วันนี้ (5 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการมอบนโยบายดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ก่อนเริ่มประชุม ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่ ‘รังสิมันต์ โรม’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายระหว่างการประชุมสภาฯ เมื่อวานนี้ว่า มีตำรวจยศ ‘พล.ต.ต.’ อักษรย่อ ‘อ.’ และ ‘ต.’ เข้าไปเป็นหุ้นส่วนกับบ่อนกาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน หากข้อมูลดังกล่าวเป็นจริงจะทำให้การปราบปรามบ่อนการพนันผิดกฎหมายในประเทศไทยมีปัญหาหรือไม่
‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ตอบว่า หากมีข้อมูลที่ตำรวจทำผิดจริงสามารถแจ้งข้อมูลมาได้เลย เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่ถูกพาดพิงด้วย และผู้ให้ข้อมูลต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่พูดด้วย ย้ำว่าหากมีหลักฐานชัดเจนตำรวจพร้อมตรวจสอบ แต่ถ้าไม่มีพยานหลักฐานตำรวจที่ถูกพาดพิงก็สามารถใช้สิทธิ์ดำเนินคดีตามกฎหมายกลับได้ ย้ำต้องมีการร้องเรียนเข้ามาก่อน จึงจะเริ่มกระบวนการตรวจสอบ
ส่วนภาพลักษณ์ของตำรวจ ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ยอมรับว่าตำรวจมีภาพจำที่ติดลบ แต่ไม่อยากเหมารวมตำรวจทั้งหมด เพราะข้าราชการตำรวจที่ดีมีอีกมาก ส่วนตัวเชื่อว่ามีถึง 99 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ยังตอบคำถามกรณีที่มีข้อสงสัยว่า ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มีประเด็นเรื่องหมายจับ ต้องรายงานตนในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชากับใคร รักษาการผบ.ตร. หรือ นายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ตอบไม่ชัดเจน โดยพยายามอธิบายว่า แม้ตอนนี้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ จะถูกย้ายไปปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ตามกฎหมายผู้บังคับบัญชา คือ ผบ.ตร. แต่ไม่ได้หมายถึงตัวเองที่กำลังทำหน้าที่รักษาการแทนอยู่
ย้ำการรายงานตนในกรณีที่ต้องคดีตามระเบียบของตำรวจ ไม่เกี่ยวกับคดี ต้องรายงานตนให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ภายใน 7 วัน
