โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล แม้ตอนนี้จะเริ่มเดินหน้าพิจารณากฎหมายต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับการออก ‘พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท’ เพื่อนำมาใช้ในการขับเคลื่อนโครงการ ท่ามกลางเสียงคัดค้านและสนับสนุนจากสังคม และเมื่อเร็วๆ นี้ ‘เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์’ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ‘เจ้าสัวซีพี’ ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนโครงการดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ตอบคำถามกรณีมีผู้บริหารธุรกิจชั้นนำของประเทศมาสนับสนุนเรื่องนี้ โดย ‘ภูมิธรรม’ มองว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี และเป็นการตอกย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลมำ เป็นการกู้วิกฤติเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าในบ้านเรายังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่
พร้อมย้ำ จุดประสงค์ของโครงการไม่ใช่อยู่ๆ ไปแจกเงิน แต่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และหลายคนกำลังรอเงินหมุนเวียนในส่วนนี้อยู่ และรัฐบาลพร้อมทำความเข้าใจกับประชาชนทุกกลุ่มที่เห็นในเรื่องนี้ไม่ตรงกัน แต่ไม่อยากให้เกิดเป็นประเด็นที่เถียงกันไปมา
“ที่ผ่านมามีการกู้กันมหาศาลไม่เห็นมีปัญหา แต่พอเราจะกู้มาทําเรื่องนี้ เพื่อกระจายให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำไมมีปัญหา ผมคิดว่าเราต้องใจกว้าง มองอะไรให้มันเป็นจริง ให้มันสอดกับความเป็นจริงของสังคม และทำให้มันเกิด เรายืนยันเจตนาที่บริสุทธิ์ และพยายามรับฟังทุกส่วน ถ้าเราไม่รับฟัง ป่านนี้เราทำไปแล้ว”
ส่วนความคืบหน้ากระบวนการพิจารณากฎหมายออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ‘ภูมิธรรม’ อธิบายว่าตอนนี้ อยู่ในกระบวนการของกฤษฎีกา และกฤษฎีกาไม่ได้คัดค้านอะไร เพียงแต่บอกว่าอยากให้ช่วยกันดูให้รอบคอบ และคิดว่าการพิจารณาของกฤษฎีกาจะใช้เวลาไม่นาน ส่วนจะพิจารณาเสร็จทันก่อนปีใหม่หรือไม่ ตอบไม่ได้
เมื่อถามว่าสามารถยืนยันได้หรือไม่ว่าหน่วยงานของรัฐเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะบางหน่วยงานไม่อยากร่วมรับผิดชอบด้วย ‘ภูมิธรรม’ บอกว่าว่า เรื่องนี้อย่าคิดอะไรมากเกินไป เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล การดำเนินงานก็พยายามรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเต็มที่ มีความสุจริตที่จะทำเรื่องนี้ เพียงแต่แนวคิดต่างกันบ้าง ซึ่งทั้งหมดต้องตอบด้วยข้อเท็จจริง ขอให้รอให้ชัดเจนก่อน
— ‘นายกฯ’ เตรียมเรียก ทูตไทย-ทูตพาณิชย์ทั่วโลก รับทราบนโยบาย 21 พ.ย. นี้ —
‘ภูมิธรรม’ ยังเปิดเผยว่า ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี มีประชุมร่วมกับทูตไทยทั่วโลก และทูตพาณิชย์ไทยทั่วประเทศและทั่วโลก รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่อยู่ต่างประเทศ ให้กลับมาร่วมประชุมเพื่อรับทราบนโยบายด้านเศรษฐกิจต่อจากนี้ หลังนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านพาณิชย์ กับหลายประเทศในช่วงที่ผ่านมา
โดยจะให้ทั้ง 3 ส่วนทำงานร่วมกัน และในวันที่ 23 พ.ย. จะมีการทำเวิร์คช็อปร่วมกัน โดยมีสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมไทย สมาคมธนาคาร สภาส่งสินค้าเดินเรือทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาคุยกัน ถือเป็นการสอดรับจากที่นายกฯ ไปพูดคุยและพยายามจัดองคาพายพในการที่จะรองรับการเดินหน้าต่อไป
‘ภูมิธรรม’ ยังบอกว่าที่ผ่านมา เขาพยายามรับไม้ต่อจากนายกฯ โดยเฉพาะการพยายามพูดคุยกับประเทศจีน ซึ่งนายกฯ ได้เปิดนโยบายไว้แล้ว และเขาได้ประสานต่อกับมณฑล โดยถือเป็นนโยบายที่เราจะกระจายไปตามมณฑลต่างๆ ซึ่งตอนนี้ได้มา 5-7 มณฑลแล้ว และจะมีการพูดคุยต่อไปเพื่อให้ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งในระดับมณฑลถือเป็นตลาดที่ใหญ่ มีประชากร 100 กว่าล้านคน ซึ่งไปสอดคล้องกับนโยบายของจีนที่จะยกเลิกการเป็นแรงงานของโลก ให้มาเป็นตลาดของโลก ซึ่งถือว่าความร่วมมือกันด้วยดี
