









15 พ.ค.66 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย แพทองธาร ชินวัตร และเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พร้อมประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้ และแสดงท่าทีต่อแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล
นพ.ชลน่าน บอกว่าพรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง และยอมรับที่พรรคก้าวไกลเสนอตัวเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงเห็นด้วยกับการที่พรรคก้าวไกลจะเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมรัฐบาลตามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้แถลงไว้ ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล
ส่วนระยะเวลาในการหารือกันและรายละเอียดต่างๆ ใน MOU นพ.ชลน่าน บอกว่าให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกล ขอให้พรรคการเป็นจัดการ และหลังจากพรรคก้าวไกล สรุปข้อมูลและยื่นข้อเสนอมาแล้ว พรรคเพื่อไทยก็จะนำมาหารือภายในพรรคอีกครั้ง นพ.ชลน่าน ย้ำว่าเป็นหน้าที่พรรคก้าวไกล ในการรวบรวมเสียงโหวตนายกฯ เรามีหน้าที่แค่สนับสนุน
เมื่อถามถึงสูตรของพรรคก้าวไกล ที่หวังรวมคะแนนเสียงให้ได้ 309 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล สูตรนี้จะสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน มองว่า 309 เสียง สามารถเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งได้แน่นอน แต่การโหวตนายกรัฐมนตรีต้องเป็นไปตามกฎหมาย ใช้เสียง 376 เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาส่วนความเป็นไปได้ที่จะนำพรรคภูมิใจไทยมาร่วมนั้น นพ.ชลน่าน ย้ำว่าเป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และหากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปยังราบรื่นก็เป็นประโยชน์ของประชาชนที่ออกเสียงมา
ส่วนเงื่อนไขที่ไม่สามารถรวมกันได้ แม้ นพ.ชลน่าน จะอธิบายว่าต้องดูรายละเอียดของพรรคก้าวไกลในฐานะเป็นผู้เสนอประเด็นมาก่อน แต่คำตอบที่ดูเหมือนว่าจะชัดเจนที่สุด คือ คำตอบที่เศรษฐา ได้ตอบคำถามต่อสื่อต่างประเทศเป็นภาษาอังกฤษ ว่า หนึ่งในประเด็นที่อาจจะเป็นเงื่อนไขให้ไม่สามารถร่วมมือกันได้ ยกตัวอย่างเช่นการยกเลิกมาตรา 112 เพราะพรรคเพื่อไทยเห็นความสำคัญของการมีกฎหมายดังกล่าว
“วันนี้เป็นวันที่เราควรเฉลิมฉลองให้กับเสียงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และแสดงความยินดีกับ พรรคไกลที่ได้รับชัยชนะ รวมถึงนายพิธาที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และรัฐบาลที่เราจะจับมือร่วมกัน ประชาชนบอกเราว่า และเชื่อมั่นในประชาธิปไตยและต้องการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” เศรษฐา กล่าว
เช่นเดียวกับ แพทองธาร ที่ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนที่มั่นคง คือ ไม่สนับสนุนการยกเลิกมาตรา 112 แต่สนับสนุนให้เกิดการพูดคุยหารือในสภาฯ ส่วนกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้เยาวชนติดคุกพร้อมนำมาพูดคุยและรับฟัง และต้องเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่พูดคุยกับทางพรรคก้าวไกลด้วยว่าเพื่อไทยไม่สนับสนุนการยกเลิก
นอกจากนี้ แพทองธาร ยังเล่าถึงช่วงที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โทรมาหาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยดี แต่ไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดกัน เป็นการให้กำลังใจกันหลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ แพทองธาร ย้ำว่าเมื่อพรรคก้าวไกลได้รับเสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 เราต้องเคารพเสียงของประชาชน และพร้อมโหวตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล
ส่วนประเด็นการเดินทางกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แพทองธาร บอกว่าการจะกลับมาประเทศไทยของพ่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงเป็นไปตามกำหนดเวลาเดิมที่พ่อเคยระบุไว้ คือภายในเดือน ก.ค.
แพทองธาร ยังมองว่าการเลือกตั้งเหมือนกีฬามีผู้แพ้และผู้ชนะ อันดับ 2 ต้องมีความผิดหวังอยู่บ้าง เพราะเราคิดว่าเราจะเป็นอันดับ 1 แต่เราก็ยอมรับเพราะมันคือน้ำใจนักกีฬา อันดับ 1 เราแสดงความยินดีด้วย และเราก็เชียร์เพื่อประชาธิปไตยเพื่อประเทศชาติที่จะสามารถไปต่อได้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องของการเมือง ทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
“เราไม่ได้คิดว่าจะชนะครั้งต่อไปอย่างไร เอาชนะครั้งนี้นี่แหละ จะทำให้ประเทศก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างไรมากกว่า” แพทองธาร กล่าว
นพ.ชลน่าน บอกว่าพรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง และยอมรับที่พรรคก้าวไกลเสนอตัวเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงเห็นด้วยกับการที่พรรคก้าวไกลจะเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมรัฐบาลตามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้แถลงไว้ ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล
ส่วนระยะเวลาในการหารือกันและรายละเอียดต่างๆ ใน MOU นพ.ชลน่าน บอกว่าให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกล ขอให้พรรคการเป็นจัดการ และหลังจากพรรคก้าวไกล สรุปข้อมูลและยื่นข้อเสนอมาแล้ว พรรคเพื่อไทยก็จะนำมาหารือภายในพรรคอีกครั้ง นพ.ชลน่าน ย้ำว่าเป็นหน้าที่พรรคก้าวไกล ในการรวบรวมเสียงโหวตนายกฯ เรามีหน้าที่แค่สนับสนุน
เมื่อถามถึงสูตรของพรรคก้าวไกล ที่หวังรวมคะแนนเสียงให้ได้ 309 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล สูตรนี้จะสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน มองว่า 309 เสียง สามารถเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งได้แน่นอน แต่การโหวตนายกรัฐมนตรีต้องเป็นไปตามกฎหมาย ใช้เสียง 376 เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาส่วนความเป็นไปได้ที่จะนำพรรคภูมิใจไทยมาร่วมนั้น นพ.ชลน่าน ย้ำว่าเป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และหากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปยังราบรื่นก็เป็นประโยชน์ของประชาชนที่ออกเสียงมา
ส่วนเงื่อนไขที่ไม่สามารถรวมกันได้ แม้ นพ.ชลน่าน จะอธิบายว่าต้องดูรายละเอียดของพรรคก้าวไกลในฐานะเป็นผู้เสนอประเด็นมาก่อน แต่คำตอบที่ดูเหมือนว่าจะชัดเจนที่สุด คือ คำตอบที่เศรษฐา ได้ตอบคำถามต่อสื่อต่างประเทศเป็นภาษาอังกฤษ ว่า หนึ่งในประเด็นที่อาจจะเป็นเงื่อนไขให้ไม่สามารถร่วมมือกันได้ ยกตัวอย่างเช่นการยกเลิกมาตรา 112 เพราะพรรคเพื่อไทยเห็นความสำคัญของการมีกฎหมายดังกล่าว
“วันนี้เป็นวันที่เราควรเฉลิมฉลองให้กับเสียงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และแสดงความยินดีกับ พรรคไกลที่ได้รับชัยชนะ รวมถึงนายพิธาที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และรัฐบาลที่เราจะจับมือร่วมกัน ประชาชนบอกเราว่า และเชื่อมั่นในประชาธิปไตยและต้องการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” เศรษฐา กล่าว
เช่นเดียวกับ แพทองธาร ที่ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนที่มั่นคง คือ ไม่สนับสนุนการยกเลิกมาตรา 112 แต่สนับสนุนให้เกิดการพูดคุยหารือในสภาฯ ส่วนกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้เยาวชนติดคุกพร้อมนำมาพูดคุยและรับฟัง และต้องเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่พูดคุยกับทางพรรคก้าวไกลด้วยว่าเพื่อไทยไม่สนับสนุนการยกเลิก
นอกจากนี้ แพทองธาร ยังเล่าถึงช่วงที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โทรมาหาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยดี แต่ไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดกัน เป็นการให้กำลังใจกันหลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ แพทองธาร ย้ำว่าเมื่อพรรคก้าวไกลได้รับเสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 เราต้องเคารพเสียงของประชาชน และพร้อมโหวตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล
ส่วนประเด็นการเดินทางกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แพทองธาร บอกว่าการจะกลับมาประเทศไทยของพ่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงเป็นไปตามกำหนดเวลาเดิมที่พ่อเคยระบุไว้ คือภายในเดือน ก.ค.
แพทองธาร ยังมองว่าการเลือกตั้งเหมือนกีฬามีผู้แพ้และผู้ชนะ อันดับ 2 ต้องมีความผิดหวังอยู่บ้าง เพราะเราคิดว่าเราจะเป็นอันดับ 1 แต่เราก็ยอมรับเพราะมันคือน้ำใจนักกีฬา อันดับ 1 เราแสดงความยินดีด้วย และเราก็เชียร์เพื่อประชาธิปไตยเพื่อประเทศชาติที่จะสามารถไปต่อได้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องของการเมือง ทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
“เราไม่ได้คิดว่าจะชนะครั้งต่อไปอย่างไร เอาชนะครั้งนี้นี่แหละ จะทำให้ประเทศก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างไรมากกว่า” แพทองธาร กล่าว