ยอดดับคนไทยพุ่ง 30 ราย ‘นายกฯ’ ขอแรงงานรีบตัดสินใจจะอยู่อิสราเอลหรือกลับประเทศ

18 ต.ค. 2566 - 03:40

  • ‘เศรษฐา’ เสียใจคนไทยเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดพุ่ง 30 ศพ

  • เผย ‘เลขาฯ ยูเอ็น’ เห็นใจไทยสูญเสียมาก หวังนานาชาติเจรจายุติปมขัดแย้ง ‘อิสราเอล-ฮามาส’

  • เร่งอพยพแรงงานออกจากพื้นที่สีแดงเร็วที่สุด วอนรีบตัดสินใจว่าจะอยู่หรือกลับไทย

PM-asks-workers-to-quickly-decide-whether-to-stay-Israel-or-return-Thailand-SPACEBAR-Hero.jpg
PM-asks-workers-to-quickly-decide-whether-to-stay-Israel-or-return-Thailand-SPACEBAR-Photo01.jpg

ยังต้องเกาะติดเป็นรายวันสำหรับความคืบหน้าของการอพยพคนไทย ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้ง ‘อิสราเอล-ฮามาส’

โดยระหว่างปฏิบัติภารกิจที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง รายงานคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 30 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บและตัวประกัน ยังมีตัวเลขเท่าเดิม ขณะที่ในการพบปะกับ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส (António Guterres) เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) และผู้นำหลายประเทศ ระหว่างงานเลี้ยงรับรองที่ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเจ้าภาพ ซึ่งทุกคนแสดงความห่วงใยกับสถานการณ์ที่อิสราเอล และทุกคนมั่นใจว่าสถานการณ์จะเคลื่อนไปในทิศทางที่เลวร้ายลง

ทั้งนี้ ได้แจ้งกับเลขาธิการยูเอ็นว่า ไทยเป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ในความขัดแย้ง แต่กลับเป็นผู้ที่สูญเสียมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ ซึ่งเลขาฯ ยูเอ็น แสดงความตกใจ และแสดงความเห็นใจมายังประเทศไทย พร้อมแจ้งว่า ในวันที่ 19 ตุลาคม จะเดินทางไปอียิปต์และไปยังจุดที่มีความขัดแย้ง ซึ่งเข้าใจว่า ไปกดดันให้มีการยุติโดยสันติภาพให้เร็วที่สุด แต่ก็เชื่อว่าสถานการณ์ก็ไม่ดีเท่าไหร่ และแสดงความห่วงใยอย่างมาก พร้อมเป็นกำลังใจให้ประเทศไทย

“ผู้นำหลายประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรง ก็พยายามเดินทางเข้าไปเจรจา ล่าสุด โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เตรียมเข้าไป เช่นเดียวกับประเทศอียิปต์ ก็มีส่วนร่วมในการช่วยเจรจา ซึ่งทุกประเทศเป็นห่วงสถานการณ์ เนื่องจากเห็นว่าไม่น่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี”

15-thai-workers-in-israel-have-arrived-in-thailand-SPACEBAR-Photo10 (1).jpg

มั่นใจรับคนไทยกลับได้หมดภายในสิ้นเดือนนี้ ยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือคนไทยกลับประเทศด้วยว่า ปัจจุบันสามารถนำคนไทยออกมาได้เฉลี่ย 400 คนต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนการกลับไทยเพิ่มขึ้นวันละ 600 คน ดังนั้น ความจำเป็นในการนำเครื่องบิน A380 ซึ่งสามารถรองรับได้เที่ยวละ 500-600 คน ก็น้อยลง เนื่องจากไม่สามารถนำคนมารวมกันไว้ได้เยอะขนาดนั้น เพราะสถานที่ไม่สามารถรองรับได้ ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถรับคนไทยที่แจ้งความประสงค์เดินทางกลับได้หมดภายในสิ้นเดือนนี้

“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ ได้ติดต่อกับท่าเรือ เพราะบางประเทศได้นำเรือสำราญไปรับคนออกมา เช่น สหรัฐฯ ไปรับออกมา 1,500 - 2,000 คน ออกมาจากอิสราเอลแล้วไปจอดไซปรัส แต่ขณะนี้ ท่าเรือปิดแล้ว หากไทยขอไปอีกอาจจะลำบาก มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น อีกทั้งการรับคนออกมาจากพื้นที่เสี่ยง แล้วมารวบรวมไว้เป็นพันคนไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องโลจิสติกส์เป็นเรื่องที่ลำบากใจมาก”

Ministry-of-Foreign-Affairs-talks-with-Israel-Hurry-to-help-the-hostages-SPACEBAR-Hero.jpg

เร่งอพยพคนไทยออกจากพื้นที่สีแดงเร็วที่สุด วอนรีบตัดสินใจว่าจะอยู่หรือกลับไทย

นายกฯ ยังกล่าวถึงประเด็นความสับสนทางข้อมูล เพราะก่อนหน้านี้ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย แจ้งว่าสามารถอพยพคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงได้ถึง 99% ซึ่งความจริงแล้วยังไม่ใช่ เพราะจากเที่ยวบินล่าสุด มีคนไทยที่แจ้งความประสงค์จะกลับ ยังไม่สามารถออกจากพื้นที่นั้นได้หลายสิบคน ทำให้คนที่เดินทางกลับลดน้อยลง จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และหากสถานการณ์การสู้รบของทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ จะทำให้เกิดความสูญเสียมากขึ้น เป็นภาระของรัฐบาลที่จะต้องนำคนไทยออกมาให้ได้มากที่สุด

โดยจะต้องประสานด้านโลจิสติกส์ให้ดีว่า หากนำตัวออกจากพื้นที่เสี่ยงได้แล้วจะทำอย่างไร ซึ่งขณะนี้ ฝ่ายค้านมั่นคง โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็พยายามติดต่อประสานเพื่อนำคนไทยออกมาให้ได้เร็วและปลอดภัยที่สุด แต่การลำเลียงคนออกจากพื้นที่สีแดง ไม่ใช่ทำได้ตลอดเวลา ต้องดูเรื่องเวลาด้วย ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามเจรจาและดำเนินการหลายๆ อย่าง

“ผมอยากให้คนที่ยังได้ตัดสินใจ เร่งตัดสินใจว่าจะกลับหรือไม่กลับ เพราะความเสี่ยงอยู่ที่ตัวท่าน ส่วนหน้าที่ของรัฐบาล หากท่านแสดงความจำนงค์ว่าจะกลับ เป็นหน้าที่เราที่ต้องทำอย่างเต็มความสามารถ เพื่อลำเลียงคนออกมาให้เร็วและปลอดภัยที่สุดและวันที่ 18 ตุลาคม กระทรวงการต่างประเทศ จะประสานไปที่สถานเอกอัครราชทูต เพื่อตรวจสอบจำนวนเที่ยวบินว่ามีเท่าไหร่ ที่สำคัญต้องนำคนไทยไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยก่อนบินกลับประเทศ”

PM-asks-workers-to-quickly-decide-whether-to-stay-Israel-or-return-Thailand-SPACEBAR-Photo02.jpg

ชุดที่ 8 ถึงมาตุภูมิแล้ว! 266 คนไทยจากอิสราเอล

ขณะเดียวกัน แรงงานไทยชุดที่ 8 จำนวน 266 คน ได้เดินทางถึงประเทศไทย เมื่อเวลา 03.30 น. ของวันนี้ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 8951 และทันทีที่มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กระทรวงแรงงานได้จัดเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะให้บริการคำแนะนำเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้แรงงานไทยได้รับเงินสิทธิประโยชน์ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์