แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกัมพูชาปิดด่านชายแดนฝั่งกัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรีว่า เป็นเรื่องที่สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาพูดเรื่องจะไม่รับสินค้าไทยใช่หรือไม่ ตอนแรกกัมพูชาได้ยินว่า ประเทศไทยจะตัดน้ำตัดไฟบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นมาตรการที่ต้องผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อน เรายังไม่ได้ประกาศอย่างนั้นออกไป เป็นเพียงมาตรการเตรียมความพร้อม แต่เรายังไม่ได้ดำเนินการอาจมีการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น ก็ได้สอบถาม ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม และมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ อยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะอาจมีความเข้าใจผิดว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์ว่าจะตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีการพูดคุยกันได้ตกลงกันเรียบร้อยว่า ทั้ง 2 ฝ่ายปรับกำลังและไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น และเรารอที่จะประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - กัมพูชา (เจบีซี) วันที่ 14 มิ.ย. จึงต้องฝากสื่อสารว่า เรื่องตัดน้ำตัดไฟ รัฐบาลยังไม่มีแถลงการณ์ออกไป
เมื่อถามว่าต้องประสานโดยตรงไปยังผู้นำกัมพูชาหรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า จะให้กระทรวงการต่างประเทศประสานดูว่า ข้อมูลนั้นมาอย่างไร และเป็นกระบวนการอย่างไร แน่นอนว่าทุกสถานการณ์ต้องเตรียมความพร้อม เมื่อผ่านสมช.แล้ว ถึงจะเกิดขึ้นได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่ผ่านสมช.แต่เป็นกระบวนการที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งไม่รู้ว่า ข้อมูลหลุดไปอย่างไร จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้นจะกระทบกับการประชุม เจบีซี ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น แพทองธาร ตอบว่า วันที่ 14 มิ.ย. ในการประชุมจะพูดคุยรายละเอียดกันมากขึ้นว่า จะทำอะไรกันบ้าง เพราะเวลาคุยกันเป็นเรื่องๆ มันไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมด และหลังการประชุม จะมีแถลงความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ เพราะเหตุใดเมื่อเราตกลงกันได้พอผ่านไป วันสองวันทางกัมพูชาก็เปลี่ยนไป แพทองธาร กล่าวว่า มันมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการ ซึ่งก็ต้องอธิบาย
จากนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี แต่แพทองธารไม่ตอบคำถามดังกล่าว เดินไปขึ้นรถเดินทางออกไปทันที
