แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีโค้งสุดท้ายการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีอะไรกังวลหรือไม่ ว่า ไม่มี หากพูดในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็หาเสียงอย่างเต็มที่ เพื่อหวังว่าคนของพรรคเพื่อไทยจะได้มีโอกาสดูแลประชาชนในท้องถิ่นให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และไม่ว่าเป็นข้าราชการหรืออะไรทุกคนทราบหน้าที่ของตนเองอยู่แล้วจึงไม่น่ากังวลใดๆ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ให้ดูแลท้องที่อยู่แล้ว
เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย หาเสียงอย่างดุเดือด นายกฯ แพทองธาร หัวเราะพร้อมตอบว่า “ผู้ช่วยหาเสียงของดิฉันดุเดือนพอสมควรใช่มั้ยคะ ตัวจริงใจดีจะตาย แต่เวลาหาเสียงดุเดือดทุกที งงเหมือนกัน”
เมื่อถามว่า มีการมองว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) สู้กันอย่างหนัก จะส่งผลกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ แพทองธาร หันไปหารองนายกรัฐมนตรีที่ยืนอยู่ด้านหลัง ก่อนจะกล่าวว่า วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ไม่สบาย
“และความจริงแล้วการลงแข่งเลือกตั้งเหมือนการกีฬา ใครส่งทีมไหนก็เชียร์ให้ทีมของตัวเองชนะ ไม่จำเป็นว่าจบการกีฬาแล้วจะต้องโกรธกันหรือเกลียดกัน อย่างการเมืองเราไม่ได้เกลียดใคร เราสู้ด้วยประเด็น ออกจากห้องก็นั่งทานข้าวกันเหมือนเดิม อย่ามองการเมืองว่าเราจะมองหน้ากันไม่ได้เลย การหาเสียงทุกพรรคมีสิทธิ์ที่จะส่งผู้สมัคร และทุกคนก็เต็มที่กับการหาเสียง”
— แพทองธาร ชินวัตร
เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ปราศรัยที่เวทีจังหวัดศรีสะเกษ ในลักษณะไล่หนูตีงูเห่า แต่ข้อเท็จจริงพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอยู่ จะอธิบายประชาชนอย่างไร นายกฯแพทองธาร กล่าวว่า ตนถึงบอกให้มองเรื่องนี้เหมือนกีฬา ทุกพรรคมีสิทธิ์ส่ง รัฐบาลก็ทำงานร่วมกันเชิงนโยบาย ในเชิงของการบริหารประเทศ เรื่องนี้ต้องร่วมมือกันอย่าง 100% เพื่อที่จะผลักดันกฎหมายผลักดันนโยบาย ผลักดันสิ่งต่างๆ ให้เกิดเกิดขึ้นกับประชาชน
“การลงแข่งเลือกตั้งท้องถิ่นก็ถือว่าเป็นคนละพรรคกัน อันนี้ชัดเจนอยู่แล้วไม่ต้องงง เพราะเราคนละพรรคอยู่แล้ว แต่เราเป็นรัฐบาลเดียวกัน เป็นรัฐบาลหลายพรรค”
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่วันนี้ นายอนุทิน ไม่ได้มายืนด้านหลังนายกฯ ตอนแถลงข่าวเหมือนทุกสัปดาห์ นายกฯ แพทองธาร กล่าวว่า “เขาไม่สบาย”
ต่อมา นายกรัฐมนตรีเดินออกจากตึกบัญชาการเพื่อไทยยังตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอีกครั้งว่า หลังเสร็จสิ้นประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยนายกฯ หันไปถามทีมงานว่า “เมื่อสักครู่ ที่นั่งคุยทานข้าวร่วมกัน เรียกว่าคุยกับพรรคร่วมอยู่หรือไม่”
นายกฯ แพทองธาร กล่าวด้วยว่า “ประเด็นที่คุยไม่ได้มีสาระอะไรเลย เมื่อสักครู่ก็คุยกับนายอนุทิน ท่านกำลังจะลงขอให้สื่อไปรอสัมภาษณ์ มันไม่ได้มีสาระอะไร แต่ที่ยิ้มเพราะมันตลก”