Prawit-first-debate-in-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Photo00.jpg
Prawit-first-debate-in-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Photo01.jpg
Prawit-first-debate-in-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Photo02.jpg
Prawit-first-debate-in-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Photo03.jpg

Photo Story : ครั้งแรกของ‘ประวิตร’ ลุกขึ้นอภิปราย ‘แพทองธาร’ ในฐานะฝ่ายค้าน

24 มี.ค. 2568 - 03:17

  • ใจบันดาลแรงกลับมาแล้ว ! ‘ประวิตร’ เข้าสภาฯ ครั้งแรกในฐานะ ‘ฝ่ายค้าน’ ลุกขึ้นอภิปราย ‘แพทองธาร’

  • ลั่นประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้ ‘มือสมัครเล่น’ ซ้อมมือ บอก “ขอให้นายกฯ โชคดี”

  • ด้าน ‘อิ๊ง’ ยิ้มมุมปากลุกย้อน ‘บิ๊กป้อม’ บอก “ที่พูดมาไม่เป็นความจริง”

Prawit-first-debate-in-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Photo00.jpg
Prawit-first-debate-in-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Photo01.jpg
Prawit-first-debate-in-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Photo02.jpg
Prawit-first-debate-in-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Photo03.jpg

‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เข้าชื่อเสนอญัตติอภิปรายทั่วไปไม่ไว้วางใจ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ต่อไป ว่า เรื่องการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ ที่ผิดพลาดล้มเหลว วันนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไข อย่างที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญา พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทปิดกิจการจำนวนมาก ประชาชนหนี้ท่วมหัว ทั้งในระบบและนอกระบบ หนี้ครัวเรือนสูงถึง 104 % ราคาข้าวและพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ตลาดหุ้นดิ่งเหวในรอบ 3 ปีรัฐบาลไม่มีแนวทางอะไร ที่แก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าที่สำคัญ คือ การตัดสินใจที่ผิดพลาด ขาดความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเศรษฐกิจ ด้วยการตัดงบประมาณ นับแสนล้านบาท ที่ควรอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่นายกรัฐมนตรีกลับเอาเงินก้อนนี้ ไปใช้ แจกเงินหมื่น ซึ่งธนาคารโลก และ กองทุน IMF ได้ออกมาเตือนแล้วว่าการแจกเงินหมื่นไม่ได้ผล แต่ควรกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆแทน ถ้านายกรัฐมนตรีได้ศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างรอบคอบในทุกด้าน วันนี้คนไทยจะไม่ลำบาก ทุกข์ใจ ในเรื่องปากท้องอย่างแสนสาหัส

“จริงๆผมพยายามเอาใจช่วย นายกรัฐมนตรี ให้แก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องคนไทยให้สำเร็จ เพราะเห็นว่านายกรัฐมนตรีเคยบริหารธุรกิจมาก่อน คงมีประสบการณ์ที่จะมาช่วยประเทศชาติได้ แต่ปรากฎว่า นายกรัฐมนตรีไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น ซ้ำยังถอยหลังไปอีก จนจีดีพีของไทยรั้งท้ายในกลุ่มประเทศอาเซียน“

พล.อ.ประวิตร เป็นห่วงประเทศชาติอย่างมาก และไม่สบายใจต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง คือเรื่องของ MOU 44 ที่วันนี้ท่านพาประเทศชาติไปสู่ความเสี่ยง เรื่องการสูญเสียดินแดน  และทรัพยากรทางทะเลมูลค่ามหาศาลและที่น่าเศร้าใจ คือ ลูกเรือประมงไทยที่นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะพากลับประเทศไทย  นี่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้กลับ ในฐานะที่ทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดทั้งชีวิต ตั้งแต่ผู้บัญชาการทหารบก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนทราบดีว่า การดำเนินงานด้านความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจในหลายมิติมาก

”ผมเห็นใจนายกรัฐมนตรี ที่ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ในเรื่องที่ท่านไม่มีประสบการณ์ แต่เรื่องความมั่นคงของชาติสำคัญอย่างยิ่ง ประเทศชาติไม่ใช่เวที ให้มือสมัครเล่น มาซ้อมมือ"

พล.อ.ประวิตร กล่าว

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะร่างกฎหมายประกอบธุรกิจ สถานบังเทิงครบวงจร หรือที่เรียกกันว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลพยายามจะผลักดัน มันมีช่องให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องได้อย่างมาก ขอย้ำว่า โครงการนี้อันตรายอย่างที่สุด เพราะจะทำให้เกิดธุรกิจสีเทาตามมาอีกมาก ซึ่งทุกวันนี้ การปล่อยปละละเลยในเรื่องต่างๆก็ส่งผลให้ไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจสีเทา และปัญหาอาชญากรรมมากมาย  

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) ( 5) ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะเรื่องการถือหุ้น บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ตลอดจนการปล่อยปละละเลย ให้บุคคลในครอบครัวกระทำการ ให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตน  เรื่องนี้ขอให้เป็นการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้องต่อไป ผลเป็นเช่นไร ตนเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินท่านเอง

“ทั้งหมดที่ผมกล่าวมา ไม่ใช่การกล่าวด้วยอคติ แต่ข้อมูลหลักฐานต่างๆ สส. พรรคพลังประชารัฐอีก 4 ท่านจะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป ผมขอขอบคุณ สส.ทุกท่านในที่นี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และประชาชนทุกคน ที่รับฟังในสิ่งที่ผมพูด  ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง อาจไม่กระฉับกระเฉงเท่าตอนเป็นหนุ่มๆ ผมจึงใช้ “ ใจบันดาลแรง ”บริหารประเทศ ให้สำเร็จมาได้หลายอย่าง ส่วนนายกรัฐมนตรีเป็นคนหนุ่มสาวที่ยังมีแรง ผมเชื่อว่าถ้าท่านบริหารประเทศด้วยสติปัญญา  มีความอ่อนน้อม แต่หนักแน่นในหลักการ ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าครอบครัว พวกพ้อง ผมเชื่อว่าประชาชน จะชื่นชมและยอมรับท่านเองครับ ขอให้โชคดีครับ”

พล.อ.ประวิตร กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพล.อ.ประวิตร อภิปรายจบ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐนตรีได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีสมาชิกฝ่ายค้านขึ้นมาอภิปรายในประเด็นต่างๆต่อจากนี้อีกหลายท่านและตนเองพยายามจะตอบทุกๆหัวข้อจะได้มีความสบายใจเกิดขึ้น 

“สำหรับสมาชิกหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐผู้อาวุโสเมื่อกี้ตนเองได้ฟังท่านผู้และจับเวลานาฬิกาด้วยตัวเอง ท่านผู้ประมาณ 10 นาที และอยากจะบอกว่า ที่ท่านสมาชิกอาวุโสพูดเมื่อสักครู่นี้ไม่เป็นความจริงค่ะ” แพทองธาร กล่าวพร้อมยิ้มมุมปาก ก่อนจะลงนั่งเก้าอี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์