‘พิธา’ ยันไม่ได้โอนหุ้นไอทีวีหนีความผิด

6 มิ.ย. 2566 - 09:05

  • พิธา’ ยันไม่ได้โอนหุ้นไอทีวีหนีความผิด แจงทำเพื่อปกป้องอนาคตไม่ให้กระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล

  • ยันไม่คิดแก้แค้น ‘ประยุทธ์’ ด้วยการไล่เช็กบิล แต่ต้องการให้เกิดวัฒนธรรมรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ

pita-limjaroenrat-itv-shares-prayut-SPACEBAR-Thumbnail
ประเด็นการขายหุ้นไอทีวี ที่ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กำลังถูก ‘เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ’ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ร้องเรียนให้ กกต. ตรวจสอบประเด็นนี้เพิ่มเติม  
 
ล่าสุด ‘พิธา’ ได้ชี้แจงประเด็นนี้หลังแถลงผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านนัดแรก ที่พรรคเพื่อไทยว่า ไม่ใช่การขายหุ้น แต่เป็นการโอนหุ้นไปให้ทายาทคนอื่นในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา แต่จำวันที่ไม่ได้ ส่วนหุ้นดังกล่าวโอนให้ใครนั้น ‘พิธา’ ไม่ได้เปิดเผยชื่อ เพียงแต่บอกว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว  
 
ส่วนประเด็นที่ ‘เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ’ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ข้อมูลว่าเป็นการขายหุ้น เมื่อเห็นข่าวนี้อยากจะชี้แจงเลยหรือไม่ ‘พิธา’ นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตอบว่าไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นอะไร เพราะเรื่องหุ้นและเรื่องครอบครัว ได้ชี้แจงในโพสต์เฟซบุ๊กไปแล้ว  
 
“หลายคนออกมาบอกว่า มีความพยายามสกัดกั้นผมออกจากการเมือง ผมได้ยินอย่างนี้ แน่นอนว่าต้องกังวล เพราะอดีตกับอนาคตไม่เหมือนกัน อย่างที่บอกว่าอดีตก็คืออดีต แต่ในอนาคตมีความไม่แน่นอนอยู่ ดังนั้นต้องมีความแน่นอน เพื่อให้ตั้งรัฐบาลให้ได้” 
 
ส่วนเรื่องนี้จะกระทบคุณสมบัติการเป็น ส.ส.หรือไม่ ‘พิธา’ บอกว่าต้องดูในรายละเอียดและพร้อมชี้แจง แต่ตอนนี้รอแค่ทาง กกต. ประสานมาเท่านั้น เพราะไม่แน่ใจว่าสงสัยในประเด็นใด  
 
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าการโอนหุ้นเป็นการหนีความผิดและปัดเรื่องให้พ้นตัวหรือไม่ ‘พิธา’ อธิบายว่สเป็นการโอนเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจกระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล  
 
“โอนเพื่อป้องกันว่าในอนาคตจะมีการฟื้นคืนชีพไอทีวี ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจของเขา หรือเป็นเพราะเหตุผลทางการเมืองในการสกัดกั้นผม เพราะฉะนั้นเราต้องป้องกันความเสียงตรงนี้เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้” 
 
ส่วนประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่ห่วงเรื่องการเช็คบิลของพรรคก้าวไกล ‘พิธา’ ระบุว่าเป็นเรื่องที่สามารถอนุมานได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ และต้องเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่จะต้องมาเช็คบิลกัน แต่เขามองว่าต้องการให้เกิดวัฒนธรรมรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเรื่องการทำรัฐประหาร หรือการใช้ ม.44 ที่มีผลกระทบต่อประชาชนและสิทธิมนุษยชน เช่นเรื่อง พระราชบัญญัติแร่ปี 60 โดยยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่จะต้องแก้แค้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์