ภายหลังมีกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยต่อรองพรรคเพื่อไทยให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ
เรื่องนี้ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัมภาษณ์ข้ามประเทศมาแล้วว่าไม่จริง จึงต้องรอให้ อนุทินเดินทางกลับจากต่างประเทศมาประเทศไทย และให้ตอบเองดีที่สุด
ผมไม่สามารถตอบในเรื่องนี้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพรรคภูมิใจไทยได้พูดคุยกันหรือยังว่าจะต่อรองอย่างไร? พิพัฒน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่กรรมการบริหารพรรค และต้องรอหัวหน้าพรรคกลับมาว่าจะเอาอย่างไร ต้องอยู่ในการประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรค ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค
ส่วนเมื่อถามถึงเงื่อนไขใดที่รับได้หรือรับไม่ได้ในการปรับ ครม.? พิพัฒน์ กล่าวว่า “ต้องคุยกัน การจะรับได้หรือไม่ได้ ต้องหารือกัน ซึ่งดุลยพินิจทั้งหมดอยู่ที่กรรมการบริหารพรรค เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีทางออก”
เมื่อถามว่า มองข่าวที่ออกมาเป็นความตั้งใจกดดันให้พรรคภูมิใจไทยคืนกระทรวงมหาดไทยให้เพื่อไทยหรือไม่? พิพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ทราบเลย เพราะทุกอย่างเห็นในหน้าสื่อทั้งหมด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรผมยังไม่ทราบ
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรคเพื่อไทยยังบริหารกระทรวงเศรษฐกิจไม่ดีพอ แล้วยังมาเอากระทรวงมหาดไทยอีก? พิพัฒน์ กล่าวว่า มีการพูดผ่านสื่อ พูดกันไปกันมา แต่ทางพรรคภูมิใจไทยไม่เคยให้สัมภาษณ์ในลักษณะนั้น และโดยส่วนใหญ่, หัวหน้าพรรคคนเดียวที่จะให้สัมภาษณ์ พวกเราคงจะต้องยกหน้าที่ตรงนี้ให้กับหัวหน้าพรรค
ไม่ขอคอมเมนต์ว่า กระทรวงมหาดไทยอยู่กับพรรคภูมิใจไทยแล้วดีหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเสียกระทรวงมหาดไทยไป จะต้องแลกกับกระทรวงไหน พิพัฒน์ กล่าวว่า “เรื่องนี้ยังไม่พูดคุยในกรรมการบริหารพรรค ทุกอย่างต้องตามมติของพรรค”
รอผลสอบซื้อตึก ‘Sky9’ ส่งกลับจาก ‘อนุทิน’ ย้ำเรื่องเกิดก่อนมาเป็น ‘รมว.แรงงาน’
ส่วนกรณี รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน เผยเอกสารบทสรุปการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีซื้อตึก Sky9 ผ่านโซเชียลมีเดีย
รมว.แรงงาน ชี้แจงว่า เรื่องนี้ผมได้ส่งเรื่องไปที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหาข้อเท็จจริง ซึ่งได้ข่าวว่าการหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดนี้ใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว
ทั้งนี้ ต้องรอให้ อนุทินแทงหนังสือกลับมาที่กระทรวงแรงงานว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ได้เห็นข่าวในหลายหน้าสื่อ มีข้อมูลหลุดออกมา แต่ผมยังไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนั้น จึงไม่ทราบว่าข้อมูล ข้อเท็จ หรือข้อจริง แต่หากมีเรื่องที่ส่งมาจากอาจารย์อนุทิน เราก็จะปฏิบัติต่อจากนั้นอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งหากข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อาจมีการตั้งคณะกรรมการมาอีกชุดหนึ่งเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องดูท่าทีอีกครั้งหนึ่งว่าสรุปแล้วผลการสอบเป็นอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงประเด็นที่ รักชนก เปิดข้อมูลว่าตึกนั้นมีราคาแพงเกินไป? พิพัฒน์ กล่าวว่า “แพงเกินไปหรือไม่ ต้องกลับไปดูที่ผู้ประเมินขณะนั้นประเมินอย่างไร เพราะเป็นเหตุการณ์ก่อนที่ผมจะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงต้องกลับไปดูที่กระทรวงว่าในขณะนั้นใช้บริษัทไหนเป็นผู้ประเมิน และใช้ผู้ประเมินกี่บริษัท”