สามารถ เจนชัยจิตรวานิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยภายหลังพรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบบาลโดยที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต้องมาแสดงความชัดเจน ให้กับพรรคพลังประชารัฐและยืนยันว่า หลังจากนี้ทางพรรคจะมีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน
นายสามารถ กล่าวว่า ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ถูกถอดถอนจากศาลรัฐธรรมนูญ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งมีข้อมูลมารายงานถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า จะให้ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ 3 เดือน และจะให้ทุกคนอยู่ตำแหน่งเดิม แต่สุดท้ายกลับเป็นข่าวเป็นแพทองธาร และเมื่อพรรคร่วมมีมติโหวตให้นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ก็ไม่มีการเสนอแข่ง แม้คนอภิปรายก็ไม่มี เพราะทุกพรรคเชื่อคำมั่นสัญญาลูกผู้ชาย อย่างที่เคยปฏิบัติมาในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ใครจะได้กระทรวงใดบ้าง ไม่คิดว่า จะมีการเบี้ยวหรือหักหลังกัน และย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐโหวตให้แพทองธาร 39 เสียง ยกเว้นพล.อ.ประวิตร ที่ติดภารกิจต้อนรับนักกีฬาโอลิมปิก อีกทั้งยังมีมติให้ส่งชื่อรัฐมนตรีตามเดิม ย้ำว่า เราทำทุกอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา ไม่มีการไปเกาะเก้าอี้ขอหรือต่อรอง แต่พรรคเพื่อไทยกลับมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออก แม้แพทองธารจะให้สัมภาษณ์ว่าจะมีพรรคพลังประชารัฐร่วม และก็ไม่ทราบว่าการที่พรรคเพื่อไทยไปเทียบพรรคอื่นมาแทน ได้ถามแพทองธารแล้วหรือไม่
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า พล.อ.ประวิตร เป็นปฏิปักษ์ต่อการโหวตนายกฯ นั้น พรรคการเมืองอื่นน่าจะเป็นปฏิปักษ์มากกว่า เพราะงดออกเสียงให้แพทองธาร จึงมองว่า เรื่องนี้ไม่เป็นธรรม และสื่อมวลชนย่อมทราบอยู่แล้วว่า พล.อ.ประวิตร มีสว.เท่าไหร่ ฉะนั้น ถ้าอยู่เบื้องหลัง 40 สว.จริงคงยื่นไปหมด ให้ไปใล่เช็คว่า 40 สว. ยื่นถอดถอน คนไหนเป็นเพื่อนพล.อ.ประวิตรบ้าง พร้อมยืนยันว่า ไม่เอาคืน แต่ใช้กระบวนการกฎหมาย ทั้งนี้ เกิดมาไม่เคยเห็นการโหวตไปก่อนแล้วมาหักหลังกันทีหลัง
ส่วนอาการของพล.อ.ประวิตร เป็นอย่างไร สามารถ กล่าวว่า “ลุงป้อมก็ดูดไปป์ อารมณ์ดี เมื่อวานก็ดูข่าว ท่านไม่ได้เครียดอะไร”
สามารถ กล่าวว่า หากแพทองธาร คิดว่ามติของพรรคเพื่อไทยสำคัญ แนะนำว่าให้ แพทองธาร ควรลั่นวาจาว่าลาออก และโหวตนายกฯ ใหม่ เพื่อความสง่างาม ถ้าได้เสียง 300 เสียงขึ้นไปก็ถือว่าดี จะได้แข็งโป๊ก และอยากจะเตือนให้พรรคร่วมรัฐบาลระวังตัวไว้ด้วย ขอทวงความชอบธรรม ส่วนจะจัดการกับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อย่างไร ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ สามารถ กล่าวว่า บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง พรรคก็มีกฎ ก็ต้องดำเนินการไปเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรค ซึ่งพรรคพลังประชารัฐไม่ได้แตกเป็น 2 ส่วน พรรคพลังประชารัฐอยู่ที่เดิม ที่ตั้งก็ยังอยู่ที่เดิม เวลาประชุมก็ยังประชุมได้อยู่เหมือนเดิม และหากในอนาคตมีสส.ในพรรคโหวตสวนมติฝ่ายค้าน ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ แต่สุดท้ายก็มีกฎของพรรค ซึ่งเชื่อว่าพรรคการเมืองเป็นสถาบันมีกฎและระเบียบ ส่วนมีโอกาสจะขับ ร.อ.ธรรมนัสออกจากพรรคหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ย้ำว่า เรื่องนี้ปิดสวิตซ์ 3 ป.ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะพล.อ.ประวิตร ยังเป็นสส.และแคนดิเดตนายกฯ อยู่ อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร ยังไม่เห็นบอกว่า จะลาออก สส.
เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประวิตร จะทำงานร่วมกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ สามารถ กล่าวว่า ฝ่ายค้าน ไม่ต้องการความสามัคคีเหมือนพรรครัฐบาล พรรคประชาชนอะไรดีก็ทำไป แต่เชื่อความมืออาชีพของพรรคพลังประชารัฐว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกมิติ ทั้งนี้ อย่างโยงบุคคลนิรนามที่ไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ว่ามีความเกี่ยวข้องกับพล.อ.ประวิตร หากการกระทำใดของนายกฯ ไม่ชอบธรรมหรือไม่ถูกต้อง ประชาชนก็ไปยื่นได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเราไม่ทำผิด ใครจะไปยื่นตรวจสอบเราได้