรคก้าวไกลทำ คนกลุ่มนี้กลับย่องย่อง การขอนับองค์ประชุมพร่ำเพรื่อ การอยู่ในห้องประชุมสภาฯ แต่ไม่แสดงตน หรืออยู่แสดงตนแต่ไม่ลงมติ เจตนาชัดว่าต้องการทำให้สภาฯ ล่มหรือไม่
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
ตกลงที่เคยบอกว่า สภาฯ ล่ม 1 ครั้ง สูญเงิน 8,291,945 บาท ถ้าฝ่ายตัวเองเป็นคนทำสภาฯ ล่มเสียเอง ไม่เป็นไรแล้วหรือ เสียหายเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรหรือ เชื่อว่าจากนี้ สส.รัฐบาลต้องการ์ดสูง ตั้งตนอยู่ในความพร้อมขั้นสูงสุดตลอดเวลา
การทำสภาฯ ล่ม อาจเป็นเรื่องสะใจของบางคน บางพรรค ที่ทำให้สภาฯ ล่มได้ แต่ถ้าเราดึงสติแล้วถอยกลับออกมา ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ไม่มีใครได้ประโยชน์ มีแต่เสียโอกาส
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
