‘รักชนก - สหัสวัต’ ลั่น ไม่หวั่นถูก ‘สุชาติ’ ฟ้องหมิ่นเรียก 50 ล้าน

19 มี.ค. 2568 - 06:13

  • ‘รักชนก - สหัสวัต’ ลั่น ไม่หวั่นถูกฟ้องหมิ่นเรียก 50 ล้าน หวังปิดปากละงานตรวจสอบ

  • ลั่น คงเสียชาติเกิด ถ้าเป็นสส. แล้วต้องรอแค่พูดในสภา ขนาดตั้งกระทู้ถามสด ยังไม่มาตอบ

  • ยันเดินหน้าขุดต่อ ขอพูดทุกที่ ทุกเรื่องเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม

Rakchanok_Sahasawat_Not_afraid_of_being_sued_by_Suchat_SPACEBAR_Hero_ba9665320a.jpg

‘รักชนก ศรีนอก’ สส.กทม.พรรคประชาชน(ปชน.) พร้อม ‘สหัสวัต คุ้มคง’ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ รมช.พาณิชย์ฟ้องหมิ่นประมาท 50 ล้านบาทหลังพาดพิงเรื่องการซื้อขายอาคาร Skyy9 ของสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ว่า โดย รักชนก กล่าวว่า วันนี้ครบรอบ 1 เดือนในการแฮคงบฯของสำนักงานประกันสังคม ตนไม่คิดว่าเรื่องประกันสังคมจะมาถึงในจุดนี้ ทั้งการบริหารงบต่างๆที่ไม่โปร่งใส ทั้งการปกปิดข้อมูล จนมาถึงเรื่องตึก Skyy9 ที่ขณะนี้เราได้กันคนละ 1 คดี ถือว่าเราทำสำเร็จในฐานะที่เราเป็น สส.ที่ออกมาพูดเพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกันตน จนมีคนเด้งรับ ยืนยันว่า เราพยายามจะตรวจสอบต่อไปเรื่อยๆ เพราะเรื่องประกันสังคมยังมีอีกหลายเรื่องให้ติดตาม สำหรับเรื่องการโดนฟ้องหมิ่นประมาท เราทั้ง 2 คนไม่ได้รู้สึกเป็นกังวล หรือร้อนรนอะไร

ยืนยันว่า สิ่งที่เราพูดเราไม่ได้พูดในฐานะที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลกับใคร แต่เราพูดในฐานะที่ยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของผู้ประกันตน ไม่ว่าใครในประเทศนี้ ก็ยืนยันแทนเราได้ว่า เป็นสิ่งที่สาธารณะได้ประโยชน์ เราออกมาวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความสุจริต ที่เป็นการตั้งคำถามว่า คนที่เป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะไม่รู้เรื่องราวการลงทุนนี้เลยหรือ และไม่แน่ใจว่าการตั้งคำถามเช่นนี้นำมาสู่การฟ้องร้องได้อย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีสุชาติ ระบุว่า ทำเกินหน้าที่ สส. เพราะเป็นการพูดในที่สาธารณะ สหัสวัต กล่าวว่า การทำหน้าที่ สส.ไม่จำเป็นต้องพูดแค่ในสภา ยืนยันว่า เรื่องพวกนี้ต้องถูกตรวจสอบ และถูกพูดถึงได้ เพราะหากเราไม่ออกมาพูด ผู้ประกันตนก็ไม่รู้ และมั่นใจว่า มีหลักฐานเพียงพอกับเรื่องที่พูดไป

”มันเสียชาติเกิด ถ้าท่านเป็น สส.แล้วมารอพูดแต่ในสภา หรือตั้งกระทู้ถามอย่างเดียว เพราะอย่างที่เห็นพอตั้งกระทู้ถามไป บางคนก็ไม่เคยมาเลย เช่น นายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเรา คือพูดทุกที่ทุกเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ และคนที่เลือกเรามา"

รักชนก กล่าว

ส่วนกรณีสุชาติ ระบุ อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเราแน่นอนนั้น ขอตั้งคำถามกับสังคมว่า เรา 2 คน ชัดเจนว่าอยู่ข้างผลประโยชน์ของผู้ประกันตน หากท่านยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเรา คือท่านอยู่ฝั่งใคร และการที่พูดเรื่องนี้เพราะไม่อยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก ถามว่าใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ คือผู้ประกันตนล้วนๆ เพราะการลงทุนในตึกนี้มีปัญหา และมีข้อสงสัยมากมาย สุดท้ายสังคมก็เห็นตรงกันว่า ไม่คุ้มค่าในการลงทุนเพราะไม่สามารถได้ผลตอบแทนคืนมาอย่างสมน้ำสมเนื้อได้ ยอมไม่ได้ แม้เราคงไปตรวจสอบไม่ได้ทุกบาทสตางค์ แต่เราสามารถโดยการนำกรณีตัวอย่างนี้ ออกมาตีแผ่ให้สังคมรับรู้ พร้อมเรียกร้องสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ถึงแผนบริหารซึ่งควรเป็นขั้นต่ำในการลงทุน ต้องตอบสังคมให้ได้  เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก  

เมื่อถามถึงกระแสข่าว 'ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู' หรือแม่เลี้ยงติ๊ก  สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นผู้ให้ข้อมูลนั้นรักชนก กล่าวว่า เป็นเพียงการมาให้กำลังใจเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้ให้ข้อมูลเรา  ส่วนที่ถูกฟ้องหมิ่นเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาทที่นั้น รักชนก กล่าวว่า ยังแพ้ 'รังสิมันต์ โรม' สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ที่ถูกฟ้องถึง 100 ล้านบาท  

ขณะที่สหัสวัต กล่าวเสริมว่า มูลค่าความเสียหาย เป็นสิทธิ์ของผู้ฟ้องร้องที่จะประเมินมูลค่า และเรียกค่าเสียหายจากเรา ขอให้เป็นวิจารณญาณของประชาชนและผู้ประกันตนว่า ดูแล้วคิดอย่างไรกัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์