การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการลาออกของ ‘พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน’ จากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เวลา 16.30 น.
ทั้งนี้ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน ได้ขออภิปรายเพื่อเสนอความเห็นต่อที่ประชุมว่า พรรคประชาชนจะรักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ไม่เสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ แต่ขอฝากไปยังว่าที่รองประธานสภาฯ สานต่อวิสัยทัศน์ ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ที่สภาโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นสภาฯ ของประชาชน และเป็นสภาก้าวหน้ารองรับความหลากหลายและเป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชน
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ข้อเสนอแนะนำเข้าสู่กมธ.กิจกรสภา ที่ประกอบทุกพรรคการเมือง เพื่อปรับปรุงให้สภาฯ ให้กับประชาชนและสส. ขอบคุณที่พรรคประชาชนไม่เสนอผู้เป็นรองประธานสภาฯ รักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ส่วนตัวเห็นด้วย เพราะตำแหน่งดังกล่าวสำคัญ เป็นกรรมการสรรหาองค์กรอิสะ อยากให้ผู้นำฝ่ายค้านมาจากพรรคใหญ่ของฝ่ายค้านที่คนอื่นทำหน้าที่ไม่ได้ ส่วนตัวยินดีและขอขอบคุณ
จากนั้น ศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย เสนอให้เปลี่ยนระเบียบวาระเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง และรองประธานสภาฯ คนที่สอง ต่อจากนี้ โดยไม่มีผู้ใดที่ขัดข้อง จากนั้นได้เข้าสู่วาระการเลือก
สำหรับการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แทนตำแหน่งที่ว่าง หลังจาก ปดิพัทธ์พ้นตำแหน่งนั้น พบว่า มีการเสนอชื่อเพียงคนเดียว คือ ‘พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน’ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย จึงถือว่าเป็นผู้ได้รับเลือกตามข้อบังคับการประชุม โดย อนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอ
‘พิเชษฐ์’ ได้แสดงวิสัยทัศน์ตามข้อบังคับ ตอนหนึ่งว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติและตรวจสอบฝ่ายบริหาร รวมถึงมีนโยบายให้สภาฯ ใกล้ชิดประชาชน จัดให้มีสภาฯ ประจำจังหวัดทดลอง อย่างน้อย 5 จังหวัด ปรับปรุงอาคารรัฐสภาให้สวยงาม สมบูรณ์ สร้างท่าเทียบเรือฝั่งสว. สส. ภายในปี 2568 ทำที่จอดรถ 3,000 คันให้ถูกต้องตามกฎหมายของกทม.
“รีบให้มีการบริหารความปลอดภัยและการป้องกันอัคคีภัยและจัดชุดป้องกันให้เร็วที่สุด และช่วยงานประธานสภาฯ ให้การประชุมเรียบร้อย เสริมสร้างศักยภาพของสมาชิกให้พัฒนาท้องถิ่น รวมถึงนำรัฐสภาไทยก้าวขึ้นอยู่รัฐสภาผู้นำอาเซียนต่อไป” พิเชษฐ์ กล่าว
ขณะที่ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง มีการเสนอชื่อ ‘ภราดร ปริศนานันทกุล’ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เพียงคนเดียว จึงถือว่าเป็นผู้ได้รับเลือกตามข้อบังคับการประชุม โดยสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อ
‘ภราดร’ ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมตามข้อบังคับ ตอนหนึ่งว่า เป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าว ในฐานะผู้ช่วยประมุขฝ่ายนิติบัญญัติและเป็นเกียรติของคนอ่างทอง ใช้เวลาที่สภาฯ 17 ปี เกือบครึ่งชีวิต ผูกพันกับองค์กรและสภาฯ จนเปรียบเป็นบ้านหลังที่สอง แม้สถานะของตัวเองจะเป็นสมาชิกพรคการเมือง แม้ปฏิเสธไม่ได้ แต่ขอให้คำมั่นสัญญา ไม่เป็นรองประธานสภาฯ ของพรรคภูมิใจไทยหรือฝ่ายรัฐบาล แต่จะเป็นรองประธานสภาฯของ สส. 493 คน และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเต็มที่และทำให้ดีที่สุด ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและทำให้สภาเป็นของประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่น เกียรติยศให้สภาฯ เชิดหน้าชูตาของประชาชน
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จะรีบนำชื่อทูลเกล้าฯ ถือว่าเป็นบรรยากาศดีมาก ไม่เสียเวลาเรื่องต่างๆ ที่ได้ประโยชน์น้อย วันนี้เราได้ประโยชน์ล้วนๆ จากนั้นได้กล่าวปิดประชุมเพื่อให้สส.เตรียมตัวอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้
‘ภราดร’ ยังให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทหน้าที่จากนี้ เนื่องจากมีหลายคนมองว่า ยังไม่มีความอาวุโสในการควบคุมการประชุมว่า จริงๆ เรื่องอาวุโส ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ เป็น สส.ได้สมัยเดียว แต่ภราดรเป็น สส.สมัยที่ 4 แล้ว น่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่น และต้องขอความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วย ยืนยันว่า จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งพูดวันนี้ คงไม่มีใครเชื่อ แต่ให้รอดูในระยะเวลาที่เหลือว่า เราจะทำหน้าที่ได้ดีมากน้อยแค่ไหน เมื่อสิ้นสุดวาระแล้วค่อยตัดสิน
ส่วนหลักในการทำงานจะเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยทำงานเร็ว สั่งวันนี้ เสร็จตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งประชาชนชื่นชอบ ภราดร กล่าวว่า ในส่วนของการทำหน้าที่บนบัลลังก์ ก็มีหน้าที่ในการควบคุมการประชุม ทำให้การประชุมเป็นไปได้ด้วยความราบรื่น และทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ส่วนบทบาทหน้าที่ในการเป็นผู้ช่วยของประธานสภาผู้แทนราษฎรในกิจการของสภา ก็จะต้องรอดูว่า ประธานจะแบ่งงานกับรองประธานทั้งสองอย่างไร และก็จะมาดูว่า ส่วนที่ต้องรับผิดชอบมีอะไรบ้าง
