ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้ารายงานความคืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจรุ่นเบลล์ 212 ตก ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อหาสาเหตุและแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
เพราะจากรายงานทราบว่า อากาศยานของกองบินตำรวจ ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ จำนวนมากมีอายุการใช้งานยาวนาน และขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ จนอาจเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติภารกิจ
“เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน แต่ชีวิตความปลอดภัย และสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน”
— นายกฯ กล่าว
🔴 ‘ผบ.ตร.’ รายงาน ‘นายกฯ’ เหตุ ฮ.ตำรวจตก ยันหากพบทุจริตไม่มีละเว้น
ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยต่อสื่อมวลชน หลังเข้ารายงานนายกฯ ต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่า นายกฯ มีความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ดังกล่าวจึงให้ผม และทีมงานของกองบินตำรวจมารายงานข้อมูล เพราะมีความห่วงใยความต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าต้องการอะไรอย่างไรโดยให้พิจารณาแล้วนำเสนอมา
ส่วนที่มีการออกมาเปิดเผยว่าเฮลิคอปเตอร์ลำเกิดเหตุ ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมบิน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ผมและผู้บริหารตร. ตระหนักถึงความปลอดภัยของนักบินเป็นอันดับแรก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเราสูญเสียอย่างมาก การแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นสามารถทำได้ และเราต้องตรวจข้อเท็จจริง หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีใครพฤติมิชอบทำผิดสิ่งนั้นจะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ส่วนในฐานะผู้บังคับบัญชามองอย่างไรกับข้อความที่ว่าเฮลิคอปเตอร์ไม่พร้อมบิน แต่ต้องบิน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เราไม่ปฏิเสธการเห็นหรือการฟัง ผมได้เอาความเห็นดังกล่าวส่งให้จเรตำรวจแห่งชาติเพื่อเป็นประเด็นตรวจสอบแล้ว ยืนยันเราไม่ละเลยความเห็นใด
🔴 ขอเฮลิคอปเตอร์ใหม่ อยู่ในแผน ต้องดูความจำเป็น-งบประมาณ
เมื่อถามว่าทาง ตร.จะขอเฮลิคอปเตอร์ใหม่หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่าการขออากาศยานใหม่อยู่ในแผนการบริหารงาน เรามีความอยากได้อย่างเดียวไม่ได้ เราต้องดูภารกิจ ความจำเป็น และงบประมาณ ในสิ่งที่เราจะได้ และแนวคิดเรื่องการบริหารงานจากนี้ ผมคิดถึง 10 ปีข้างหน้าโดยเอาเรื่องภารกิจและความจำเป็น กับอากาศยานที่มีอยู่มารวมกัน เพื่อดูว่าเราต้องการเท่าไหร่อย่างไร
ส่วนประเด็นที่เพจ CSI LA เปิดเผยว่า เฮลิคอปเตอร์มีอยู่ 69 ลำสามารถใช้จริงได้แค่ 9 ลำ ขณะที่การซ่อมบำรงไม่เป็นตามมาตรฐานมีการทุจริต พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ทุกคนมีข้อมูลแต่เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทางผู้บริหารกองบินด้วยว่าจริงๆ แล้วมีเท่าไหร่ใช่ได้เท่าไหร่ ใช้ไม่ได้เพราะอะไร และที่ใช้อยู่หรืออยู่ระหว่างรอซ่อมเป็นการซ่อมตามวงรอบ ไม่ใช่รอบชั่วโมงบินที่กำหนดแล้วไม่ซ่อมไม่ดูอย่างนี้ถือว่าละเลยหรือไม่อันนี้น่าดูมากกว่า
แต่ถ้ามีการซ่อมเป็นปกติก็ไปดูว่าซ่อมตามวงรอบหรือไม่ ส่วนที่จะเกิดการทุจริตเหมือนที่ถามหรือไม่ต้องขึ้นกับการตรวจสอบ พร้อมย้ำว่า
“ถ้าตรวจสอบแล้วมีการเบียดบังทุจริตอะไรก็ตาม เราดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะนี่คือชีวิตของมนุษย์ ชีวิตของนักบิน และชีวิตของผู้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ เราจึงจำเป็นต้องให้ปลอดภัยที่สุด ซึ่งนายกฯได้กำชับการตรวจสอบเรื่องนี้ว่าให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตคน”
— พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว
