ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำให้สัมภาษณ์ของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับ (ผกก.) ว่า เรื่องนี้ชัดเจนว่า ความหมายที่เศรษฐาพูดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย สาระสำคัญหมายความว่าอย่างไร มีการวิ่งเต้นฝากในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับ (ผกก.) จริงหรือไม่ ทั้งภาพและเสียงจะเป็นคำตอบทั้งหมดว่า ใครตำแหน่งไหนเป็นคนฝาก การที่มาให้สัมภาษณ์แก้ตัวแบบมั่วๆ น้ำขุ่นๆ ประชาชนดูออกว่า ตลบตะแลงแถลงแก้ตัวเพียงเท่านั้น
ราเมศ กล่าวว่า ในส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี มีตำแหน่งอีกตำแหน่งที่นั่งเป็นประธาน ก.ตร.ซึ่งเศรษฐาจะมีความเห็นในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายหรือมีแนวนโยบายอย่างไร สามารถทำได้ตามกรอบอำนาจหน้าที่อยู่แล้ว ที่บอกว่า ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของ สตช. ยิ่งทำให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถามอย่างผู้รู้ ที่บอกว่า พูดเรื่องความ ไม่ใช่เรื่องคน แต่ความจริงคือคนพูดเรื่องความ คนพูดคือนายกรัฐมนตรีที่มีหน้าที่ต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ส่วนความคือมีคนฝากโยกย้ายแต่งตั้งผู้กำกับ คนที่อยู่ในที่ประชุมมี สส. และความตามรัฐธรรมนูญห้าม สส. ก้าวก่าย แทรกแซงในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185(3) ทั้งประมวลจริยธรรมของ สส.ที่ระบุให้ สส.ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด
ราเมศ กล่าวต่อว่า เมื่อความนี้ นายกรัฐมนตรีรู้อยู่แล้ว ก็ต้องถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ และโดยส่วนตัวตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีที่จะต้องไม่กระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญและมีประมวลจริยธรรมควบคุมอย่างเคร่งครัดอยู่ด้วย ที่ระบุให้กระทำการในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมในการแต่งตั้งตำแหน่งต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงระบบคุณธรรม และต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ สำหรับนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดว่า ห้ามไม่ให้มีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรม และมาตรา 186 ระบุไว้ชัดว่ารัฐมนตรี ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก้าวก่ายแทรกแซงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือประโยชน์ของพรรคการเมือง
“เมื่อกระทำการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กรณีนี้ย่อมมีผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีควรตัดสินใจ ด้วยการรับผิดชอบในคำพูด รับผิดชอบในทางการเมือง อย่าตลบตะแลงชี้แจงกลับไปกลับมา ผู้นำกล้าพูดก็ต่องกล้ายอมรับ อย่าให้ใครมาตำหนินายกรัฐมนตรีได้ว่า ตัวใหญ่แต่ใจเล็ก” ราเมศ กล่าว