‘พปชร.’ มองมติ ‘แพทยสภา’ บ่งชี้ ‘ทักษิณ’ ป่วยทิพย์ ส่อทำ ‘อิ๊งค์’ เสี่ยงคดี

กรณี คณะกรรมการแพทยสภา มีมติยับยั้งการวีโต้ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการที่มีสิทธิลงคะแนนทั้งคณะ โดยยืนยันลงโทษแพทย์ 3 ราย ตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2568 

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณและชื่นชมคณะกรรมการแพทยสภาทุกท่านที่ พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา และยึดหลักการความเป็นจริง และความถูกต้อง มากกว่าประโยชน์ของคนบางคน พร้อมระบุว่า การพิจารณาของแพทยสภาครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำและแสดงให้เห็นว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ‘ป่วยทิพย์’ ไม่ได้ป่วยวิกฤติ จนถึงขั้นที่ต้องรับการรักษานานถึง 180 วัน อีกทั้งตลอดการรับโทษจำคุก 180 วัน ก็ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และถือว่า ไม่มีการควบคุมตัวมาก่อน จึงทำให้ขาดคุณสมบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษ 1 ปีที่เหลือด้วย

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ยังระบุว่า ผลการพิจารณาดังกล่าวยัง ส่งผลกระทบถึง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากตัว นายกฯ ได้เข้าเยี่ยม และให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงอาการป่วยของทักษิณ เพื่อให้ประชาชนและศาลฯ หลงเชื่อว่าทักษิณ มีอาการป่วยหนักจริง

ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ของ ดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่อ้างว่า ได้รับแจ้งอาการป่วยจาก หัวหน้าพรรคก็คือ ตัวท่านนายกฯ ว่า ทักษิณป่วยเป็นเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จที่หลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ และหลอกลวงศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ระบุว่า กรณีที่ ท่านนายกฯ เดินทางไปราชการเกี่ยวกับเปิดช่องทางการค้า EU ที่ประเทศอังกฤษ ทั้งๆ ที่ประเทศอังกฤษได้ออกจาก EU หรือ Brexit เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 แล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่า การใช้งบประมาณทางราชการ กว่า 200 ล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนอย่างเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงกรณีการโยกงบประมาณฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144  ยังเป็นประเด็นที่ พปชร.ให้ความสนใจ  และเตรียมคณะทำงานเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการต่อไป