ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการนัดประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 17 ธ.ค. ที่ได้กำหนดวาระพิจารณาเรื่องด่วน คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว มีมติเห็นชอบตามร่างแก้ไขของวุฒิสภา ที่แก้ไขว่าด้วยเกณฑ์ผ่านประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ใช้เกณฑ์ผ่าน 2 ชั้น คือ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และ มีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น
ทั้งนี้ พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ กล่าวว่า ในวันดังกล่าว วาระการลงมติร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะถือเป็นเรื่องหลัก ดังนั้นจะเปิดให้ สว.ได้อภิปรายและซักถามอย่างเต็มที่ ในฐานะกรรมาธิการร่วมจะเป็นผู้ชี้แจงคำถามและคำอภิปรายของสว.ด้วย ทั้งนี้ ได้เตรียมข้อมูลใหม่และรายละเอียดที่จะชี้แจงต่อที่ประชุมแล้ว ทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ และเรื่องที่เกี่ยวเนื่องคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หลายฝ่ายกังวลว่าปัญหาของการแก้ไขพ.ร.บ.ประชามติ ที่ใช้หลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทำให้ยื้อเวลาการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งนี้ข้อมูลใหม่ที่ว่านั้นจะสนับสนุนต่อหลักเกณฑ์ประชามติเสียงข้างมาก 2 ชั้น
“ประเด็นเห็นต่างระหว่าง สว. เชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นขัดแย้ง เพราะความเห็นของฝ่ายเสียงข้างน้อย หรือเสียงข้างมาก ล้วนเป็นการทำหน้าที่ตามสิทธิที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้” พิสิษฐ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำถึงผลการลงมติเพื่อชี้ขาดบทบัญญัติที่แก้ไข พิสิษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพราะดูจาก สว.ที่เป็นกมธ.ร่วมที่ชัดเจนว่า เป็นเสียงข้างมาก ดังนั้นการโหวตของสว.ในที่ประชุมวุฒิสภา จะเป็นไปตามนั้น