ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (22 เม.ย.) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามสื่อถึงกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี หากนายกฯ เห็นว่ารัฐมนตรีกระทรวงใดมีความไม่เหมาะสม ก็เป็นสิทธิของนายกฯ และต้องคุยกับพรรคร่วมก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สัญญาณอะไรจากนายกฯ ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องที่อยู่ๆ ก็ลอยขึ้นมา โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ย้ำเรื่องนี้ต้องถามนายกฯเอง
ส่วนเรื่องความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต ภูมิธรรม ระบุว่า แต่ละพรรคก็มีเรื่องภายในของตัวเองที่ต้องไปเคลียร์ แต่ สำหรับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีประเด็นอะไรขัดแย้งกัน แต่อาจมีเห็นต่างกันบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย และสิ่งสำคัญคือเรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบาย ถ้ามีความไม่เข้าใจมองเป็นเรื่องกาสิโน ซึ่งนโยบายไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่าง ซึ่งพรรคการเมืองที่ไม่เข้าใจก็ควรมาคุยกัน
ส่วน พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาชาติเข้าใจนโนบายนี้ใหรือไม่ ภูมิธรรม คิดว่าเข้าใจ แต่ก็มีเงื่อนไขหลายๆ อย่าง แต่ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ทุกคนก็ยอมรับว่าเป็นนโยบายรัฐบาล แม้กระทั่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่าในฐานะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มองว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยยังเดินกันต่อไปได้หรือไม่ ภูมิธรรม ตอบว่า
“ก็อยู่ที่พรรคภูมิใจไทย และอยู่ที่ภายในของพรรคเพื่อไทย แต่ละพรรคต้องไปทำความเข้าใจของตัวเอง ทำความเข้าใจได้ ยอมรับหลักการได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็เดินต่อไปได้”
ภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ผมเหมือนเดิม แต่ว่าฝ่ายภูมิใจไทยก็ต้องไปถามในพรรคเขาเอง
- สั่ง สส.ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจ ‘ปชช.’ เรื่อง ‘กม.กาสิโน’ หวัง ให้เข้าใจ ไม่ใช่กลัวเป็นชนวนม็อบ
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยกำชับ สส. ให้ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจประชาชน เกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ และเรื่อง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม เป็นเพราะหวั่นจะมีม็อบใช่หรือไม่
ภูมิธรรม ระบุว่า ไม่ได้ลงไป เพราะกลัวประเด็นดังกล่าว แต่เป็นปกติช่วงปิดสมัยประชุมเราก็จะให้ สส.ลงพื้นที่พบประชาชนมีกฎหมายอะไรที่ค้างในสภาฯ หรือมีปัญหา ยังไม่มีความเข้าใจจะได้ชี้แจง ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับจ่ออยู่ในสภาฯ เมื่อจะนำมาพิจารณาก็ควรชี้แจง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับความกังวลจะเป็นการจุดม็อบ
- เรียก ‘รอง ปลัดมท.- แม่ทัพภาค 4 - ผบช.ภ.9’ ปรับแผนดูแลพื้นที่ภาคใต้ หลังคนร้ายก่อเหตุยิงสามเณรเสียชีวิต พุ่งเป้าโจมตีชาวพุทธ เลื่อนเดินทางลงใต้ เหตุติดภารกิจ
นอกจากนี้ ภูมิธรรม ยังระบุถึง กรณีคนร้ายยิงสามเณรเสียชีวิต ใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางออกไปบิณฑบาตรว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว ช่วงนี้มีสามเณรบวชภาคฤดูร้อน ช่วงปิดเทอม และช่วงนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้ง ดูจากเป้าหมายเกิดขึ้น 2-3 ครั้ง มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวพุทธ เรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน และเป็นเรื่องไม่ปกติ
โดยในนี้ (22 เม.ย.) ทีมที่ปรึกษา สมช. นัดหารือกัน และวันพรุ่งนี้เช้า (23 เม.ย.) ได้นัดหารือกับรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายความมั่นคง แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อประเมินสถานการณ์ และปรับแผนอะไรบางส่วน จึงขอให้รอฟังผลพรุ่งนี้ (23 เม.ย.)
ส่วนการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายในสัปดาห์นี้ ยังเป็นกำหนดการเดิมอยู่หรือไม่ ภูมิธรรม ตอบว่า ยังไม่ได้เดินทางลงไป แต่จะต้องคิดหาทางแก้ปัญหาให้จบก่อน และนายกรัฐมนตรียังไม่กลับจากต่างประเทศ จึงต้องเลื่อนกำหนดการเดินทางออกไปก่อน เพราะมีเรื่องต้องเคลียร์อีกหลายเรื่อง