โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ที่ตอนนี้เริ่มมีความชัดเจนเรื่องแหล่งเงินทุนแล้ว แต่นโยบายนี้ยังคงเป็นที่กังขาและที่ทัดทานของหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน นักวิชาการ หรือประชาชนทั่วไปอีกจำนวนหนึ่งที่แสดงความกังวลว่านโยบายนี้จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
ล่าสุดวันนี้ (14 เม.ย.) สรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมย้ำเตือนรัฐบาลในเรื่องนี้อีกครั้ง เนื่องจากกังวลว่าโครงการนี้จะนำมาสู่การเอื้อประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่ม สรรเพชญ มองว่ารัฐบาลมีหน้าที่ตอบข้อคำถามให้ได้ทุกอย่าง และส่วนตัวเคยอภิปรายสอบถามรัฐบาลแล้วว่า ‘ทำไมต้องแจกเป็นเงินดิจิทัล ทำไมไม่แจกเป็นเงินบาท’
พร้อมเตือนว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นเรื่องตกม้าตายของผู้นำรัฐบาล ที่มาจากการเป็นนักธุรกิจของไทยมาโดยตลอด เพราะเมื่อมีอำนาจการเมืองแล้ว มักหาลู่ทางให้ธุรกิจของตัวเองได้ผลประโยชน์ ไม่ว่าจะชอบหรือผิดกฎหมาย ล้วนขัดแย้งกับมาตรฐานจริยธรรมนักการเมือง
สำหรับประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนของโครงการเงินดิจิทัล สรรเพชญ มองว่าหากข้อสงสัยเรื่องกลุ่มทุนใกล้ชิดผู้นำรัฐบาลที่กำลังเตรียมการเก็งกำไรเงินดิจิทัลเป็นเรื่องจริง มองว่าเรื่องนี้อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายของรัฐบาล เพราะหากดูมาตั้งแต่ต้น โครงการเงินดิจิทัลสะท้อนความล้มเหลวเชิงนโยบาย และความตกต่ำของมาตรฐานจริยธรรมของรัฐบาลอย่างที่สุด เพราะตอนหาเสียงพูดไว้อย่างหนึ่ง ตอนเป็นรัฐบาจะทำอีกอย่างหนึ่ง พร้อมชี้ให้เห็นว่า หากเป็นประเทศประชาธิปไตยในโลกตะวันตก ผู้นำรัฐบาลต้องลาออกแล้ว เนื่องจากทำไม่ได้ตามที่หาเสียงไว้
สรรเพชญ ยังเตือนรัฐบาลว่า ขอให้จัดทำโครงการเงินดิจิทัลอย่างตรงไปตรงมา ยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง และขอเตือน ‘นายกฯ เศรษฐา’ ว่า อย่าตกม้าตายเพราะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนแบบอดีตนายกฯ บางคนของไทย
