กลายเป็นเหตุชุลมุนขึ้นมาเล็กๆ เมื่อ ‘ธีรศานต์ แก้วสง’ ทนายความของ ‘สามารถ เจนชัยจิตรวณิช’ พยายามสอบถาม ‘ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์’ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยารามคำแหง ระหว่างการแถลงข่าวเกี่ยวกับการสอบของสามารถ แต่ถูก ผศ.วุฒิศักดิ์ ขอว่าอย่าถาม เนื่องจากมองว่าทนายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัย ในการตอบคำถามสื่อ
เป็นเหตุให้ ‘ทนายธีรศานต์’ ต้องออกมาให้สัมภาษณ์สื่อนอกรั้วมหาวิทยาลัย โดยชี้แจงว่า วันนี้ตั้งใจมาฟังการแถลงข่าวขงอรักษาการอธิบดี ม.รามฯ เพราะเห็นในข่าวแจงว่าจะเปิดหลักฐานเด็ดเกี่ยวกับการโกงสอบของสามารถ แต่จากที่ได้ฟังพบว่าไม่มีหลักฐานอะไรเลย


ส่วนข้อกล่าวหาว่า ‘สามารถ’ โกงสอบ ‘ทนายธีรศานต์’ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ‘สามารถ’ ไม่เคยส่งใครไปสอบแทน พร้อมอธิบายว่า วิชาภาษาอังกฤษที่ ‘สามารถ’ ลงเรียนเป็นหลักสูตรอบรมระยะสั้นของสถาบันภาษา ไม่เกี่ยวกับการเรียนปริญญาเอก และหลักสูตรนี้ผูู้เรียนไม่มีสถานะเป็นนักศึกษา ม.รามฯ โดย ‘สามารถ’ ลงเรียนหลักสูตรนี้ 2 ครั้ง
โดยครั้งแรกที่ลงเรียน ‘สามารถ’ ติดภาระกิจ ไม่สามารถเข้าเรียนและเข้าสอบได้ จึงไม่ได้เดินทางไปสอบ และไม่ได้ส่งใครไปสอบแทน จึงเป็นเหตุให้ต้องลงเรียนครั้งที่สอง ซึ่ง ‘สามารถ’ ได้ลงเรียนและเข้าสอบด้วยตัวเองจนจบหลักสูตร และได้ใบเซอร์หรือใบรอบรองว่าเรียนจบหลักสูตร


ส่วนข้อกล่าวหาว่า ‘สามารถ’ ส่งคนไปสอบแทน และมีหลักฐานเอาผิดเรื่องนี้ ‘ทนายธีรศานต์’ ขอไม่ตอบ เพราะเป็นเรื่องในสำนวนคดี แต่ยืนยันว่าไม่มีการส่งคนไปสอบแทนแน่นอน พร้อมมองว่ามหาวิทยาลัยไม่มีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้ซ้ำ หากมีการตั้งคณะกรรมการสอบจริงก็พร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายกับมหาวิทยาลัย
ช่วงท้าย ‘ทนายธีรศานต์’ ยังบอกว่า จริงๆ แล้ว ‘สามารถ’ ถือว่าถูกลงโทษไปแล้ว เพราะต้องลงทะเบียนเรียนหลักสูตรอบรมภาษาระยะสั้นใหม่ และการที่ถูกมหาวิทยาลัยตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้ก็ทำให้การสมัครเรียนปริญญาเอก ต้องถูกชะลอไปถึง 13 เดือน จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงต้องมีการรื้อเรื่องนี้ขึ้นมาอีก

ทั้งนี้ ‘ทนายธีรศานต์’ ขอไม่ตอบคำถามกรณีที่ ‘สามารถ’ ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป เนื่องจากไม่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ หมายความว่า ณ วันนี้ นับเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้วที่ ‘สามารถ’ ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้ประเด็นต่างๆ โดยการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด คือวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา โดย ‘สามารถ’ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาว่าเขาเกี่ยวข้องกับดิไอคอน แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย รวมถึงไม่รับสายผู้สื่อข่าวเช่นกัน