การเมืองเรื่อง ‘คลิปเสียง’ ซึ่งถูกเชื่อมโยงโดยตรงกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กลายเป็นหนังม้วนยาวไปแล้ว
เพราะล่าสุด ไพบูลย์ นิติตะวัน เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร มอบหมายให้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุด กับ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้ดำเนินรายการ ‘เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand’ ในข้อหาหรือฐานความผิด ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด
“ข้อ 2. ผู้ใดรับรู้ข้อความที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามข้อ 1 ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อความนั้น ต่อผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2567 ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ได้นำคลิปเสียงเสียงสนทนาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้มาจากการลักลอบตักฟังโดยโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด เผยแพร่ผ่านรายการ ‘เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand’ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
และต่อมา 12 ก.ย. 2567 พร้อมพงศ์ ได้นำคลิปลักลอบดักฟังเสียงสนทนาของ พล.อ.ประวิตร กับ สุทธิพงษ์ นำมาใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยคลิปลักลอบดักฟังเสียงสนทนาดังกล่าวต่อสื่อมวลชน และยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
การกระทำของ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ในการใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยคลิปเสียงสนทนาดังกล่าว ที่ได้มาจากการลักลอบดักฟัง เป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ข้อ 2. ซึ่งทำให้ พล.อ.ประวิตร ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง จึงมอบหมายให้ผมดำเนินคดีอาญากับ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ในฐานความผิดดังกล่าวจนถึงที่สุด ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ที่ สน.หัวหมาก
ไพบูลย์ นิติตะวัน