



บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่ามีผู้บริหารและแกนนำพรรคหลายคนได้เดินทางมารอร่วมประชุมเกี่ยวกับแนวทางการจับมือกับพรรคก้าวไกลเพื่อตั้งรัฐบาล
หนึ่งในนั้น คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนร่วมประชุม โดยประเด็นสำคัญที่ นพ.ชลน่าน สื่อสารคือย้ำว่าพรรคเพื่อไทย ขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล แต่ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคลำดับสอง คงต่องรอดูว่าพรรคลำดับหนึ่ง จะมีท่าทีเข้าหาเราอย่างไร รวมถึงต้องรอดูกติกาการร่วมรัฐบาลใน MOU ของพรรคก้าวไกลก่อนว่าเป็นอย่างไร รวมถึงต้องรอดูเรื่องสัดส่วนของเก้าอี้รัฐมนตรีด้วย
แต่เมื่อถามว่าหากตกลงกันไม่ได้ ‘พรรคเพื่อไทย’ จะยอมเป็นฝ่ายค้านหรือไม่นั้น ประเด็นนี้ นพ.ชลน่าน ย้ำว่าต้องดูรายละเอียดในเงื่อนไข แต่เมื่อประชาชนให้ความไว้วางใจฝ่ายประชาธิปไตยอย่างล้นหลาม ประเด็นนี้จึงสำคัญกว่าการที่เราเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ถ้าไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ก็ต้องดูว่าทางออกคืออะไร ไม่ใช่ประกาศว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน
ขณะที่ท่าทีของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสของการพลิกขั้วไม่ร่วมมือกับรัฐบาลว่า ตอนนี้ชัดเจนว่าประชาชนเลือกฝ่ายประชาธิไตยแล้ว และฝ่ายค้านทำงานร่วมกันมานาน แต่ข้อสรุปต้องรอผลการหารือกับพรรคก่อน
เมื่อถามถึงประเด็นว่าต่อให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยร่วมมือกัน แต่คะแนนยังไม่ถึง 376 เสียง จำเป็นต้องหาพรรคที่สามมาร่วมด้วยหรือไม่ ประเด็นนี้ เศรษฐา บอกว่าไม่ทราบ แต่หากฝ่ายใดรวมกันแล้ว ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของ 500 เสียง ถือเป็นฉันทามติของประชาชน พร้อมแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ส.ว.ควรโหวตตามความต้องการของประชาชน ย้ำว่าตัวเองชัดเจนในเรื่องนี้มาตลอด
ก่อนขึ้นลิฟต์ เศรษฐา ยังยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และไม่ได้มีดีลลับอะไรกัน
เบื้องต้นมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทย จะแถลงผลการประชุมในเวลา 13.00 น.
หนึ่งในนั้น คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนร่วมประชุม โดยประเด็นสำคัญที่ นพ.ชลน่าน สื่อสารคือย้ำว่าพรรคเพื่อไทย ขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล แต่ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคลำดับสอง คงต่องรอดูว่าพรรคลำดับหนึ่ง จะมีท่าทีเข้าหาเราอย่างไร รวมถึงต้องรอดูกติกาการร่วมรัฐบาลใน MOU ของพรรคก้าวไกลก่อนว่าเป็นอย่างไร รวมถึงต้องรอดูเรื่องสัดส่วนของเก้าอี้รัฐมนตรีด้วย
แต่เมื่อถามว่าหากตกลงกันไม่ได้ ‘พรรคเพื่อไทย’ จะยอมเป็นฝ่ายค้านหรือไม่นั้น ประเด็นนี้ นพ.ชลน่าน ย้ำว่าต้องดูรายละเอียดในเงื่อนไข แต่เมื่อประชาชนให้ความไว้วางใจฝ่ายประชาธิปไตยอย่างล้นหลาม ประเด็นนี้จึงสำคัญกว่าการที่เราเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ถ้าไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ก็ต้องดูว่าทางออกคืออะไร ไม่ใช่ประกาศว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน
ขณะที่ท่าทีของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสของการพลิกขั้วไม่ร่วมมือกับรัฐบาลว่า ตอนนี้ชัดเจนว่าประชาชนเลือกฝ่ายประชาธิไตยแล้ว และฝ่ายค้านทำงานร่วมกันมานาน แต่ข้อสรุปต้องรอผลการหารือกับพรรคก่อน
เมื่อถามถึงประเด็นว่าต่อให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยร่วมมือกัน แต่คะแนนยังไม่ถึง 376 เสียง จำเป็นต้องหาพรรคที่สามมาร่วมด้วยหรือไม่ ประเด็นนี้ เศรษฐา บอกว่าไม่ทราบ แต่หากฝ่ายใดรวมกันแล้ว ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของ 500 เสียง ถือเป็นฉันทามติของประชาชน พร้อมแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ส.ว.ควรโหวตตามความต้องการของประชาชน ย้ำว่าตัวเองชัดเจนในเรื่องนี้มาตลอด
ก่อนขึ้นลิฟต์ เศรษฐา ยังยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และไม่ได้มีดีลลับอะไรกัน
เบื้องต้นมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทย จะแถลงผลการประชุมในเวลา 13.00 น.