ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยเสนอรื้อโควตารัฐมนตรีทุกกระทรวง ในส่วนพรรคเพื่อไทยได้มีการคุยกันเรื่องนี้หรือไม่ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการคุย เพราะช่วงนี้สภาปิดด้วย และนายกรัฐมนตรียังไม่ได้ว่าอะไร เป็นไปตามข่าวที่นายกให้สัมภาษณ์หลายๆ ครั้ง
ส่วนจะมีการนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมาคุยเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอนไหนนั้น ประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ ที่มีอำนาจดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งนี้ หากมีการปรับ ครม.จริง จะมีผลกระทบภายในรัฐบาลหรือไม่นั้น ประเสริฐ กล่าวว่า รัฐบาลทำงานได้อยู่แล้ว มั่นใจว่า รัฐบาลดำเนินการบริหารประเทศต่อ
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีปัจจัยภายนอกเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา จะกระทบต่อการปรับครม. หรือไม่ ประเสริฐ กล่าวว่า จริงๆ เรื่องกัมพูชาเป็นปัญหาระหว่างประเทศ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เห็นว่าจะต้องมีการแก้ไข
เมื่อถามว่า ข่าวการปรับ ครม.ทำให้รัฐมนตรีต่างๆ เสียกำลังใจหรือไม่ ประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากให้หวั่นไหว ต้องทำงานตามที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ดูแลกระทรวงไหนอยู่ในปัจจุบันก็ต้องทำให้ดีที่สุด
ส่วนกรณีมีข่าวหนาหูที่มีชื่อของประเสริฐไปนั่งเป็นรมว.มหาดไทยนั้น ตอนนี้ยังเป็นแค่ข่าวลือ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยถือเป็นกระทรวงสำคัญ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยจะดูแลโดยพรรคแกนนำรัฐบาล แต่ในรัฐบาลชุดนี้ตกไปเป็นของพรรคอันดับสองในรัฐบาล ประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงสำคัญในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล เพราะดูแลส่วนราชการส่วนกลาง เป็นกระทรวงที่ลงไปถึงตำบล หมู่บ้าน ดูตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และการปกครองส่วนท้องถิ่น
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าจำเป็นต้องไปนั่ง รมว.มหาดไทย ก็ต้องไปใช่หรือไม่ ประเสริฐหัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับการปรับ ครม. ถ้ามีนะครับ” เมื่อถามว่า รมว.มหาดไทยจะต้องเป็นคนบู๊ คิดว่า ตัวเองสามารถทำได้หรือไม่ ประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอไม่วิจารณ์
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังกล่าวถึงการตรวจสอบและการแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลที่ส่งผลต่อข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการเผยแพร่ภาพ AI ที่เกี่ยวข้องกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ไม่เหมาะสม ว่า ภาพหรือข้อความที่ปรากฏขึ้นส่วนหนึ่งเป็น AI ถือว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 คือ การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จและส่งผลต่อความมั่นคง ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหว เนื่องจากส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ฉะนั้น ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงดีอีสั่งการให้มีการปราบปรามข่าวปลอม โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลต่อความขัดแย้ง โดยทางกระทรวงได้สั่งปิดกั้น และหากตรวจพบว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางกระทรวงจะเป็นผู้แจ้งความ เนื่องจากเป็นความผิดต่อความมั่นคง ส่งผลกระทบต่อความสงบภายในประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากข้อมูลมีต้นตอมาจากประเทศกัมพูชาจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ประเสริฐ กล่าวว่า ต้องดำเนินการปิดกั้นก่อน ซึ่งอาจเป็นไปได้หากมีการแชร์มาจากต่างประเทศ ฉะนั้น เรื่องนี้ต้องมีการทำความเข้าใจกันและกระทรวงก็มีคณะทำงานร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้วในการต่อต้านข่าวปลอม ซึ่งต้องแจ้งไปยังกัมพูชาเพื่อให้ช่วยดูอีกช่องทางหนึ่ง
