10 เมษายน 2567 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม 2516 กลุ่มภาคการเมือง และอดีตผู้เคลื่อนไหว ในการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และญาติผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เดือนเมษายน - พฤษภาคมปี 2553 ได้จัดกิจกรรม 'รำลึก 14 ปี วีรชน ปี 2553' นำโดย แกนนำกลุ่มนปช. อาทิ ธิดา ถาวรเศรษฐ , นายแพทย์เหวง โตจิราการ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. โดยเริ่มจากพิธีกรรมทางศาสนา อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้วายชนม์ ก่อนจะมีการวางพวงหรีด เพื่อรำลึกถึงการจากไปของวีรชนปี 2553
'ธิดา ถาวรเศรษฐ' อดีตแกนนำกลุ่มนปช . ในฐานะแกนนำกลุ่มคปท. ได้กล่าวว่า ขณะนี้เป็นอีกวาระหนึ่งที่ได้มีการจัดการวันครบรอบ 14 ปี ซึ่งเป็น 14 ปีที่ญาติวีรชนและประชาชน ต้องการทวงความยุติธรรม ได้แต่เรียกหาว่าความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ต่างคนก็บอกว่าจ่ายเงินไปแล้วก็จบ มันเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นคดีแพ่ง เอาเงินฟาดหัวแล้วจบ แต่นี่คือการต่อสู้ของประชาชน ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่งแต่เพื่อประเทศชาติ นปช.ต้องการต่อสู้เผด็จการ
"นปช.บางส่วนตอนหลังเลิกต่อต้านเผด็จการ จึงทำให้องค์กรนปช.ไม่สามารถดำรงอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ประชาชนไทยจะเลิกต่อสู้แล้ว มีบางคนตั้งคำถามว่าคนรุ่นใหม่ไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าคนรุ่นใหม่นี่แหละคือคนเสื้อแดงตัวจริง อย่างกิจกรรมรำลึก ที่แสดงให้เห็นว่าเสื้อแดงถูกส่งต่อให้กับคนรุ่นใหม่แล้ว"
ทั้งนี้ ธิดา ยืนยันว่าการต่อสู้เมื่อ 14 ปีที่แล้วมวลชนคนเสื้อแดงไม่ได้ออกมาต่อสู้เพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นการออกมาต่อสู้กับการรัฐประหาร โดยส่วนใหญ่เป็นประชาชนชนชั้นรากหญ้า (ไพร่) ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้รับการสนับสนุนจากฝากฝั่งวิชาการและสื่อมวลชนอย่างเต็มที่ จึงต้องขอขอบคุณคนรุ่นใหม่ที่ทุกวันนี้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และยังไม่ลืมการต่อสู้ของคนเสื้อแดง
"คุณจะใส่เสื้อแดง หรือไม่ใส่เสื้อแดงมันไม่สำคัญ แต่ใครใส่เสื้อแดงแล้วไม่มีจิตวิญญาณของนักต่อสู้นั่นก็ไม่ใช่คนเสื้อแดง และประชาชนต้องไม่เป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองใดๆ" ธิดา ถาวรเศรษฐ กล่าว
สำหรับบุคคลสำคัญจากภาคการเมืองที่เข้าร่วม ในส่วนของพรรคก้าวไกลมี ชัยธวัช ตุลาธน ,อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล , ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ , ปิยรัฐ จงเทพ และ ชลธิชา แจ้งเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปีนี้ 'พรรคเพื่อไทย' ได้มีการส่งพวงหลีดมา โดยมีบุคคลากรของพรรค อย่าง กอบแก้ว พิกุลทอง เป็นตัวแทนในการมอบ นอกจากนี้ยังมีพวงหลีดของ จาตุรนต์ ฉายแสง และ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ด้วย ซึ่งในจังหวะที่มีการอ่านรายชื่อ กลุ่มคนเสื้อแดง ได้มีการส่งเสียงโห่ร้องในลักษณะของการเสียดสี มีมวลชนบางส่วน ได้ตะโกนแสดงความไม่พอใจ ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีการจับมือร่วมรัฐบาลกับอดีตพรรคร่วมฯ ในสมัย 'รัฐบาลพลเอกประยุทธ์' ด้วย
แต่ขณะที่สมาชิกของพรรคก้าวไกล รวมถึงกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ อาทิ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุแก๊สวางพวกหรีด กลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการเปร่งเสียง ระบุข้อความว่า 'เผด็จการจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ' พร้อมโห่ร้องต้อนรับอย่างยินดี
ด้าน 'ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์' สส.กทม พรรคก้าวไกล ได้กล่าวถึง การร่วมต่อสู้ของตนเองกับมวลชนคนเสื้อแดงในอดีต พร้อมยืนยันว่า วันนี้ในฐานะสส. ก็พร้อมที่จะผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมในอดีต รวมถึงนักเคลื่อนไหวทางการเมืองในปัจจุบัน และส่วนตัวเชื่อมั่นว่า การค้นหาความจริงคือส่วนหนึ่งของการเยียวยาจิตใจผู้เสียชีวิต
"แม้วันนี้จะเป็น สส.แต่ก็ไม่เคยลืมว่ามาจากไหน ไม่เคยลืมความเป็นเสื้อแดง วันหนึ่งเราก็อยากเห็นป้ายชื่อผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ปี 2553 อยู่ในแผ่นป้ายไม่ใช่อยู่แค่บนฟิวเจอร์บอร์ด ดังนั้นการค้นหาความจริงคือสิ่งที่เราต้องผลักดันให้เกิดขึ้นต่อไป" ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กล่าว
ขณะที่ 'ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ' สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวว่า ผมยอมรับว่ามีหลายคนไม่ยินดีต่อการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย แต่ในฐานะตัวแทนพรรค ขอยืนยันว่าพรรคยังคงยืนเคียงข้างกับประชาชนอยู่ตลอดไป ส่วนตัวเป็นลูกหลานของคนเสื้อแดงเคยร่วมต่อสู้กับขบวนการมาขอยืนยันว่ายังอยู่ตรงนี้
ในส่วนของการผลักกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น พรรคยังมีอุปสรรคและความยากลำบาก ถูกตราหน้าในการออกกฎหมาย เราถูกนิยามว่าเป็นผู้เสนอร่างนิรโทษกรรมสุดซอย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคยังไม่สามารถนำเสนอกฎหมายนิรโทษฯ เข้าสู่รัฐสภาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคจะไม่เห็นด้วย
ตอนนี้อยู่ในกระบวนการศึกษา เพื่อก้าวข้ามปัญหาและความขัดแย้งเก่าๆ เป็นกระบวนการเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับผู้ถูกกระทำในหลายๆ กรณี
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างการกล่าว กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงหลายคนได้แสดงความไม่พอใจออกมา บางคนมีการชูป้าย และตะโกนพูดถึงกรณีการตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทยด้วย
ขณะที่ 'ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' อดีตแกนนำกลุ่มนปช. ได้กล่าวว่า งานรำลึกในปีนี้มีบรรยากาศแตกต่างไปจากปีที่ผ่านมา รวมถึงคนเสื้อแดงที่อาจจะมีความคิดทางการเมืองที่ต่างกัน ส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกของพี่น้องประชาชนทุกคน
ขอขอบคุณทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะ ตัวแทนจากพรรคการเมืองที่เข้าร่วม (อยู่ขณะนี้) ยินดีที่ ชนินทร์ (รุ่งธนเกียรติ) และศศินันท์ (ธรรมนิฐินันท์) ที่เคยร่วมต่อสู้กับขบวนการนปช. ทั้งสองคนนี้คือความหวังของคนเสื้อแดง ในฐานะ สส. และแม้วันนี้ใครจะสนับสนุนพรรคใดก็ตาม ตนเองก็ไม่ได้มองเป็นเรื่องผิด เพราะทุกคนมีสิทธิ์ ในการเลือกและศรัทธาต่อพรรคการเมือง ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ
ทั้งนี้ ณัฐวุฒิ ยืนยัน ว่าตนเองสนับสนุนกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมือง ที่รวมถึงคดีมาตรา 112 ด้วย พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า การต่อสู้คนเสื้อแดงไม่มีคนเสื้อแดงคนไหนลืมลง ในค่ำคืนที่โหดร้ายแบบนั้นและ 14 ปีนี้ ไม่มีคนเสื้อแดงคนไหนไม่เจ็บไม่ปวด
