พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมต.กลาโหม กล่าวภายหลังให้การต้อนรับชุดค้นหาและกู้ภัยในเมืองแห่งชาติ (National Urban Search and Rescue : USAR) หรือทีม USAR Thailand ที่เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจที่สาธารณรัฐตุรกี โดยย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและตุรกี ที่ได้มีการขับเคลื่อนร่วมกันในหลายด้าน พร้อมยืนยัน ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามสร้างความสัมพันธ์กับทุกประเทศ โดยขณะนี้ได้มีการเดินหน้าเจรจาด้านต่างๆ ทั้งกลุ่ม RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership: ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) รวมถึงประเทศอื่นๆ หรือในการประชุมเอเปค (APEC 2022) ที่ผ่านมา ไทยก็ได้นำเสนอความก้าวหน้าเพื่อให้เกิดความร่วมมือต่างๆ
“ประเด็นสำคัญคือ ตนได้พยายามเร่งรัดกันทำ FTA ที่ค้างมายาวนาน และมีปัญหามาก เพราะแต่ละประเทศก็มีปัญหาของตัวเองด้วย เราก็ต้องหาตรงกลางให้ได้ซึ่งหลายประเทศใน EU ที่ได้มาพบกับตนก็ยินดีที่จะ support ให้ EU เจรจา FTA กับไทย ซึ่งหลาย 10 ประเทศ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเรา ก็ต้องดูต่อไปว่าในส่วนของ EU จะว่าอย่างไร เพราะบางครั้งมันไม่ตรงกัน แต่ละประเทศต่างก็มีสินค้าหรือการบริการ ซึ่งบางอย่างอาจมีปัญหาความเข้มงวดในเรื่องของคุณภาพ ก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การตรวจสอบคุณภาพและที่มา เพราะจะเป็นประเด็นต่อไปในอนาคต ซึ่งจะถูกระบุไว้ในสัญญาและข้อตกลง ประเทศไทยกำลังเดินหน้าต่อไป ขอให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เรื่องอะไรที่เป็นปัญหาก็ต้องช่วยและแก้ไขปัญหากันต่อไป มันเป็นธรรมดาจะเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ก็ต้องแก้กันไปเราอยู่ด้วยกันคนเกือบ 70 ล้านคน มันก็ต้องมีปัญหาบ้าง” นายกฯ ระบุ
นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการดูแลสนับสนุนทีม USAR ซึ่งกระทรวงมหาดไทย พร้อมดำเนินการต่อไป
“สิ่งที่ภาคภูมิใจ และได้ขอบคุณ รมว.มหาดไทย หารือวันนี้ พรุ่งนี้ พร้อมไปเลย เรื่องแค่นี้มันอยู่ที่จิตใจ เมื่อจิตใจทุกคนมีความพร้อมอยากจะไปช่วย และโชคดีที่เมื่อกลับมาไม่มีใครบาดเจ็บสูญเสีย ทำให้ผมภูมิใจ และพราวด์ (proud) มาก เวลากลับมาคนไทยต้องพราวด์ในความเป็นไทย ของเราสิ่งดีๆเยอะแยะ และครั้งนี้ เอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้พูดถึงคนไทยรัฐบาลไทย โดยเฉพาะพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ที่ทรงพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือรวมไปถึงภาคเอกชน ซึ่งท่านทูตตุรกีประจำประเทศไทย บอกว่าคนไทยน่ารัก ดังนั้น เราต้องรักกัน คนอื่นเขามอง เขายังรักเราเลยนะ คนไทยต้องรักกัน” นายกฯ ระบุ
ส่วนเมื่อถามว่ารวมถึงนักการเมืองด้วยหรือไม่ที่มีความรักและเสียสละ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงอาการค้อน และสะบัดหน้าพร้อมกล่าวว่า “เฮ้ย ขี้เกียจฟัง” ก่อนเดินไปขึ้นรถกลับทันที
“ประเด็นสำคัญคือ ตนได้พยายามเร่งรัดกันทำ FTA ที่ค้างมายาวนาน และมีปัญหามาก เพราะแต่ละประเทศก็มีปัญหาของตัวเองด้วย เราก็ต้องหาตรงกลางให้ได้ซึ่งหลายประเทศใน EU ที่ได้มาพบกับตนก็ยินดีที่จะ support ให้ EU เจรจา FTA กับไทย ซึ่งหลาย 10 ประเทศ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเรา ก็ต้องดูต่อไปว่าในส่วนของ EU จะว่าอย่างไร เพราะบางครั้งมันไม่ตรงกัน แต่ละประเทศต่างก็มีสินค้าหรือการบริการ ซึ่งบางอย่างอาจมีปัญหาความเข้มงวดในเรื่องของคุณภาพ ก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การตรวจสอบคุณภาพและที่มา เพราะจะเป็นประเด็นต่อไปในอนาคต ซึ่งจะถูกระบุไว้ในสัญญาและข้อตกลง ประเทศไทยกำลังเดินหน้าต่อไป ขอให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เรื่องอะไรที่เป็นปัญหาก็ต้องช่วยและแก้ไขปัญหากันต่อไป มันเป็นธรรมดาจะเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ก็ต้องแก้กันไปเราอยู่ด้วยกันคนเกือบ 70 ล้านคน มันก็ต้องมีปัญหาบ้าง” นายกฯ ระบุ
นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการดูแลสนับสนุนทีม USAR ซึ่งกระทรวงมหาดไทย พร้อมดำเนินการต่อไป
“สิ่งที่ภาคภูมิใจ และได้ขอบคุณ รมว.มหาดไทย หารือวันนี้ พรุ่งนี้ พร้อมไปเลย เรื่องแค่นี้มันอยู่ที่จิตใจ เมื่อจิตใจทุกคนมีความพร้อมอยากจะไปช่วย และโชคดีที่เมื่อกลับมาไม่มีใครบาดเจ็บสูญเสีย ทำให้ผมภูมิใจ และพราวด์ (proud) มาก เวลากลับมาคนไทยต้องพราวด์ในความเป็นไทย ของเราสิ่งดีๆเยอะแยะ และครั้งนี้ เอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้พูดถึงคนไทยรัฐบาลไทย โดยเฉพาะพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ที่ทรงพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือรวมไปถึงภาคเอกชน ซึ่งท่านทูตตุรกีประจำประเทศไทย บอกว่าคนไทยน่ารัก ดังนั้น เราต้องรักกัน คนอื่นเขามอง เขายังรักเราเลยนะ คนไทยต้องรักกัน” นายกฯ ระบุ
ส่วนเมื่อถามว่ารวมถึงนักการเมืองด้วยหรือไม่ที่มีความรักและเสียสละ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงอาการค้อน และสะบัดหน้าพร้อมกล่าวว่า “เฮ้ย ขี้เกียจฟัง” ก่อนเดินไปขึ้นรถกลับทันที
