เบื้องหลัง 9 ทีม สื่อสาร 'เพื่อไทย' คนละ ‘นาย’ สั่งไม่ได้ - ต้องฟัง ‘ใคร’ ?

3 ธ.ค. 2567 - 13:29

  • ชำแหละ ‘ทีมหลังบ้าน’ ที่ทำหน้าที่ ‘สื่อสาร’ พรรคเพื่อไทย พบว่ามี 9 ทีมด้วยกัน ต่างมี ‘หัวหน้าทีม-เจ้านาย’ คนละคน เหตุที่มีทีมจำนวนมาก เพราะ ‘เพื่อไทย’ เป็น ‘พรรคกงสี’ ทำให้แต่ละกงสี ส่งคนของตัวเองเข้ามา

  • เกิดวัฒนธรรม ‘ปกป้องนาย-อวยนาย’ มากกว่า ‘สื่อสารสังคม’ ยิ่งทำให้ นายกฯ ต้องเผชิญหน้า กระแสวิจารณ์หนักขึ้น คำถามสำคัญ คือ 9 กลุ่มทีมสื่อสารฯ ‘สนับสนุนข้อมูล’ และ ‘บรีฟงาน’ กันอย่างไรบ้าง

Pheuthai-Party-Communication-SPACEBAR-Hero.jpg

เรียกว่า ‘ผิดฟอร์ม’ สำหรับ ‘รบ.เพื่อไทย’ ที่เผชิญปัญหา ‘การสื่อสาร’ ในสภาวะ ‘วิกฤตน้ำท่วม’ ตั้งแต่เมื่อครั้ง ‘ภาคเหนือ’ มาถึง ‘ภาคใต้’ ในยุคที่ ‘การสื่อสาร’ เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ในยุคที่ ‘โซเชียลมิเดีย’ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมี ‘อิทธิพลทางความคิด’ ของสังคม

แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ ต้องเผชิญ เพราะปัญหาโดย ‘เนื้อแท้’ อยู่ที่ ‘ทีมหลังบ้าน’ ที่ทำหน้าที่ดูแล ‘การสื่อสาร’ พบว่ามี ‘หลายทีม-หลายขั้วอำนาจ’ ทำให้การสื่อสาร ‘ติดขัด’ เพราะมีการ ‘ใช้อำนาจ’ หลายทาง จึงไม่มีเอกภาพเกิดขึ้น อีกทั้งบางครั้งการสื่อสารกลับมีเป้าหมายเพื่อ ‘เอาใจนาย’ ที่คุม ‘พรรคเพื่อไทย’ เท่านั้น

หนึ่งในสิ่งที่ปรากฏคือ ‘ลูกพรรค’ จะทราบว่า ‘นายกฯอิ๊งค์’ ใช้ ‘อินตราแกรม’ ด้วยตัวเอง เมื่อลูกพรรคโพสต์ IG Stories ก็จะแท๊ก ‘ingshin21’ เพื่อให้ นายกฯ ได้รับแจ้งเตือน-รับทราบ และทำการ ‘Reply Story’ เพื่อแชร์ต่อ ซึ่งหลายโพสต์ที่ นายกฯ โพสต์เอง หรือ Reply มา ก็เกิดกระแสวิจารณ์หนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาชำแหละ ‘ทีมหลังบ้าน’ ที่ทำหน้าที่ ‘สื่อสาร’ ของพรรคเพื่อไทย จะพบว่ามี 9 ทีมด้วยกัน ซึ่งแต่ละทีมมี ‘หัวหน้าทีม-เจ้านาย’ คนละคนกัน เหตุที่มีทีมจำนวนมาก เพราะ ‘พรรคเพื่อไทย’ เป็น ‘พรรคกงสี’ ทำให้แต่ละกงสี ส่งคนของตัวเองเข้ามามีบทบาท ทำให้ ‘สายสื่อสาร’ ภายในพรรค พันกันเป็นเส้นด้าย จนหา ‘ต้นทาง-ปลายทาง’ ไม่เจอ

1.กลุ่มแคร์ ทีมที่ปรึกษานายกฯ บ้านพิษณุโลก นำโดย ‘หมอเลี้ยบ’นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่ง นายกฯ จะไปร่วมวงโต๊ะกลม ‘ทีมที่ปรึกษาบ้านพิษฯ’ ตามวงรอบ

2.ทีม ‘นาตาชา’ ทีมสื่อสารส่วนตัว ที่อยู่กับ ‘แพทองธาร’ ตั้งแต่ก่อนเป็น ‘หัวหน้าเพื่อไทย’ ก่อนเปิดตัวที่ จ.ขอนแก่น ได้ไม่นาน ทำหน้าที่จัดเวที-อีเวนต์พรรค

3.ทีม ‘เพื่อไทยอคาเดมี’ คนรุ่นใหม่ที่รับเข้ามา 10 กว่าคน ช่วง ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯ ทำข้อมูลให้ สส. อภิปรายในสภาฯ 

4.อดีตกลุ่ม ‘พิธีกร’ ช่องโทรทัศน์ย่านวิภาวดีฯ ซึ่งในยุค ‘นายกฯ เศรษฐา’ บางคนสามารถติดต่อตรงได้เลย

5. บุคคลจากเครือธุรกิจ ‘ตระกูลชินวัตร’ ที่นายใหญ่ ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ จัดหามา ที่เป็นรู้กันใน ‘เพื่อไทย’ และ ‘วงรอบนอก’ เพราะเริ่มมีการพูดถึงชื่อนี้กัน 

6. กลุ่ม ‘บิ๊กบอส อ.’ ดูแลการสื่อสารพรรค ตั้งแต่ยุค ‘นายกฯยิ่งลักษณ์’ ที่ความเชี่ยวชาญในการใช้โซเชียลฯ ผ่านการตั้งเพจต่างๆ ที่เป็น ‘เพจระดับตำนาน’ ยุคเมื่อ 10 ปีก่อน ใช้ในการสื่อสารกับ ‘คนรุ่นใหม่’ ยุคนั้น

7. ‘ณัฐวุมิ ใสยเกื้อ’ ที่ปรึกษาของนายกฯ ที่ดูแลเรื่องการสื่อสาร – ที่มีการมองว่ามีความเชี่ยวชาญเรื่อง ‘อารมณ์สังคม’ ที่จะวางท่าที-คำพูด แต่ละห้วงเวลาให้กับนายกฯ

8. ‘จิรายุ ห่วงทรัพย์’ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (โฆษกรัฐบาล) 

9. อักษรย่อ ส. และ ว. ทำหน้าที่ประสาน-เชื่อมสัมพันธ์สื่อ อยู่มาตั้งแต่ยุค ‘นายกฯยิ่งลักษณ์’

ซึ่งทั้ง 9 ข้อ ยังไม่นับ ลูกพรรค ที่ใช้โซเชียลฯส่วนตัว และมีผู้ติดตามจำนวนมาก

ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ‘นายกฯอิ๊งค์’ ถูกวิจารณ์ การให้สัมภาษณ์-กล่าวสปีชบนเวทีหลายครั้ง คำถาม คือ 9 กลุ่มข้างต้น  ‘สนับสนุนข้อมูล’ และ ‘บรีฟงาน’ กันอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ บุคคลจาก 9 ทีมข้างต้น จะออกมา ‘ปกป้องนายกฯ’ เมื่อเกิดกระแสวิจารณ์ขึ้นแล้ว ในลักษณะ ‘ปกป้องนาย’

การที่มีกลุ่มต่างๆ มากขนาดนี้ เกิดมาก ‘เพื่อไทย’ ชอบแก้ปัญหาด้วยการ ‘เพิ่มคน’ เข้ามาเรื่อยๆ ตามที่ ‘นาย’ แต่ละคนเห็นสมควร หากจะ ‘ยกเครื่อง’ การสื่อสาร ‘เพื่อไทย’ ต้องเริ่มจากการ ‘สังคายนา’ ทีมการเสื่อสารเหล่านี้ เพื่อให้มี ‘นายคนเดียว’ เพื่อสร้าง ‘เอกภาพ’ ให้ไปทิศทางเดียวกัน

info_เบื้องลึก 9 ทีม สื่อสาร 'เพื่อไทย'.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์