ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมทีมนโยบายเศรษฐกิจของพรรค จัดงานเสวนา ‘Re-positioning Thailand: วางตำแหน่งใหม่เศรษฐกิจไทยในสงครามการค้า’ ภายใต้โครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และระดมสมองแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อรับมือกับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ พร้อมเสนอ 5 ยุทธศาสตร์ เพื่อวางตำแหน่งใหม่เศรษฐกิจไทยในโลกที่เปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย
1. เจรจา (Negotiate) เตรียมเจรจากับสหรัฐอเมริกา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และลดกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ให้มากที่สุด
2. กระชับ (Strengthen) กระชับความร่วมมือกับคู่ค้าเดิมและคู่ค้าใหม่ๆ เช่น กลุ่ม BIMSTEC สหภาพยุโรป หรือประเทศในทวีปแอฟริกา ภายใต้หลักการแสวงหาการค้า การแลกเปลี่ยน และความร่วมมือที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
3. รับมือ (Manage) รับมือผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผลกระทบจากสินค้านำเข้าล้นตลาดในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันและรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยจะต้องไม่เป็นการกีดกันหรือตอบโต้ทางการค้ากับประเทศอื่น
4. เยียวยา (Rehabilitate) ติดตาม ช่วยเหลือ และเยียวยาในแต่ละห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบ
.
5. ลงทุน (Invest) ลงทุนเชิงรุกในนวัตกรรม อุตสาหกรรมใหม่ และโครงสร้างพื้นฐานอนาคต เพื่อปรับตัว เตรียมพร้อมรับความเสี่ยง และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการผลิต


นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการวิเคราะห์ฉากทัศน์ความเป็นไปได้ทั้งกรณีดีที่สุดและแย่ที่สุดของเศรษฐกิจไทย พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นด้วยมีนักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เช่น ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ที่เสนอกรอบ 3R คือ การเยียวยา-บรรเทาผลกระทบเฉพาะหน้า (Relief) , การกระตุ้น-ฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้น (Recovery) และ การปฏิรูป-ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาว (Reform)
ขณะที่ วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการขาดดุลการค้ากับจีนที่ไทยควรเร่งอุดรูรั่วเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด ด้าน เดชรัต สุขกำเนิด ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านฯ และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) พรรคประชาชน เน้นภาคเกษตรไทยต้องมีส่วนร่วมในการเจรจาเปิดตลาดกับสหรัฐฯ


🔴 ‘เท้ง ณัฐพงษ์’ อุบตอบควรปรับเก้าอี้ ‘รมต.พาณิชย์’ หรือไม่ เมิน ‘ทักษิณ’ ซัดหนุ่มสึ่งตึง!
ทั้งนี้ ในงานดังกล่าว ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ตอบคำถามสื่อกรณีกระแสข่าวที่จะไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะส่งผลต่อการไปเจรจาเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐฯ หรือไม่
โดย ณัฐพงษ์ มองว่า อำนาจการปรับ ครม. เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี สิ่งที่เราอยากเห็นคือคนที่มีความรู้สามารถเป็นตัวแทนในการเจรจา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยากให้รัฐบาลนำข้อเสนอจากเวทีวันนี้รับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ส่วนการปรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในช่วงนี้ ดีสำหรับการไปเจรจาภาษีหรือไม่ ณัฐพงษ์ ระบุว่า ส่วนตัวไม่อยากออกความเห็น โดยให้เหตุผลว่าสำหรับวันนี้อยากให้เป็นเวทีของผู้นำฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ในการสนับสนุนทีมไทยแลนด์
ส่วนกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร กล่าวปรามาส เท้ง ณัฐพงษ์ ว่าเป็น ‘หนุ่มสึ่งตึง’ นั้น ณัฐพงษ์ ระบุว่า คงไม่คอมเมนต์อะไรเพิ่มเติม เพราะ คนที่เป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง พูดอย่างไร สื่อสารอย่างไรก็ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน อยากให้เน้นไปที่การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของนโยบายในการหาเสียงทำงานมากกว่า ส่วนคำพูดที่โยนมาแบบนี้ก็คงไม่มีความเห็นเพิ่มเติม
