‘นายกฯ’ ส่งคำแถลงปิดคดีตั้ง ‘พิชิต’ วันนี้ (30 ก.ค.) น้อมรับคำตัดสินศาล

30 ก.ค. 2567 - 08:19

  • ‘เศรษฐา’ ส่งคำแถลงปิดคดีตั้ง ‘พิชิต’ วันนี้ (30 ก.ค.) ปมคุณสมบัติ ‘นายกฯ’ ไม่ก้าวล่วง น้อมรับคำตัดสินศาล

  • ย้ำทำทุกอย่างตามกระบวนการกฎหมาย ไม่หวั่นกระแสมองหานายกฯ สำรอง

  • บอกประเทศไทยมีคนคุณภาพหลายคน ไม่ปิดทางหาก ‘ทักษิณ’ อยากมาช่วยงานรัฐบาล

Prime Minister-Sreththa-signs-a-statement-closing-the-case-appointing-Pichit-to-accept-the-court's-decision-SPACEBAR-Her.jpg

ทำเนียบรัฐบาล (30 กรกฎาคม 2567) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งคำแถลงปิดคดีที่ 40 สว.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากการแต่งตั้ง ‘พิชิต ชื่นบาน’ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้พร้อมแล้วทุกอย่าง ผมต้องไปเหลือเพียงที่ตนต้องเซ็นลงนาม ซึ่งคาดว่า หลังรับประทานอาหารเสร็จก็จะเซ็นลงนามเลย และจะส่ง ภายในเวลา 16:30 น. ภายในวันเดียวกันนี้ต้องส่งให้เรียบร้อย

เมื่อถามว่าจนถึงวินาทีนี้นายกรัฐมนตรียังมั่นใจในเก้าอี้ของนายกฯ ว่าจะได้ไปต่อได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐายิ้ม หัวเราะ และกล่าวว่า “อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าทุกอย่างเราก็ส่งไปขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมแล้ว  ผมไม่อยากจะก้าวล่วง วันนี้ผมก็จะทำ Closing Statements”

เมื่อถามต่อว่า วันนี้เริ่มมีการมองหานายกฯสำรอง หวาดหวั่นหรือไม่  นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า “ไม่ครับ”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ประเทศไทยมีบุคคลคุณภาพหลายคน ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และทุกอย่างยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง และน้อมรับคำตัดสิน”

เมื่อถามว่าหากคำตัดสินออกมาเป็นลบ ส่วนตัวนายกฯคิดว่าคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ควรมาจากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯเศรษฐา กล่าวว่า “อย่าพึ่งไปไกลไปแล้วครับส่วนตัวคิดว่าอย่าเพิ่งไปคิดเรื่องนั้นเลย เรามีกลไกของรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้แล้ว  ส่วนตัวคิดว่าถ้าเกิดว่าออกมาเป็นอย่างนั้นก็ต้องเป็นไปตามที่ว่ากันไป”

ผู้สื่อข่าวถามว่านับจากเหตุการณ์ตั้งแต่เขาใหญ่มาซอยรางน้ำจนกระทั่งบ้านจันทร์ส่องหล้า นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีบ้างหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่เรียนไปแล้วว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายทักษิณเมื่อวันคล้ายวันเกิด แต่ท่านไม่ได้รับสายคาดว่าติดทำบุญอยู่ ตนจึงได้ส่งดอกไม้เข้าไปอวยพร และช่วงบ่ายของวันเดียวกันหลังจากกลับจากจังหวัดนครพนม ได้มีการโทรศัพท์เข้าไปอวยพรอีกครั้ง ให้ท่านมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง ซึ่งก็เป็นการพูดคุยกันและยืนยันว่าไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง

“อย่างที่บอกว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของท่านอยากให้ท่านมีความสุข  ส่วนเรื่องเขาใหญ่หรือที่อื่น ก็เป็นการพบปะกันธรรมดา อย่างที่มีการถามไปแล้วทั้งเรื่องการตีกอล์ฟที่เขาใหญ่ เนื่องจากท่านรู้จักกันมานาน นายอนุทิน ก็เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านมาก่อน การไปตีกอล์ฟร่วมกันก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา”

เมื่อถามต่อว่ามีการจับตาในช่วงเดือนสิงหาคม ที่นายทักษิณจะพ้นโทษเป็นผู้บริสุทธิ์ นายกรัฐมนตรีจะให้เข้ามาช่วยงานในรัฐบาลด้านใดหรือไม่ นายกฯเศรษฐา กล่าว เรื่องแรกคือต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมถึงจะได้รับการพ้นโทษ เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว ส่วนเรื่องที่จะให้มาช่วยงานรัฐบาลยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกัน ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน และย้ำว่ายังไม่มีการพูดคุย

เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ปฏิเสธที่จะให้เข้ามาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่ปฏิเสธที่จะพูดคุยกัน คงมีการพูดคุยกัน แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้ต้องเป็นเป็นไปตามความประสงค์ของท่านด้วยไม่ใช่ของผมฝ่ายเดียว ก็ยืนยันนะครับว่ายินดี และพร้อมยินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกทุกท่าน”

เมื่อถามว่าในความคิดของนายกรัฐมนตรีนายทักษิณยังเป็นกระแสที่ประชาชนต้องการใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมคิดว่าคนเราที่เป็นนายกรัฐมนตรีมานานขนาดนี้ และเป็นนายกที่ได้รับความนิยมได้รับความนิยมชมชอบสูงสุดอย่างที่ผมเคยเรียนไป ท่านก็ยังคงมีคนรัก”

เมื่อถามว่าระยะเวลาความนิยมผ่านมาเกือบ 20 ปี วันนี้นายทักษิณก็ยังตอบโจทย์สถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองปัจจุบันได้ นายกฯ คิดเห็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนมีความคิดเห็น มีความหวังดีและมีความปรารถนาดีกับประเทศชาติในปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป องค์ประกอบหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นแต่ละปีแต่ละช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ก็จะมีความยากความซับซ้อน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์