โวย ‘เศรษฐา’ หนีแจงตั้ง ‘ผบ.ตร’ ไม่โปร่งใส

วันนี้ ( 28 ก.ย.) ที่รัฐสภา ‘รังสิมันต์ โรม’ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทีของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี หลังวันนี้ไม่ได้เดินทางเข้ามาตอบกระทู้คำถามต่อสภาฯ เรื่องความโปร่งใสของการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร คนที่ 14 

‘รังสิมันต์’ บอก ส่วนตัวเข้าใจว่า ‘นายกรัฐมนตรี’ ติดภารกิจ แต่ท่านไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะกลับมาตอบสมาชิกเมื่อใด และแม้เราจะไม่ถึงขั้นเคี่ยวเข็ญให้มาตอบ เเต่เมื่อไม่ได้รับคำชี้แจงว่าจะเข้ามาตอบกระทู้วันไหน มีเพียงการชี้แจงผ่านหนังสือเพียงสั้นๆ ว่า ‘ไม่สะดวกมาตอบ’ ทำให้สงสัยว่า ‘นายกรัฐมนตรี’ มีความจริงใจที่จะปฏิรูปตำรวจ และแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในองค์กรตำรวจมากน้อยแค่ไหน เพราะมีตำรวจอีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบ และกระดุมเม็ดแรก คือต้องเริ่มจากการสร้างความโปร่งใสในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.

แต่กระบวนการแต่งตั้ง ‘ผบ.ตร.’ คนใหม่จบไปแล้ว คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้สังคมเกิดความสงสัยว่าใช้เกณฑ์อะไรในการพิจารณา และที่ผ่านพรรคก้าวไกล เคยเสนอให้ว่าที่ ‘ผบ.ตร.’ มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์ให้ประชาชนได้เห็น และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แต่ ‘นายกรัฐมนตรี’ ไม่เคยคิดจะทำ ทำให้ยังคงเกิดข้อครหาว่าการแต่งตั้ง ‘ผบ.ตร.’ มีเส้นสายหรือสัมพันธ์ต่างๆ อยู่เบื้องหลังหรือไม่ 

"หวังว่าในอนาคต คุณเศรษฐา จะตอบสภาว่าพร้อมจะชี้แจงต่อสังคมเมื่อใด เชื่อว่าเมื่อครั้งอยู่ในบริษัทเอกชนจะต้องอธิบายได้ว่าจะแต่งตั้งใคร อย่าให้อำนาจความเป็นนายกรัฐมนตรีมาสิงตัวท่าน จนท่านไม่เหลือเหตุผลจะอธิบายให้ประชาชนต่อเรื่องนี้อีกต่อไป"

ส่วนข้อสังเกตว่าการแต่งตั้ง ‘ผบ.ตร.’ ครั้งนี้มีเรื่อง ‘ตั๋ว’ เข้ามาเกี่ยวหรือไม่ ‘รังสิมันต์’ มองว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับตัวนายกรัฐมนตรี หากชี้แจงสังคมได้ว่าใช้เกณฑ์อะไรเป็นดุลพินิจ หากไม่ชี้แจงเชื่อว่าจะทำให้สังคมอนุมานว่าการแต่งตั้ง ‘ผบ.ตร.’ ไม่มีความสุจริต และคงเป็นเรื่องที่น่าสงสาร เพราะ ‘ผบ. ตร.’ คนใหม่คงจะได้รับมลทินไปด้วย

นอกจากนี้ ‘รังสิมันต์’ ยังย้อนคำพูดของ ‘เศรษฐา’ ที่เคยพูดในทำนองว่าไม่อยากให้ใช้คำว่า ‘สังคายนาองค์กรตำรวจ’ เพราะตำรวจเป็นองค์กรที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี ซึ่ง ‘รังสิมันต์’ มองว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะวันนี้ในวงการตำรวจมีปัญหาเกิดขึ้นแบบเดือนเว้นเดือน บางช่วงเดือนหนึ่งมีหลายเรื่อง หากไม่คิดแก้ปัญหาเรื่องนี้จะยิ่งทำให้สังคงคมรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เพราะตำรวจยังถูกยิงเสียชีวิต และวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าขยายผลไปถึงไหนแล้ว 

"ส่วนตัวหากมีตำรวจเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ต้องดำเนินคดีไปเลย แต่มีความสงสัยว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เตะตัดขากันหรือไม่ เช่นหมายค้นดังกล่าว ได้เห็นกับตาตัวเองว่าไม่ได้ใส่ชื่อยศ และอาชีพของเจ้าบ้าน ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับองค์กรตำรวจ"

‘รังสิมันต์’ โวย ‘เศรษฐา’ ไม่ระบุวันมาตอบกระทู้ถามสดปม ‘สีกากีขัดแย้ง’ ขี้ผิดข้อบังคับการประชุมสภาฯ ด้าน ‘ประธานวิปรัฐบาล’ ออกโรงป้อง! ยันนายกฯ ให้ความสำคัญงานสภาฯ แต่ติดภารกิจเยือนต่างประเทศ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยในช่วงกระทู้ถามสดด้วยวาจา รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ถามนายกรัฐมนตรี กรณีปัญหาเกี่ยวกับตำรวจ แต่ประธานในที่ประชุมแจ้งว่า นายกฯ ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ไม่สามารถมาตอบคำถามได้
  
ด้าน รังสิมันต์ ระบุได้รับหนังสือแจ้งว่า นายกฯ เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา อย่างเป็นทางการ เข้าใจได้ว่ามีภารกิจล่วงหน้า แต่ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 151 กำหนดว่า การที่ไม่มาตอบกระทู้ จะต้องบอกต่อสภาฯ ว่าจะมาตอบเมื่อไหร่ แต่นายกฯ ไม่ได้ระบุรายละเอียดดังกล่าว ถือว่าผิดข้อบังคับข้อที่ 151 อย่างชัดเจน จึงต้องการคำอธิบายว่า เหตุใดหนังสือที่ได้รับ จึงไม่มีการลงรายละเอียด อีกทั้งเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ที่มีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรายังไม่ทราบถึงเหตุผล-หลักเกณฑ์ในการแต่งตั้ง ว่าเป็นอย่างไร เรื่องที่ถามจึงมีความจำเป็นเร่งด่วน แม้ว่าเรื่องของตำรวจจะไม่มีกระทรวงอื่นๆ ดูแลเป็นการเฉพาะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นประเด็นในสังคม

“ดังนั้น นายกฯ ควรจะคาดหมายได้อยู่แล้วว่า จะถูกถามในที่ประชุมสภาฯ วันนี้ จึงควรมอบหมายให้รัฐมนตรีบางท่าน มาตอบคำถามของผม เพื่อให้ประชาชนสบายใจว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นกับองค์กรตำรวจ แต่นายกฯ ไม่มาตอบ และไม่บอกว่าจะมาตอบเมื่อไหร่ แสดงให้เห็นว่าท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาของตำรวจ” รังสิมันต์ กล่าว
 
ด้านประธานสภาฯ ชี้แจงว่า เจตนารมณ์ของกระทู้ถามสด คือต้องการให้มีการถามและตอบแบบทันท่วงที ไม่อยากให้รัฐบาลผิดเจตนารมณ์ของข้อบังคับ จึงจะประสานไปยังรัฐบาลว่าช่วงกระทู้ถามสดหรือกระทู้อื่นๆ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ภารกิจอื่นหากไม่จำเป็น ควรต้องมาตอบกระทู้ที่สภาฯ แต่วันนี้เข้าใจได้ เพราะนายกฯ มีการกิจอย่างเป็นทางการ แต่ภาวะปกติจะต้องมาตอบ เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หากเลื่อนไป จะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนและไม่ใช่เรื่องสด

“ดังนั้น จะประสานรัฐาลและวิปรัฐบาลให้ ทั้งนี้ หากนายกฯ ไม่มาตอบคำถามในครั้งถัดไป ผมจะให้นายรังสิมันต์ ถามโดยไม่ต้องมีผู้ตอบ แต่ครั้งนี้ ต้องขอให้เข้าใจจริงๆ เพราะนายกฯ เดินทางไปจริง มีกำหนดการล่วงหน้าชัดเจน” ประธานสภาฯ กล่าว
 
ขณะที่ อดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นและได้พูดคุยกับนายกฯ ท่านอยากจะมาที่สภาฯ แห่งนี้ ตนเองจะรับปากแทนท่านก็ไม่ได้ แต่ท่านอยากจะให้ความสำคัญกับกระทู้ถามสดทุกกรณี รวมถึงรัฐมนตรีทุกคนด้วย เราอยากประเมินสมรรถภาพ คุณภาพของรัฐมตรี ถ้ารัฐมนตรีไม่สามารถมาตอบกระทู้ได้ จะสมควรอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ พิจารณาตัวเองไป

“จะพยายามทำหน้าที่ประสานงานกับนายกฯ และรัฐมนตรี ให้มาตอบกระทู้ ให้เห็นสภาฯ อันศักดิ์สิทธิ์ตรงนี้เป็นที่ควบคุมตรวจสอบ ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้าน แต่ฝ่ายพวกผมก็อยากถามเหมือนกัน แต่ครั้งนี้ต้องขออนุญาต เพราะท่านไปต่างประเทศ เป็นภารกิจที่เราควรจะให้ความเคารพในการทำหน้าที่ จึงขอรับปากประธานสภาฯ ว่า วิปรัฐบาลทุกท่าน จะพยายามประสานไปยังรัฐมนตรีทุกท่านเกี่ยวกับการตอบกระทู้” อดิศร กล่าว

‘รังสิมันต์’ โต้กลับ! หลัง ‘หมอชัย’ ถามตั้งกระทู้ถามสดนายกฯ ปมเคาะชื่อ ‘ผบ.ตร.’ ไปเพื่ออะไร โวยรู้ทั้งรู้องค์กรตำรวจขัดแย้งกันขนาดไหน-เอี่ยวธุรกิจสีเทา ลั่นถึงขนาดค้นบ้าน ‘รอง ผบ.ตร.’ คงไม่ปกติแล้ว แนะทำให้ถูกต้องตามข้อบังคับประชุมสภา จะส่งรัฐมนตรีมาตอบก็ได้ ประชาชนจะได้รู้แนวทาง

กลายเป็นวิวาทะโต้ตอบกันไป-มา ระหว่าง ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จากกรณีตั้งกระทู้ถามสดในสภาฯ ต่อนายกรัฐมนตรี ถึงปมแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และประเด็นร้อนในแวดวงตำรวจ

โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ติงเรื่องดังกล่าวว่า "รู้ทั้งรู้ว่านายกรัฐมนตรีติดภารกิจเยือนกัมพูชาแต่ก็ยังหาเรื่องตั้งกระทู้ถามสดในสภา ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์อะไร"

ฝ่าย รังสิมันต์ ก็ไม่รอช้า สวนกลับทันทีด้วยการโพสต์ผ่าน X (ทวิตเตอร์) เนื้อหาระบุว่า

"รู้ทั้งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในองค์กรตำรวจ รู้ทั้งรู้ว่าองค์กรตำรวจขัดแย้งกันขนาดไหน รู้ทั้งรู้ว่ามีเครือข่ายตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทามากมายเพียงใด ผมเข้าใจว่าคุณเศรษฐา อาจจะไม่เข้าใจความสำคัญของตำรวจ แต่ผมและพรรคก้าวไกล พยายามบอกกับท่านนายกฯ ว่าปัญหาตำรวจเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข คงไม่ปกติแล้วที่ถึงขนาดมีการค้นบ้าน รอง ผบ.ตร. ท่านนายกฯ จะเดินทางไปต่างประเทศก็ไปได้ ถ้าคิดว่าสำคัญและเร่งด่วนมากกว่าก็ไปได้ แต่ก็ช่วยทำให้ถูกต้องตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ช่วยส่ง รมต.คนอื่นมาตอบแทนก็ได้ หรือช่วยกรุณาบอกก็ได้ว่า จะมาชี้แจงต่อสภาฯ ในเรื่องตำรวจเมื่อไหร่ ประชาชนเขาจะได้รู้ว่านายกฯ จะแก้ปัญหาตำรวจยังไง ตั้ง ผบ.ตร. ใช้เกณฑ์อะไร จะได้รอว่าคำตอบเหล่านี้จะมาถึงเมื่อไหร่"