รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ระบุถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการอภิปรายม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า เรื่องที่อภิปรายเกี่ยวข้องกับความล้มเหลวในการบริหารงานของ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในทุกมิติ ทั้งความมั่นคง การทุจริตคอรัปชั่น และปัญหาเศรษฐกิจ
สำหรับการอภิปรายในวันที่ 24 มี.ค.นี้ รังสิมันต์ ระบุว่า เป็นวันที่เราเตรียมขุนพลเอาไว้มากมาย โดยเริ่มต้นจาก ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ในการอ่านญัตติ
ย้ำว่า เราค่อนข้างมั่นใจในเรื่องพยานเอกสาร พยานหลักฐานต่างๆ และจะมีการยุทธการโรยเกลือ ที่เชื่อว่าสามารถเอาาผิดทางกฎหมายกับนายกรัฐมนตรีได้
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะอภิปรายต่อจากณัฐพงษ์หรือไม่ รังสิมันต์ ระบุว่า ไม่มั่นใจ เราให้เกียรติหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว และเข้าใจว่าไม่ได้มีเพียงแค่พรรคพลังประชารัฐเท่านั้น แต่เบื้องต้นขอให้รอการสรุปก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่ได้สรุปเรื่องการจัดลำดับผู้อภิปราย แต่มีความเป็นไปได้ว่าในส่วนของการอภิปรายของหัวหน้าพรรคต้องให้ลำดับต้นๆอยู่แล้ว
ส่วนกระแสข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย จะอภิปราย เขาได้ส่งชื่อมาให้พรรคประชาชน ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้านดูด้วยหรือไม่ รังสิมันต์ หัวเราะ ก่อนตอบว่า เบื้องต้นคนที่จะอภิปรายต้องมีการส่งชื่อ แต่ตอนนี้เข้าใจว่า การส่งรายชื่อยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังตอบไม่ได้ว่ามีชื่อของ ร.ต.อ.เฉลิม หรือไม่ และเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน เพราะการจัดเวลา ต้องเป็นไปตามสัดส่วนของทุกพรรค และหาก ร.ต.อ. เฉลิม มาอภิปราย คงคิดกันต่อว่าจะใช้เวลาของใคร เพราะไม่มีโควตาของฝ่ายรัฐบาล
เมื่อถามถึงการดินเนอร์ของพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ (21มี.ค.) รังสิมันต์ ระบุ ต้องยอมรับว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบนี้ รัฐบาลมีท่าทีกังวลเป็นพิเศษ และส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลชุดนี้มีความกังวลและเครียดกับการอภิปรายมากกว่ารัฐบาลที่แล้ว
เห็นได้จากการเสนอให้ถอนชื่อ ชายคนนั้น หรือเรื่องที่ประธานสภาฯ พยายามบอกว่าญัตติบกพร่อง และล่าสุดบอกว่าแก้ญัตติไม่ชอบ ทั้งที่เรามีการประชุมหารือกับทางประธานสภาฯ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และ ในห้องประชุมและมีการถามย้ำเรื่องนี้หลายรอบ และเป็นหลักที่ปฏิบัติแบบนี้มาโดยตลอด ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย
จนมาถึงการประกาศองครักษ์พิทักษ์นายกฯ 20 คน จึงอยากขอตั้งหลักว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องของสมาชิกที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกับผู้ที่จะต้องตอบ คือผู้ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
รังสิมันต์ ยังมองว่า ภาพของการเตรียมกำลังขุนพลกันขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีไม่พร้อมที่จะไม่พร้อมที่จะชี้แจงใช่หรือไม่ ไม่พร้อมที่จะตอบคำถามใช่หรือไม่ และไม่พร้อมที่จะอธิบายตามข้อกล่าวหาต่างๆที่ฝ่ายค้านได้กล่าวหาใช่หรือไม่ และเมื่อเป็นแบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้กลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เหลือเกิน และยิ่งสะท้อนว่าการที่มีนัดดินเนอร์ หรือพูดคุยอะไรต่างๆ สะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในรัฐบาลแม้จะมีการตั้งรัฐบาลร่วมกันก็ตาม
