วันนี้ (7 ก.ย.) เวลา 13.00 น. ‘รอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก’ (Mr. Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าพบ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยมี ‘ปานปรีย์ พหิทธานุกร’ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ‘จักรพงษ์ แสงมณี’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ‘พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช’ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการเข้าเยี่ยมคารวะครั้งนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตที่ร่วมแสดงความยินดี ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน และหวังว่าจะได้พบประธานาธิบดีไบเดน ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) รวมถึงหวังว่าจะได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีไบเดนที่ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้
ด้าน ‘รอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก’ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ มุ่งหวังว่าความสัมพันธ์ทวิภาคี ที่มีมาอย่างแน่นแฟ้นยาวนาน ตามที่ครบรอบ 190 ปี สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน จะต่อเนื่องทวีความมั่นคงต่อไป
พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกันในทุกมิติ ที่จะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้า การลงทุน และความท้าทายระดับโลก อาทิ วิกฤตสภาพภูมิอากาศ
โดยมี ‘ปานปรีย์ พหิทธานุกร’ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ‘จักรพงษ์ แสงมณี’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ‘พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช’ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการเข้าเยี่ยมคารวะครั้งนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตที่ร่วมแสดงความยินดี ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน และหวังว่าจะได้พบประธานาธิบดีไบเดน ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) รวมถึงหวังว่าจะได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีไบเดนที่ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้
ด้าน ‘รอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก’ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ มุ่งหวังว่าความสัมพันธ์ทวิภาคี ที่มีมาอย่างแน่นแฟ้นยาวนาน ตามที่ครบรอบ 190 ปี สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน จะต่อเนื่องทวีความมั่นคงต่อไป
พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกันในทุกมิติ ที่จะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้า การลงทุน และความท้าทายระดับโลก อาทิ วิกฤตสภาพภูมิอากาศ