เมื่อ ‘เศรษฐา’ เยือน ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’

24 ก.พ. 2567 - 08:35

  • ‘เศรษฐา’ เยือน ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ เยี่ยม ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เผย ชอบ รถตำแหน่งสีเงินคันใหม่

  • พร้อมยินดี ‘สมเด็จฮุน เซน’ ส่งเทียบเชิญ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เยือนกัมพูชา เชื่อสัมพันธ์สองประเทศดีขึ้น มั่นใจ ไม่มีอะไรเสียหาย

  • ขณะลุยดูแฟลตทหารบ่ายนี้ จ่อ ลงพื้นที่ 26 ก.พ. ดูบ้านพักทหารเรือ-ทหารอากาศ ลั่น ยกระดับชีวิตให้ดี

photo-srettha-visit-taksin-24feb24-SPACEBAR-Hero.jpg

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.15 น.วันที่ 24 ก.พ. ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบกับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพัก นานเกือบ 2 ชั่วโมง โดยระบุว่า วันนี้ก่อนมาเข้าพบ ส่วนตัวได้โทรศัพท์ไปสอบถามอธิบดีกรมคุมประพฤติว่า สามารถมาเยี่ยมได้ปกติหรือไม่ เพราะเป็นวันเสาร์ เมื่อช่วงเช้า ได้ติดตามงานอยู่ที่บ้าน ก็เลยคิดไว้ว่า จะมาเยี่ยมเยียนท่าน ก่อนจะไปภารกิจตรวจเยี่ยมบ้านพักข้าราชการทหาร และเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง​ 

เมื่อถามว่า ‘ทักษิณ’ ได้ให้คำแนะนำการทำงานหรือไม่​ นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดจาอะไรกันมากขนาดนั้น เพราะท่านยังมีอาการเจ็บที่แขนอย่างที่เห็น แต่เริ่มขยับได้บ้าง และเชื่อว่าอาการคงดีขึ้น เพราะมีความสุขที่ได้อยู่บ้าน หลังไม่ได้อยู่มานาน 17 ปี ทำสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดี อารมณ์ดี และ ‘ทักษิณ’ นายกรัฐมนตรีที่มีความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีความรู้สะสมมา

เมื่อถามว่า ทักษิณ​ มีความกังวล หรือห่วง การทำงานหรือไม่​ ‘เศรษฐา’ ระบุว่า ไม่ได้ห่วงอะไร ไม่ได้บอกอะไร 

“ไม่ได้มาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของผม ไม่มี แต่ได้ให้กำลังใจ และบอกว่า ตัวนายทักษิณอายุ 74 ปีแล้ว แก่กว่าตนเอง 1 รอบ พร้อมระบุว่า ท่านทำงานหนักมา ก็ป่วย นายกฯ เองก็ต้องดูแลสุขภาพด้วยเหมือนกัน เพราะทำงานหนัก และชี้ให้เห็นว่า ชีวิตมีมากกว่าการทำงาน​ มาทำงานตรงนี้แล้ว เราเสียสละ มีความหวังของพี่น้องประชาชนเยอะ ก็ต้องทำงานให้หนัก อันนี้เป็นความคิดของผม แต่ทักษิณก็บอกให้ผมพักบ้าง เห็นแต่ข่าวทำงานหนักเหลือเกิน” เศรษฐา กล่าว

ส่วนมีการพูดคุยเรื่องการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า​ ไม่มี เรื่องพรรคร่วมไม่มีอยู่แล้ว​ 

“เรื่องการเมือง ท่านเองก็ทราบดีอยู่แล้วว่า ผมสนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็มีการต่อสายพูดคุยกัน เพราะในสัปดาห์หน้า ส่วนตัวจะเดินทางไปประชุม อาเซียนออสเตรเลีย ที่นครเมลเบิร์น​ออสเตรเลีย ก็จะพูดคุยกัน​ ซึ่งทักษิณก็บอกว่า สนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเช่นกัน และรู้จักมาก่อนผมอีก” เศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีโอกาสให้นายทักษิณ มาช่วยงานรัฐบาลหรือไม่ เศรษฐา ระบุว่า​ ยังไม่ได้พูดคุย วันนี้ขอให้ท่านรักษาตัวของท่านเองก่อนดีกว่า​ จุดมุ่งหมายหลักคือให้ ร่างกายของท่านกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ ดีกว่า กลับมาใช้ชีวิตปกติได้​

เมื่อถามว่า หากดูจากสภาพร่างกายของทักษิณ​ คาดว่า ประมาณกี่เดือน​ กว่าที่ทักษิณจะหายเป็นปกตินายกรัฐมนตรีถึงกับสอบเป็นเสียงแข็งว่า “ผมไม่ใช่หมอ” ก่อนที่จะตอบเสียงอ่อนลงว่า “ผมก็ถาม ท่านก็บอกว่าดีขึ้น ไหล่ก็พอขยับได้ ผมก็เห็นสีหน้าท่านยิ้มแย้ม แจ่มใสที่ได้กลับมาบ้าน ก็ไม่อยากระราบระล้วง ถามว่าท่านเจ็บตรงไหนอย่างไร ก็เหมือนคนป่วย”

photo-srettha-visit-taksin-24feb24-SPACEBAR-Photo01.jpg

ส่วนมีโอกาสจะตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษาหรือไม่ เศรษฐา​ ระบุว่า ไม่ได้พูดคุย ไม่มีโอกาสได้คุยตรงนี้ ไม่ได้คุยการตั้ง หรือจะมาช่วยบ้านเมืองอย่างไร ไม่มีเลย แต่ท่านก็มีความเป็นห่วงบ้านเมือง บอกว่าช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อยนะ ปัญหาเศรษฐกิจมันเยอะ ส่วนตัวก็ตอบ “ครับ ก็ยังทำงานต่อไป ไม่ได้หนักใจอะไร เพียงแต่ขอให้ท่านรักษาร่างกายให้ดี”

ส่วนที่ทักษิณมีความสามารถในการบริหารประเทศ จะมีโอกาสมาช่วยบ้านเมืองอย่างไร​ เศรษฐาระบุว่า “เป็นเรื่องของท่าน แต่ผมมั่นใจว่าเรื่องสำคัญที่สุดของท่าน คือเรื่องสุขภาพ คนเราเรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าเรื่องสุขภาพ มีเงินมีอำนาจมากขนาดไหน ถ้าสุขภาพไม่ดีก็ไม่มีความสุข ช่วงเวลานี้ท่านคง โฟกัสที่เรื่องสุขภาพ ผมก็ฟังจากที่ท่านพูดว่า อยากกลับมาเป็นคนปกติ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างน้อยไม่แข็งแรงเหมือนสมัยก่อน แต่ก็เชื่อว่าอยากจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติกับครอบครัว และในวันพรุ่งนี้ เห็นว่าครอบครัว ก็จะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน ผมก็ดีใจที่ท่านมีความสุขดี ซึ่งทักษิณเอง ก็รับประทานได้เพียงอาหารอ่อน ทานได้เพียงก๋วยเตี๋ยว แต่ไม่ใช่กินได้แต่น้ำซุป”

ส่วนจะมีโอกาสจะเข้ามาปรึกษาอีกเรื่อยๆหรือไม่ นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า​ หากมีโอกาสก็จะเดินทางมา ซึ่งแล้วแต่โอกาสและจังหวะ​ โดยในช่วงสัปดาห์หน้า​ 2 มีนาคม​ ก็จะลงพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด​ และกาฬสินธุ์​  รวมไปถึงจะไปฟังพระสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิง​ศพ​ ภรรยาของอนันต์  ปัญญารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็คงได้พบกับท่าน​ และวันนี้เข้าเฝ้า​ฯ​ ไม่แน่ใจว่าจะได้พบกับพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่​ ถ้ามีโอกาสได้เจอ​ คงได้คุยกัน​ หากมีข้อกังวลตรงไหนก็จะรับฟังจาก อดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่าน

“ผมเชื่อว่าอดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีไหนก็ตาม ตนเชื่อว่าทุกท่านก็มีความหวังดีกับบ้านเมือง และทุกเรื่องที่แนะนำมาจะทำได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของบริบทในปัจจุบัน มีขีดจำกัดต่างกันไปต่างสมัยกัน แต่เรื่องนี้เราต้องทำใจกว้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมนูอาหารมื้อกลางวันในวันนี้ ทักษิณ​ ได้รับประทานก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้ง ส่วนเศรษฐารับประทานข้าวซอย

photo-srettha-visit-taksin-24feb24-SPACEBAR-Photo04.jpg

นอกจากนี้ เศรษฐา กล่าวถึงการเปลี่ยนมาใช้รถประจำตำแหน่งคันใหม่ รถยนต์ All NEW Lexus LM 350h Executive 4-Seater สีเงิน Sonic Titanium  ทะเบียน ‘สร 30 กรุงเทพมหานคร’ ในการเดินทางเข้าพบทักษิณว่า “เหมือนกับคันเดิมทุกอย่าง ยกเว้นสี และส่วนตัว ชอบสีเงินนี้มากกว่า”

photo-srettha-visit-taksin-24feb24-SPACEBAR-Photo02.jpg

เศรษฐา ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน หรือสมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เชิญ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปเยือนกัมพูชาในวันที่ 18-19 มี.ค.นี้ ว่า ความสัมพันธ์ของสองประเทศเป็นไปได้อย่างเดียว คือดีขึ้น เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า แขกคนสำคัญที่มาเยี่ยม ทักษิณ คือ สมเด็จฮุนเซน ขณะที่ แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศ ทั้งระดับผู้นำและประชาชน เชื่อว่า ไม่มีอะไรเสียหายแน่นอน และส่วนตัวก็ให้การสนับสนุนและยินดีด้วย

photo-srettha-visit-taksin-24feb24-SPACEBAR-Photo03.jpg

เศรษฐา ยังให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ตรวจบ้านพักทหารว่า ยังไม่ทราบว่าจะเป็นจุดใด ก็คงใกล้ๆแถวนี้ เนื่องจาก มีภารกิจเฝ้าฯ รับเสด็จในช่วงเวลา 17.00 น. วันเดียวกันนี้ โดยจะใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เมื่อไปดูแฟลตตำรวจมาแล้วก็ต้องไปดูฝ่ายทหารด้วย และในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะไปดูอาจจะเป็นบ้านพักทหารเรือ หรือทหารอากาศ ขณะนี้ทีมงานกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะไปที่ใด 

นายกฯ กล่าวว่า ต้องการไปดูความเป็นอยู่ของทหารชั้นผู้น้อย อยากให้ทหารชั้นผู้น้อยมีความอยู่ที่สมศักดิ์ศรี จะได้รู้ว่าในอนาคตถ้ามีความทะเยอทะยาน และมีความตั้งใจทำงาน จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีรองรับอยู่ในอนาคจ ไม่ใช่ว่าจะใช้งานอย่างเดียว ต้องดูแลด้วย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์