ส่งฝ่ายกฎหมายเช็คบิล ‘โฆษก พปชร.’

31 ต.ค. 2567 - 04:43

  • ‘ภูมิธรรม’ ส่งฝ่ายกฎหมายเช็คบิล ‘โฆษก พปชร.’ หลังปูดอักษรย่อ คนเพื่อไทยเอี่ยว ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ ท้าเปิดชื่อส่งหลักฐาน ขอ อย่าจินตนาการเบี่ยงเบนประเด็นตัวเอง

  • ยัน เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่แตะ ม.112 ไม่ทำให้เสียมวลชน ย้ำ ต้องรักษาจุดยืนของพรรคร่วม

  • วอนอย่าดรามา หลัง ครม.ให้สัญชาติผู้อพยพ 4.8 แสนคน ย้ำทุกอย่างมีกระบวนการกฎหมาย หากมองทุกอย่างเป็นปัญหาจะห่อเหี่ยว

phuethai_palangpracharat_31oct2024_SPACEBAR_Hero_020ba5bce9.jpg

ภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เตรียมพิจารณาดำเนินคดี พล.ต.ท.ปิยะ​ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่กล่าวหาพาดพิงบุคคลภายในพรรคเกี่ยวข้องกับคดี​ ‘ดิ​ไอคอน​ กรุ๊ป​’ ว่า​ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย​ คงต้องพิจารณา​ เพราะช่วงนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ แบบไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง และหลายเรื่องเข้าข่ายให้ร้ายป้ายสี หากเกิดความเสียหายก็ต้องฟ้องร้องกัน เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน เพราะเวลานี้คนที่หยิบเรื่องมาสร้างประเด็น โดยไม่มีฐานข้อเท็จจริง มีหลายส่วนมาก ตนคิดว่าฝ่ายกฎหมายต้องไปดูในรายละเอียด อีกทั้งยังมีการกล่าวหาพรรคหลายเรื่อง อย่างเช่น เรื่องการขายชาติ และหลายเรื่องยิ่งกว่าจินตนาการ ดังนั้น หากมีหลักฐานให้เอ่ยชื่อผู้เกี่ยวข้องมาเลย และดูแล้วที่เปิดเผยเป็นอักษรย่อ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยโดยตรง แต่ก็มีบางคน ที่ได้มีการชี้แจงไปแล้ว เช่น​ อักษรย่อ​ ม. ซึ่ง มนพร​ เจริญศรี​ รมช.คมนาคม​ ชี้แจงไปแล้วว่า ดำเนินการตามหน้าที่​ หรืออีกคนที่เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ลาออกไปนานแล้ว​ เอามาโยงกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้ อย่าเอาทุกอย่างเป็นการเมือง ไม่มั่นใจว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นของตัวเองหรือไม่ จึงอยากให้พิจารณาให้ถ่องแท้ อะไรที่เกินเลยไป ก็ต้องว่ากันตามกระบวนการกฎหมาย

เมื่อถามว่า เรื่องขายชาติก็ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าเป็นการเอาคืนที่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ร่วมรัฐบาล จึงออกมาโจมตีพรรคเพื่อไทยอย่างหนัก ภูมิธรรม​ รีบออกตัวก่อนว่า​ ไม่ได้บอกว่าออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ แต่มองว่า มีการจินตนาการกันไปมาก หากเกี่ยวพันกับใครคนนั้นต้องรับผิดชอบ ส่วนจะเป็นการเอาคืนของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ไม่ทราบ ขอให้ไปดูข้อเท็จจริง​ดีกว่า เราอยู่กับข้อเท็จจริง เราไม่กล่าวหาหรือโยนอะไรไปให้ใคร ใครพูดมาแล้วเกี่ยวข้องกับใคร แล้วหากฝ่ายกฎหมายดูข้อเท็จจริงนั้นคลาดเคลื่อน ก็ดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วนจะมีการพูดคุยกับบุคคลในพรรคที่ถูกพาดพิงหรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่ารายละเอียดที่ถูกกล่าวหานั้นคือ อะไรเป็นการพูดเลื่อนลอย ไม่ชอบเอาข่าวโคมลอย หรือข่าวเลื่อนลอย มาทำงาน เพราะงานทุกวันนี้ก็เยอะอยู่แล้ว และที่มีการพูดถึงกลุ่มสามมิตรซึ่งอาจเชื่อมโยงกับนักการเมืองอักษรย่อ ส.​นั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้ไปว่ากันเอง เกี่ยวข้องกับใครก็ชี้แจงเอง แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่

เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องมีการตรวจสอบภายใน หรือไม่เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสังคม ภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่อยากเดาว่าเป็นใคร เช่น​ ส.​ หรือ ม. เป็นใครเพราะมีเป็นร้อ​ย​ ไม่อยากเดาหากมีรายชื่อชัดก็ส่งหนังสือมาถึงพรรคได้เลยว่ามีพฤติกรรมอย่างไร​ เราจะตั้งกรรมการสอบ และให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการตามขั้นตอน ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวส่งผลต่อความนิยมของพรรคหรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวย้อนว่า​ จะส่งผลกระทบกับพรรคได้อย่างไร เพราะพรรคยังไม่ทราบเลยว่าเป็นใคร​ หรือเรื่องเป็นอย่างไร

ภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่ไม่แตะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 (ร่างพ.ร.บ. นิรโทษกรรม) จะทำให้เสียมวลชนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า จะไม่เสียมวลชน เพราะถือเป็นจุดยืนของทุกพรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ดังนั้นเมื่อร่วมกันบนพื้นฐานที่ไม่มีเงื่อนไข เรื่องนี้ก็ต้องยืนยันในตรงนี้

ภูมิธรรม ยังกล่าวถึงประเด็นดรามาเกี่ยวกับกรณีที่ครม.ได้ อนุมัติการมอบสัญชาติไทย 4.8 แสนคน ให้แก่ผู้อพยพ-ชนกลุ่มน้อยที่เกิดในไทย เยอะไปหรือไม่ว่า เพื่อทำให้กระบวนการต่างๆ เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และแก้ไขปัญหาได้ เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เรายึดหลัก ซึ่งต้องให้สิ่งต่างๆ ดำเนินการได้ตามหน้าที่ เราต้องคำนวณให้ดีว่าจะยึดหลักกระจายอำนาจ หรือรวมศูนย์อำนาจ เพราะอยากให้งานเร็ว และดูแลคนส่วนใหญ่ ไม่อยากให้คนส่วนใหญ่ถูกนำมาเป็นจำเลย โดยเฉพาะคนส่วนน้อย พร้อมยืนยันว่ามีกระบวนการตรวจสอบ และสามารถถอนรายชื่อได้อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า มีการเปรียบเทียบกับ ‘โค้ชเช’ ชัชชัย เช นามเดิม เช ยอง-ซ็อก ผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชาวเกาหลีใต้ที่กว่าจะได้สัญชาติไทยใช้ระยะเวลานานนับสิบปี ภูมิธรรม กล่าวว่า เขาเข้าสู่กระบวนการใหม่แล้ว และให้ว่าไปตามกระบวนการ อย่ามองทุกอย่างเป็นปัญหา ขอให้มองทุกอย่างเป็นความตั้งใจ และการเพิ่มเติมในความสำเร็จ เราจะได้เป็นผู้ประสบความสำเร็จมากๆ หากมองทุกอย่างเป็นปัญหา มันจะห่อเหี่ยว และทำงานยาก

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์