เหตุการณ์ เรือประมงไทย 3 ลำ ถูก เรือรบเมียนมา ยิงใส่ที่ตัวเรือ บริเวณพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของเกาะพยาม จ.ระนอง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคนไทย 1 ราย และคนเมียนมา 1 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย
นอกจากนี้ ยังมี ลูกเรืออีก 31 คน เป็นคนไทย 4 คน และชาวเมียนมา 27 คน ถูกทางการเมียนมายังจับไป โดยทางการพม่าอ้างว่า มีกลุ่มเรือประมง ประมาณ 15 ลำ รุกล้ำน่านนํ้า เข้าไปทำประมงในเขตน่านน้ำเมียนมา
ล่าสุดวันนี้ (2 ธ.ค.) ที่ ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผคยวามคืบหน้ากกรณีดังกล่าวว่า คณะกรรมการประสานงานชายแดนท้องถิ่นได้พูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว และ กระทรวงต่างประเทศ ได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว และวันนี้ได้เรียกเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย มาหารือซึ่งทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกระบวนการทางการทูต
ภูมิธรรม ย้ำว่า ทหารของเรายืนยันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเราไปรุกล้ำเขาจริงหรือไม่ ซึ่ง เรือดังกล่าวเป็นเรือประมง ที่ไม่ใช่เรือติดอาวุธ จึงทำหนังสือประท้วงไปว่า ทำเกินกว่าเหตุ
ส่วนลูกเรือชาวไทย 4 คน ที่ถูกทางการเมียนมาจับตัวไป ตอนนี้เราต้องพยายามประสานนำตัวกลับมา ซึ่งเขาต้องส่งคืนมา ส่วนลูกเรือที่เหลือเป็นคนเมียนมา ค้องให้เขาไปว่ากันเอง
เมื่อถามว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นมานานแล้ว ภูมิธรรม ระบุว่า ไม่เกิดมา 30 กว่าปีแล้ว แต่เส้นแบ่งทางทะเลมักมีปัญหาเช่นนี้ ในอดีตเคยมีครั้งหนึ่งที่เรือไทยจะอ้อมเข้ามาในประเทศ แต่ทางเขาบอกว่าต้องขออนุญาต ขณะที่เรายืนยันว่าไม่ต้องขออนุญาต เพราะเป็นเส้นทางผ่านปกติ
แต่เหตุการณ์นั้นจบไปแล้ว และที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เพราะบริเวณนั้นเกาะแก่งเยอะ ประชาชนทั้ง 2 ประเทศไปมาหาสู่กันเป็นเรื่องปกติ ที่บริเวณชายแดนก็จะมีการอะลุ่มอล่วยกัน และเราเองอยากให้พื้นที่ตรงนั้นเป็นที่ทำมาหากินของทั้ง 2 ฝ่าย แม้ว่าแต่ละฝ่ายจะยืนยันสิทธิ์ของตัวเอง แต่เราก็ยึดเส้นแบ่งของเรา เพราะฉะนั้นรอกระทรวงการต่างประเทศเจรจาก่อน
- เชื่อเปิดไปก็ไม่จบ หลัง ‘พปชร.’ เสนอเวทีสาธารณะถก MOU 44
ส่วนข้อเสนอให้เปิดที่ประชุมสภาเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กรณีข้อพิพาท MOU 44 ภูมิธรรม มองว่า เป็นเรื่องดีที่จะได้พูดคุยกันในสภา
ส่วนประเด็นที่ พรรคพลังประชารัฐ อยากให้เปิดเวทีสาธารณะเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ เพราะบางคนไม่สามารถเข้ามาพูดคุยในสภาได้ ภูมิธรรม ระบุว่า ถ้าเอาใจทุกคนก็คงต้องจัดทุกที่ และเชื่อว่าต่อให้เปิดเวทีนี้ก็ไม่จบหรอก อย่าไปคิดว่ามันจะจบ
- แนะ ‘หมอเชิดชัย’ ให้ยุบสภาเอง หลังเสนอให้ยุบสภาหาก ‘ภท.’ งอแงแก้รธน. บอกอำนาจอยู่ที่ ‘นายกฯ’ ยัน พรรคร่วมยังหนักแน่น
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขู่ว่าพรรคเพื่อไทยอาจยุบสภาฯ หากพรรคภูมิใจไทยยังงอแงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
ภูมิธรรม เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบ เพราะถือเป็นความเห็นของ สส.แต่ละพรรค แต่ละคน และถือว่าเป็นทัศนะของ นพ.เชิดชัย
“ไม่กระทบความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะผู้ใหญ่แต่ละคนหนักแน่น ไม่เช่นนั้นฟังทุกวันคงต้องยุบสภากันวันละหลายๆรอบ”
— ภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยงอแงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ จะยุบสภาตามที่ นพ.เชิดชัย ออกมาขู่หรือไม่ ภูมิธรรม หัวเราะก่อนตอบว่าคงต้องให้ นพ.เชิดชัย ไปยุบ แต่ข้อเท็จจริงไม่ว่าใครจะพูดก็แล้วแต่ อำนาจการยุบสภาเป็นของนายกรัฐมนตรี และที่ผ่านมานายกฯ ไม่เคยมีดำริหรือท่าทีที่จะยุบสภา และการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังดีอยู่ ส่วนความเห็นของแต่ละสภาก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากัน
- ‘น้ำท่วมภาคใต้’ หลายพื้นที่เริ่มแห้ง ห่วงฝนมาอีกรอบช่วง 10 ธ.ค.นี้
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ภูมิธรรม ย้ำว่า อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหา ขณะนี้ประสานกระทรวงพลังงานให้ประกาศเอาน้ำมันในสต็อกออกแล้ว เพราะน้ำมันในสต็อกจะหมดในวันนี้
รวมถึงได้สั่งการให้กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เข้าไปเคลียร์น้ำและแก้ไขเส้นทางที่ขาดแล้ว และขณะนี้หลายพื้นที่น้ำเริ่มแห้งแล้ว และเริ่มใช้รถได้แล้ว
แต่ตามรายงานช่วงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ อาจมีฝนมาอีกรอบ แต่ไม่ถึงขนาดพายุเป็นลูก ยังมีส่วนหางที่เข้ามาอยู่บ้าง แต่ได้สั่งการให้หน่วนงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือและฟื้นฟูแล้ว