‘นันทนา นันทวโรภาส’ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวถึงการเข้าชื่อสว.เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยต่อประเด็นที่มีสว.กลุ่มหนึ่งถูกตรวจสอบกรณีฮั้วเลือก สว. ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างคำร้องที่จะยื่นต่อนายมงคลสุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นคาดว่าภายในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) จะดำเนินการแล้วเสร็จและส่งให้สว. อิสระทั้งหลาย พิจารณาร่วมลงชื่อ 1 ใน 10 หรือ 20 คน
สำหรับสาระสำคัญของคำร้อง คือ จะขอให้สว.ทั้ง 200 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระทั้งกระบวนการ เช่น การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรม การลงมติ เป็นต้น โดยมีเหตุผลคือ การหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนดังกล่าวของสว.ทุกคนเพื่อให้เกิดความเสมอภาค และไม่ลักลั่น
นันทนา กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นแล้วหากกระบวนการเห็นชอบองค์กรอิสระเดินหน้า อาจจะมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระที่อาจถูกร้องว่าเป็นโมฆะได้ หาก สว. ฐานะผู้ที่เห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระนั้นถูกชี้ว่าเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติ ดังนั้นเมื่อมีความไม่ชัดเจน อยากให้ สว. หยุดปฏิบัติเฉพาะส่วน ไม่ควรไปต่อ และขอให้หยุดจนกว่ากระบวนการตรวจสอบสิ้นสงสัย เมื่อกระบวนการตรวจสอบ สว.แล้วเสร็จ การกลับเข้าสู่การเลือกกรรมการองค์กรอิสระใหม่ ตนมองว่าไม่สายเกินไป และดีกว่าการดันทุรังให้เกิดการเห็นชอบ
"เหตุผลที่ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะ สว.จำนวนมาก ที่ถูกตรวจสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะกรรมการการเลือกตั้ง และเชื่อว่าจะมีสว.เกินกึ่งหนึ่งที่น่าจะถูกยื่นข้อกล่าวหา และกระบวนการนี้ดำเนินการอยู่ แปลว่าที่มาของสว. ไม่ชัดเจนว่ามาโดยถูกต้องชอบธรรม สุจริตหรือไม่ ดังนั้นหากที่มาไม่ชัดเจน และเข้าไปทำหน้าที่เห็นชอบกรรมการรองค์กรอิสระนั้นจะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ทันที เพราะเมื่อสว. ได้เห็นชอบองค์กรอิสระ ที่มีหน้าที่ตรวจสอบที่มาของสว. จึงมีลักษณะต่างตอบแทนกัน ไม่ใช่การตรวจสอบที่สุจริตโปร่งใสยุติธรรม”
— นันทนา กล่าว
นันทนา กล่าวด้วยว่ากระบวนการเข้าชื่อและยื่นคำร้องดังกล่าวจะทำให้เร็วที่สุด เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาก่อนที่วุฒิสภาจะนัดประชุมในช่วงการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ ในวันที่ 29 พ.ค. นี้ เบื้องต้นเชื่อว่าจะมีสว.ร่วมสนับสนุนเกินจำนวนที่กำหนด
เมื่อถามว่าในคำร้องดังกล่าวมีประเด็นให้วินิจฉัยการขาดสมาชิกภาพเพราะฝันใฝ่พรรคการเมืองด้วยหรือไม่ นันทนา กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปเป็นมติชัดเจน
เมื่อถามว่านอกจากการหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนจะมีในเรื่องการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ด้วยหรือไม่ นันทนากล่าวว่า ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.สำคัญ เช่น ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าตามกฎหมายงบประมาณ สว.ไม่มีอำนาจมาก เพราะไม่สามารถ รัด เพิ่ม หรือแก้ไขได้ มีเพียงอย่างเดียวคือการลงมติ ดังนั้นบทบาทสว. ในกระบวนการพิจารณางบประมาณ ไม่มากนัก อีกทั้งเรื่องงบปะมาณเป็นเรื่องสำคัญชะลอไม่ได้