






ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ากระทรวงกลาโหมครั้งแรก ภายหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯ ซึ่งในวันนี้ ภูมิธรรม ได้สักการะศาลหลักเมือง เจ้าพ่อหอกลอง และทำพิธีตรวจแถวทหารกองเกียรติยศผสม 3 เหล่าทัพ จากนั้นได้รับฟังแผนงานและมอบนโยบายแก่ปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ
ทั้งนี้ ภูมิธรรม ตอบคำถามสื่อกรณีที่ถูกมองว่าเป็นสายตรง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะให้ความสบายใจกับกองทัพอย่างไร และมีธงหรือเป้าประสงค์ใดหรือไม่ ว่า ผมได้เรียนแล้วว่า ผมมาวันนี้ไม่มีเจตนาจะขยายอำนาจหรือต้องการเข้ามาแล้วแตกแยก สร้างความไม่สบายใจกับกองทัพ ผมเชื่อว่าผมำงานกับกองทัพได้ และขอให้เวลาพิสูจน์ ดีกว่าจะมาบอกเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ได้เรียนผู้นำเหล่าทัพไปว่า ความเป็นผมจะทำงานกันได้อย่างดี และเป็นประโยชน์ให้กับกองทัพ ได้ใช้ประโยชน์จากผม
เมื่อถามว่าจะสานต่อการแก้ พ.ร.บ.กลาโหม เพื่อสกัดรัฐประหาร จากยุคนายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ผมคิดว่าสิ่งสำคัญตอนนี้คือผมกับกองทัพจะทำความเข้าใจและรู้จักกัน เข้าใจความคิดในสิ่งที่คนให้ความสนใจ ส่วนสิ่งที่นายสุทินทำมา ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ผมจะมาผลักดัน ถ้ายังไม่เข้าใจในกองทัพ อาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นอยากเรียนรู้และทำความเข้าใจทุกส่วนก่อน บนจุดยืนการแก้ปัญหาประเทศ
เมื่อถามว่าเหมือนถูกตั้งมาเป็น รมว.กลาโหม เพื่อระวังหลังให้ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ระแวงหลังหรอก แต่มาเพื่อมาทำงาน เพราะ ครม. ที่ถูกเลือกมา มีภารกิจประจำแต่ละหน่วยงาน อย่าได้คิดระแวงเลย เพราะสร้างความไม่สบายใจและทำให้การร่วมเดินกันเกิดปัญหา ผมเชื่อว่าที่ผมแสดงจุดยืนที่ชัดเจน จะสามารถทำให้เหล่าทัพสบายใจ
เมื่อถามย้ำว่าแต่มีการแต่งตั้ง เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 10 ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคณะทำงาน จะถือเป็นตัวแทนของทักษิณหรือไม่ ว่า ไม่หรอก เพราะ พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เคยอยู่ในพรรคเพื่อไทย เป็นคณะทำงานกับผมมา และเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารม้า ทำงานในพื้นที่มาถึง แม้ขณะนี้อายุจะมากขึ้นมาก แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะมีประสบการณ์และความสามารถของท่าน จะช่วยให้แง่คิดกับผมได้
“แต่ในท้ายที่สุด การตัดสินปัญหาจะขึ้นอยู่กับตนเอง ซึ่งคณะทำงานที่แต่งตั้งก็ไม่ได้เยอะอะไร แค่ 1 - 2 ท่าน อย่างมากที่จะเข้ามาช่วย ก็ไม่น่าเกิน 3 ท่าน ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับงานประจำ เช่น งานทางด้านการเงิน และคิดว่าจะไม่ได้แต่งตั้ง พล.อ.ไตรศักดิ์ เพียงท่านเดียว เนื่องจากขณะนี้ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรี และผู้ช่วยรัฐมนตรี ยังไม่ได้แต่งตั้ง ซึ่งคิดว่าอยากได้คนรุ่นใหม่ คนที่มีทัศนะและความคิดที่กว้างขวาง เพื่อประกอบส่วนให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น” ภูมิธรรม กล่าว
"ขออย่ากังวลใจ ผมรับประกันว่า อันนี้ไม่ได้มีใครมาครอบงำอะไรได้ ผมเป็นตัวของตัวเอง และพร้อมทำงานกับเหล่าทัพด้วยความสบายใจ" ภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่า ในฐานะที่อยู่กับ ทักษิณ มานาน ซึ่งทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยถูกปฏิวัติรัฐประหารมาก่อน ได้อ่านความคิดของทักษิณหรือไม่ว่า การที่ให้มาดำรงตำแหน่งนี้ เพื่อมาแก้แค้นหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า “เรื่องการแก้แค้น มันหมดไปนานแล้ว และมันยังไม่เคยเกิดขึ้นด้วยซ้ำ วันนี้ทุกอย่างวิกฤตการณ์ของประเทศสำคัญกว่า ทั้งการร่วมมือกัน เพื่อทำให้ประเทศเดินหน้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุด จึงไม่มีเรื่องที่ท่านสงสัยหรือกังวลใจ แล้วผมได้คุยกับเหล่าทัพแล้ว เชื่อว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี สิ่งเหล่านี้อย่าให้เป็นสิ่งที่จะทำให้คลางแคลงใจ หรือสร้างปัญหาให้เกิด ความแตกแยก ผมเชื่อว่าไม่มีสิ่งนี้แน่นอน”
เมื่อถามว่า ยุคนี้มีการดีลกันเกิดขึ้น จึงไม่มีสิ่งเหล่านี้ใช่หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า “ไม่ได้ดีลอะไรกันหรอกครับ ก็เป็นเรื่องที่ทำตามหน้าที่ ผมมาก็ปลอดโปร่ง คนเดียวยังไม่ได้รู้อะไรเท่าไหร่ ก็ถึงจะมาเรียนรู้ ส่วนดีลนู้นดีลนี้ไม่มีหรอก วันนี้มีแต่ตัวผมเองกับผู้บัญชาการเหล่าทัพต่า ๆ ที่จะร่วมมือกัน”
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถทำงานกับผู้นำเหล่าทัพได้อย่างราบรื่น ภูมิธรรม ยืนยันว่า "มั่นใจ 1,000% ผมเชื่อว่า จะสามารถร่วมมือ กับเหล่าทัพต่างๆ ด้วยความเคารพกัน ยอมรับในสิ่งที่แตกต่าง และหาข้อสรุปในการทำงานร่วมกันได้อย่างดี”