ติง ‘นิรโทษกรรม’ ฉบับ ‘ก้าวไกล’ สอดไส้คดี ‘ม.112’

3 ก.พ. 2567 - 06:32

  • ‘ประชาธิปัตย์’ ลั่น ‘นิรโทษกรรม’ ต้องไม่รวม ‘คดี ‘ม.112 - ทุจริต’

  • ติงฉบับ ‘ก้าวไกล’ มีวาระซ่อนเร้น เตือนระวังกระทบกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทั้งระบบ

Ramesh-said-the-amnesty-law-must-not-include-Section-112-cases-and-corruption-cases-SPACEBAR-Hero.jpg

แม้ปม ‘กฎหมายนิรโทษกรรม’ จะยังห่างไกลกับการตกผลึก แต่เรื่องนี้ยังคงถูกจับตาและวิเคราะห์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายหลังที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีความเห็นออกมาเป็นระยะเช่นกัน

ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พรรคฯ เห็นด้วยที่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางให้เกิดความชัดเจน ทั้งในเรื่องของเจตนารมย์ในการนิรโทษกรรมฐานความผิดใดบ้าง ที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับนิรโทษกรรมรวมไปถึงกระบวนการในการพิจารณาพิจารณาวินิจฉัยว่ามีบุคคลใดบ้าง ที่จะได้รับประโยชน์จากกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งมีความจำเป็นต้องแยกให้ชัดว่า คดีประเภทใดที่เกิดขึ้นจากมูลเหตุจูงใจทางการเมือง เหตุเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองความคิด ความคิดทางการเมือง ต้องพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ

ในส่วนของพรรคฯ มี ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพนรคประชาธิปัตย์ ร่วมเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดดังกล่าว พรรคฯ ได้นำความคิดเห็นผ่านกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคฯ นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มีร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับของพรรคก้าวไกล ซึ่งบรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อที่จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระหนึ่ง ฉบับดังกล่าวนี้ ในส่วนของพรรคฯ ไม่เห็นด้วยในหลายประเด็น ทั้งในเรื่องของการกำหนดความผิด อำนาจของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด บุคคลที่จะได้รับการนิรโทษกรรมจากร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็จะรวมคดีเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย

ในส่วนของคดีทุจริตก็จะได้รับประโยชน์จากกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ด้วย รวมถึงคดีอาญาที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความผิดต่อชีวิตความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ รวมถึงความผิดในทางแพ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่ร้ายแรงดังกล่าว และการยอมรับจากผู้เสนอร่างฉบับนี้ คือ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าร่างนิรโทษกรรมฉบับของพรรคก้าวไกล รวมถึงการนิรโทษกรรมให้กับบุคคลที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ด้วย

ซึ่งการกระทำความผิดมาตรา 112 หลักความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องแนวความคิดทางการเมือง ไม่ได้มีมูลเหตุจูงใจในทางการเมืองที่จะนำมาเป็นประเด็นนำไปสู่การนิรโทษกรรม เป็นการตั้งใจกระทำความผิดโดยมีมูลเหตุจูงใจมาจากวาระที่ซ่อนเร้น ซึ่งในมาตรา 4 ของร่างกฏหมายฉบับดังกล่าว จะเป็นประเด็นปัญหาที่นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงการกำหนดให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดในมาตรา 5 ที่มีนักการเมืองผู้มีส่วนได้เสียร่วมเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการ มีการกำหนดให้ผู้พิพากษาและตุลาการเข้าไปมีส่วนร่วม ซึ่งจะทำให้ขัดต่อกระบวนการถ่วงดุลอำนาจ ระหว่างฝ่ายบริหาร, ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ

ถ้าไปดูอำนาจของคณะกรรมการชุดนี้ จะเห็นได้ว่ามีการกำหนดอำนาจไว้มากกว่าอำนาจตุลาการ ไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยฐานความผิด การวินิจฉัยในข้อสงสัยว่าคดีใดจะอยู่ภายใต้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมนี้หรือไม่ กำหนดให้มีอำนาจสั่งให้ศาลระงับการพิจารณาคดี สั่งให้มีการปล่อยตัวจำเลย ร่างกฎหมายฉบับนี้ ส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมทางอาญาทั้งระบบ และเมื่อไปสอบถามความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ปรากฏว่า ประชาชนไม่เห็นด้วยกว่า 70% และยืนยันได้จากผลจากการวิเคราะห์ผลกระทบอันเกิดจากร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมทางอาญาทั้งระบบ

ราเมศ รัตนะเชวง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์