‘หลิว จงอี้’ พบ ‘ภูมิธรรม’ ชง 4 ข้อปราบ ‘แก๊งคอลฯ’ ฝ่าแรงต้าน ‘เมียนมา’ 19ก.พ.

18 ก.พ. 2568 - 10:15

  • ‘หลิว จงอี้’ เตรียมพบ ‘ภูมิธรรม’ 19ก.พ.นี้ หลัง ‘ตัดไฟ-เน็ต-น้ำมัน’ ฝั่ง ‘เมียนมา’ ได้ผล จีนเสนอ 4 ข้อปราบ ‘แก๊งคอลฯ’ ย้ำคุมพื้นที่ไม่ให้ ‘อาชญากร’ ไม่ให้หลบหนี-เคลื่อนย้ายฐาน ใช้หลัก ‘Proof Of Concept - PoC’ แยก ‘เหยื่อชาวจีน-จีนเทา’ โดยมี จนท.จีน สอบข้อมูล จากนั้นขึ้นเครื่องที่ไทยกลับจีน

  • ‘ภูมิธรรม’ ยังไม่ชัดปรับมาตรการ 3 ตัด หลัง ‘จีน’ เสนอทำต่อ ส่วน ‘เมียนมา’ วอนยกเลิก ชี้ยึดประโยชน์คนไทยเป็นหลัก ย้ำ ‘หลิว จงอี้’ ไม่มีอธิปไตยเหนือไทย หากเราไม่ให้เขาทำก็ทำไม่ได้ จวกบางคนลงพื้นที่โชว์สั่งนั่นสั่งนี่ ขอให้คิดบวกบ้าง

Phumtham_Liu_Zhongyi_SPACEBAR_Hero_07ea26b1ef.jpg

‘หลิว จงอี้’ ชง ‘ภูมิธรรม’ 4 ข้อปราบ ‘แก๊งคอลฯ’ ฝ่ากระแส ‘เมียนมา’

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัยนองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการ รมว.กลาโหม เป็นผู้แทน รมว.กลาโหม ร่วมวงประชุม 3 ฝ่าย ระหว่าง นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณรัฐประชาชนจีน และ พล.ต. อ่อง จ่อ จ่อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเมียนมา ในการแก้ปัญหา คอลเซ็นเตอร์(Call Center) ทำให้ทราบข้อขัดข้อ จึงต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สนับสนุนการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด 

ทั้งนี้ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ หลิว จงอี้ จะเข้าพบและหารือกับรมว.กลาโหม โดยการหารือกับทาง หลิว จงอี้ โดยทางจีนมีการเสนอแนะ 4 ข้อ ดังนี้

1.เสริมสร้างกลไกไตรภาคี ภายใต้อำนาจอธิปไตยและกฎหมายและกฎหมายท้องถิ่น ในอนาคตอาจเพิ่มสมาชิก ขอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมเตรียมความพร้อม และ ประชุมเป็นทางการ ตามที่ไทยกำหนด สาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมสนับสนุน

2.มาตรการตัดไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ตและ น้ำมันเชื้อเพลิง เกิดผลเป็นรูปธรรม ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ขอให้ไทยดำเนินการต่อ แม้จะมีการเรียกร้องจากประเทศเมียนมาให้ยกเลิก

3.ให้การสกัดกั้น ควบคุม พื้นที่ไม่ให้อาชญากร หลบหนีหรือเคลื่อนย้ายไปพื้นที่อื่น

4.ให้ไทยช่วยเหลือในการส่งกลับคนจีน กำหนด Proof Of Concept ( PoC) ทั้ง ไทย จีน และเมียนมา โดยจีนจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ส่งไทยอำนวยความสะดวกตั้งแต่ชายแดน จนถึงสนามบินโดยการร้องขอกองกำลังทหารในการรักษาความปลอดภัย

พล.ต.ธนาธิป กล่าวต่อว่า ทางเมียนมา ขอให้ไทยยกเลิกมาตรการ ตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน และอินเทอร์เน็ต เพราะจะทำให้ผู้ถูกควบคุมตัว ไม่ได้รับการดูแล แออัด อาจเกิดโรคระบาด 

นอกจากนี้ประชาชน จ.เมียวดี ซึ่งมีกว่าหนึ่งแสนคน ได้รับผลกระทบ รวมทั้งโรงพยาบาล ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชน ในการผ่าตัดได้ เนื่องจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ล้วนแต่ต้องการใช้ไฟฟ้า 

อีกทั้งต่อไปในอนาคต จะให้ส่งกลับบุคคลผ่านช่องทางเมียนมาที่เป็นทางการเท่านั้น (ไม่ให้ชนกลุ่มน้อย หรือ กองกำลัง DKBA ส่งกลับเอง)

โดย เลขานุการ รมว.กลาโหม ได้กล่าว ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันแก้ปัญหา ไทยยินดีร่วมมือ เพราะได้รับผลกระทบอาชญากรรมคอลเซนเตอร์และต้องการยุติปัญหาให้เร็วที่สุด รายละเอียดการปฏิบัติจะมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งระดับ ผู้ปฏิบัติ PoC ต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ข้อเสนอจาก จีน และ เมียนมา จะนำแจ้งผู้มีอำนาจตกลงใจต่อไป ขอยืนยันว่า การส่งกลับคนจีน จะนำรูปแบบของปี 2567 มาประยุกต์ใช้ แม้ว่าจะยังไม่มีศูนย์ประสานงาน แต่ในช่วงนี้ ขอให้ PoC ประสานงาน เพื่อให้การส่งกลับเป็นไปด้วยดี นอกจากนี้จะประสานทางสถานเอกอัครราชทูตที่มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากประเทศต่างๆ มารับตัวกลับ

โดยทางการจีนแจ้งว่าการรับคนจีนที่ผ่านแดนมาจากเมียนมาจะใช้เครื่องบินพาณิชย์เช่าเหมา โดยสามารถรองรับได้วันละ 6 เที่ยวบิน โดยแต่ละเที่ยวบินจะมีคนจีนที่ถูกส่งตัวกลับ 50 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยจำนวน 100 นาย ขนคนกลับได้วันละไม่เกิน 300 คน

ทั้งนี้ผู้ประสานงานฝ่ายจีนแจ้งให้ทราบว่า วันนี้ (17ก.พ.68) สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้หารือกับ กระทรวงการต่างประเทศ แล้วในเรื่องการส่งกลับคนจีนซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 20 ก.พ.68 จำนวน 200 คน โดยสายการบิน Southern China ได้ประสานงานกับ ทอ.แม่สอดเรียบร้อยแล้ว 

“ตามแนวทางการปฏิบัติของ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการแก้ปัญหาของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติและคอลเซนเตอร์รวมทั้งการพนันผิดกฎหมาย จากการที่มีการดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อจากการถูกหลอก จากแก๊งคอลเซนเตอร์  ซึ่งในการปฎิบัติงานที่ผ่านมา จนมาถึงขั้นตอนกระบวนการ การนำพาสู่กลับประเทศต้นทาง การปฎิบัติงานได้รับการยอมรับและคำชมเชยจากสถานทูตของประเทศต่างๆ ทั้งประเทศอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา จีน เมียนมา และประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงการดำเนินการด้วยความร่วมมืออย่างบูรณาการระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย เมียนมา และ จีน ซึ่งทำให้การร่วมกันแก้ไขปัญหาระดับนานาชาติ บรรลุผลสำเร็จไปได้ด้วยดี“ พล.ต.ธนาธิป กล่าว

‘ภูมิธรรม’ ยังไม่ชัดปรับมาตรการ 3 ตัด หลัง ‘จีน’ เสนอทำต่อ

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการพูดคุยกับ หลิว จงอี้ ผู้ช่วย รมว.ความมั่นคงและสาธารณะ ประเทศจีน ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) หลังจีนมีข้อเสนอให้ไทยดำเนินมาตรการตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต และน้ำมันต่อไปก่อน ในขณะที่เมียนมาร้องขอให้ยกเลิก เพราะกระทบต่อการรักษาในโรงพยาบาล ว่า เราประสานกับทางจีนมาหลายเดือนแล้ว เราพูดคุยตลอด 

ส่วนที่ฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าการมาของ หลิว จงอี้ มาเหมือนสั่งการนั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่ ผมเข้าใจดีว่าทุกคนมีความรักชาติ หวงแหนในอธิปไตยของชาติเหมือนกัน เราทำงานมามากกว่า 2 เดือน ได้คุยกันหลายอย่าง เพราะการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ไม่ใช่อยู่ๆตัดสินใจ แล้วจัดการได้ เช่นเดียวกับการซีลชายแดนที่เราจะทำคนเดียวก็ไม่ได้ก็ต้องซีลทั้งหมด ที่เกี่ยวข้อง 3 ประเทศมีส่วนพันกันทั้งหมด การให้ 3 ประเทศร่วมมือกันแก้ปัญหาคอลเซนเตอร์ มันเริ่มมา 2 ปีแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีการตกลงรายละเอียด ก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันต่อไป เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศคุยครั้งเดียวคงไม่จบ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หนักหนาสาหัส มันเกิดปัญหาไปหมด ไม่เพียงประเทศเราประเทศเดียว 

ที่สำคัญคิดว่าตอนนี้ประเทศเราเกิดปัญหา มันทำให้ภาพพจน์ประเทศเสียหายด้วย การพิจารณาเรื่องนี้มันยากลำบากเหมือนกันที่จะไฟ ตัดน้ำมัน ตัดอินเตอร์เน็ต เพราะแค่พูดมันก็ง่าย ตัดสินใจไปทีเดียวก็ง่าย แต่เวลาตัดแล้วมันเกิดผลกระทบหลายอย่าง ต้องเทียบระหว่างมนุษยธรรมกับประโยชน์ของประเทศ และปัญหาของประชาชนในประเทศที่เกิดขึ้น หลายอย่างต้องเอาเอามาคิด 

วันนี้ที่ตัดสินใจทำเพราะว่ามันน่าจะมีเงื่อนไขที่หน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดนได้รับผลกระทบ และเราก็ยังคิดกันอยู่ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ของประเทศเขา ก็มีการคิดตามที่เสนอมาไปหมด แต่ในที่สุดเราคิดว่าหากเราเสนอโดยเอาประชาชนของเราเป็นหลัก และหาทางผ่อนคลายหลายเรื่อง ซึ่งเราก็เป็นห่วงโรงพยาบาล จึงบอกไปว่าหากมีผู้ป่วยได้รับผลกระทบก็ให้ส่งมา สายตรงเปิดรับเข้ามาที่แม่สอดได้ รวมถึงเรื่องโรงเรียนเราก็คิดดูอยู่ 

แต่อยากทำให้เห็นว่าเรามีความจริงจังในการแก้ปัญหาให้ได้ ต้องถือว่าปฏิบัติการที่เราทำไปครั้งนี้ ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในการซีลชายแดน 2 ชั้น ถือว่าได้ผลจากการที่ฝ่ายเขาออกมาบอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆเหล่านี้ และพร้อมที่จะช่วยเราเคลียร์ จนวันนี้เราสามารถเอาคนออกจากพื้นที่มากมาย

ส่วนที่มีการบอกว่าฝ่ายจีนเข้ามาเหมือนมีอธิปไตยเหนือเรา มาสั่งการเรานั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ หากเราไม่อนุญาตให้เข้าก็เข้าไม่ได้ การทำงานครั้งนี้ต้องร่วมมือกันหลายส่วน การที่เราเสนอให้เขาเข้ามาและแสดงบทบาท เราตกลงกันในรายละเอียดแล้ว 

การพูดคุยพรุ่งนี้จะเป็นการหารือในเรื่องที่ หลิว จงอี เดินทางไปเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา แล้วได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าต้องรอคุยจนจบถึงทำงาน อะไรทำได้ต้องทำไปก่อน เพราะชีวิตของคนที่ยากลำบากที่อยู่ในแดน ถูกบังคับข่มขู่ให้ทำงาน วินาทีเดียวก็สำคัญกับชีวิตมาก วันนี้คิดว่าเราคลี่คลายปัญหาการส่งคนกลับบ้าน 

เมื่อทางเมียนมารับจะไปดูแล เราก็อยู่แล้วซึ่งเราก็บอกทางเมนมาว่าหากติดขัดอะไรก็ยินดีแก้ปัญหา ส่วนเราจะเน้นนำคนที่ทำความผิดภายในประเทศ กลุ่มพวกตัวการสำคัญเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่มีปัญหา ซึ่งต้องดูว่าจากกระบวนการคัดกรองได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง โดยไทยและเมียนมา มีการแลกข้อมูลเรื่องนี้

เขามาตามที่เราอนุญาต เราไม่อนุญาตเขาก็เข้ามาไม่ได้ ผมเล่าให้สื่อฟังตั้งแต่แรกว่า เขาต้องเคารพอธิปไตยของเรา ไม่ใช่อยู่ๆ จะมาทำอะไรตามใจชอบ เขาจะมาแล้วขึงขัง อย่าไปคิดอะไรเยอะ บางคนผมอยากให้คิดบวกบ้าง ไม่ใช่มาถึงก็วิพากษ์วิจารณ์ จัดนู่นจัดนี่ สั่งนั่นสั่งนี่ มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ เรื่องจริงของชีวิตต้องใช้ความมานะพยายามในการจัดการ ไม่ใช่มาโชว์แล้วบอกว่าตรงนั้นตรงนี้ มันไม่ใช่

ภูมิธรรม รมว.กลาโหม กล่าว

เมื่อถามถึงการหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้มีการพูดคุยเรื่องการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ได้หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ไปพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์และยาเสพติด ซึ่งได้มีการพูดคุยและกินข้าว ไปกันหลายคน และได้มีช่วงพูดคุยกัน 2 คน ทั้งหมด 2 รอบ - รอบละ 45 นาที

เมื่อถามว่าการพูดคุยครั้งนั้นนำมาสู่การลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ของ หลิว จงอี้ ใช่หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกเรื่องเพราะปกติก็มีการพูดคุยผ่านเอกอัครราชทูตจีน แต่เรื่องเหล่านี้เราไม่เคยเอามาแถลงข่าว สะท้อนให้เห็นว่าเราคุยกันแล้ว เราก็ทำงานกันมาตลอด

เมื่อถามถึงการส่งเลขานุการรัฐมนตรีไปร่วมคณะลงพื้นที่กับ หลิวจง อี้ ได้มีการรายงานกลับมาอย่างไร ภูมิธรรม กล่าวว่า ผมมอบหมายให้ไปเพราะอยากรู้ความคืบหน้าเหมือนเป็นตัวแทนของผมไปนั่งฟัง กลับมาจะมาเล่าให้ฟังว่าจันคิดอะไร อย่างไร และเมื่อ หลิว จงอี มาพบผม ก็คงได้คุยกัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์