รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกมธ.ความมั่นคงฯซึ่งมีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร่วมชี้แจง เป็นที่พึ่งพอใจของกมธ.แล้วหรือไม่ว่า ต้องยอมรับว่า วันนี้เรามีเวลาในการพูดคุยกับรมว.ยุติธรรมน้อยมาก น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง ขอย้ำว่ากมธ.ชุดนี้มีอำนาจในการพิจารณา แม้ว่าหน่วยงานจะโต้แย้ง และไม่เห็นด้วย แต่หน่วยงานก็ไม่มีอำนาจในการชี้ในการส่วนของกฎหมายที่ให้อำนาจเรา ซึ่งเรามีอำนาจในการที่จะพิจารณาว่าอยู่ในกรอบคณะของเรา บทพิสูจน์ของการพิจารณามาแล้ว 54 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 55 ก็พิสูจน์ว่าเราใช้แนวปฏิบัติเดิมมาโดยตลอด เราไม่ได้ใช้วิธีพิสดาร หรือรูปแบบที่แตกต่างจากเดิมในการพิจารณาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความไม่สบายใจอยู่บ้างก็สุดท้ายมีการประชุมลับในส่วนของกมธ. ซึ่งเป็นเรื่องของแนวทางว่าเราจะเดินหน้ากันอย่างไร และข้อสรุปว่าเดินหน้า ก็สามารถที่จะสอบถามกันต่อไป
รังสิมันต์ กล่าวว่า ในเรื่องเนื้อหาสาระที่มีการพูดคุยกันในส่วนของการออกจากเรือนจำไปที่โรงพยาบาลตำรวจ การรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และการได้พักโทษ ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ต้องยอมรับว่า ด้วยข้อจำกัดเวลาเราไม่สามารถสอบถามได้ครอบคลุมทุกรายละเอียด แต่มีข้อมูลเพิ่มเติม ที่อาจจะแตกต่างจากรอบที่แล้วอยู่บ้าง เช่นจากเดิมที่เราได้รับข้อมูลว่าการที่ทักษิณถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจก่อนหน้านี้ เราได้รับข้อมูลว่าเป็นแค่เพียงพยาบาล 2 ท่านที่เป็นผู้ลงนาม ซึ่งก็ยืนยันว่า เป็นความจริง แต่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้รับข้อมูลว่ามีแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือการวินิจฉัยในเรื่องนี้ ฟังดูเหมือนรอบที่แล้วมีเฉพาะพยาบาลเป็นผู้วินิจฉัย และโทรหาคุณหมอก็จบ แต่วันนี้เราได้รับข้อมูลใหม่ว่า ในช่วงเวลา 11 โมงของวันดังกล่าวมีคุณหมอจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในการพิจารณาสุขภาพร่างกาย ของทักษิณก่อน และหลังจากนั้นฟังดูเหมือนช่วงกลางคืนอาการของทักษิณก็ออกมา จึงมีการสั่งการให้ส่งตัวทักษิณไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งวันนี้เราได้รับข้อมูลเพียงเท่านี้ และเรายังไม่ทราบว่าชื่อของคุณหมอเป็นใคร
“เรื่องของอาการป่วย ผมได้เห็นใบแสดงความเห็นของแพทย์ก็มีอาการป่วยของทักษิณหลายอย่าง และท่านรัฐมนตรียืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่อยากให้เปิดเผยในรายละเอียด แต่การป่วยมีเยอะมาก หลากหลายอย่าง ซึ่งแน่นอนว่า อาจจะขัดกับความรู้ที่เราเห็นทักษิณลงจากสนามบิน แต่ไม่เป็นไร อันนี้ต้องไปดูในเวชระเบียนว่า สุดท้ายแล้วเวชระเบียนจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้ท่านรัฐมนตรีรับปากและเราฟังตรงกันว่า รัฐมนตรีไม่ปฏิเสธเลยว่า จะไม่ส่งเอกสารให้กับเรา ดังนั้นเอกสารที่เราขอไปกว่า 10 รายการที่มีเวชระเบียนด้วยเราก็หวังว่าเราจะได้จากทางท่านรัฐมนตรี ซึ่งเราต้องจัดให้อยู่ในความเหมาะสม”
รังสิมันต์ กล่าว
ประธานกมธ.ความมั่นคงฯ กล่าวอีกว่า ส่วนที่เป็นข้อมูลในเรื่องของชั้น 14 ว่า ตกลงแล้วเป็นห้องควบคุมพิเศษตามกฎหมายหรือตามระเบียบข้อบังคับราชการหรือไม่ คือข้อมูลที่เราได้รับว่าท่านรัฐมนตรีก็ไม่เคยไปตรวจสอบ ว่าชั้น 14 อยู่ภายใต้กฎหมายหรือระเบียบหรือไม่ ท่านก็เพียงแต่เชื่อจากข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชา เชื่อจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ในเมื่อท่านไม่เคยไปดู ถ้าท่านยืนยันก็ตามนั้น ในส่วนถัดมาคือเรื่องให้คะแนนว่า อดีตนายกฯเป็นผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งในส่วนนี้เมื่อผลคะแนนออกมาท่านได้แจ้งกับกมธ.ว่า ตอนนี้ได้มีการให้รองปลัดกระทรวงฯไปตรวจสอบ แต่เรายังไม่ได้รับรายการงานผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร แต่ก็อนุมานว่า ผลการตรวจสอบคงจะไม่เป็นลบอะไร เพราะไม่ได้มีการชี้แจงจากทางกระทรวงยุติธรรมในทำนองว่าการให้คะแนนกับกรณีของทักษิณอาจจะเป็นการให้คะแนนที่ผิด ไม่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ หรือมีการช่วยเหลือกัน ไม่ได้มีข้อเท็จจริงแบบนั้นออกมา ซึ่งก็เดาว่า ท่านคงเชื่อว่า การดำเนินงานทั้งหมดถูกต้องแล้ว และต้องยืนยันว่า มีอีกหลายท่านที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ได้มา ไม่ว่าจะเป็นนายแพทย์ใหญ่ หรือผู้ช่วยผบ.ตร.ท่านหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ได้มีการหารือกันในกมธ.มีข้อสรุปว่าจะมีการเดินทางกันไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนวันเวลานั้นจะต้องหารือกันอีกครั้ง ซึ่งตั้งใจจะไปประชุมกันที่นั้นด้วย และจะเชิญคุณหมอที่เกี่ยวข้องมาร่วมด้วย และตั้งใจจะไปดูชั้น 14 ว่าสุดท้ายแล้วบรรดาข้อครหานั้นเป็นอย่างไร จะได้สิ้นสงสัยกันไป
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทางพ.ต.อ.ทวีได้ให้ข้อมูลกับกมธ.ว่าในส่วนของค่าใช้จ่ายที่คราวที่แล้วเราได้รับข้อมูลว่าล้านกว่าบาท ซึ่งวันนี้เราได้รับข้อมูลใหม่ว่า อดีตนายกฯ เป็นคนจ่ายเองทั้งหมด อย่างไรก็ตาม วันนี้เราไม่ได้เชิญเฉพาะกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทักษิณอาจจะยกยอดออกไปก่อน คงเอาส่วนราชการให้ครบถ้วน เพราะเราไม่มีอำนาจบังคับทักษิณ