






กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เข้ายื่นหนังสือถึงสำนักเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ทั้ง 250 คน งดออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคการเมืองที่มีแนวคิดยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112
ประเด็นสำคัญที่ ‘อานนท์ กลิ่นแก้ว’ ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน ต้องการสื่อสาร คือ ย้ำว่ากลุ่ม ศปปส. รู้สึกไม่ไว้วางใจ ‘พรรคก้าวไกล’ ที่มีสถานะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะมองว่าพรรคก้าวไกล มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และแม้จะมีไม่การบรรจุเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ใน MOU ของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค แต่เชื่อว่าสุดท้ายพรรคก้าวไกลจะผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่สภาฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เพราะมาตรา 112 ควรเป็นกำแพงปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จากการถูกดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย
ดังนั้น กลุ่ม ศปปส. จึงต้องการเรียกร้องให้ สว. เป็นเสาหลักในการปกป้อง 3 สถาบันหลักของชาติ เพราะมองว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ต้องมีจุดยืนในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ‘อานนท์’ ยอมรับว่าทางกลุ่มมีกังวลต่อท่าทีของ สว. จึงขอย้ำเตือนว่าช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา สว. ถูกถอนหงอกมาตลอด ถ้าอยู่ๆ ไปยกมือให้กับคนที่ต้องการแก้มาตรา 112 ก็เหมือนไม่ให้ราคาตัวเอง และหาก สว. ทั้ง 250 คน ยกมือสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล มองว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว เชื่อว่าคนไทยอีก 10 ล้านคน คงไม่เห็นด้วย และหากเป็นแบบนั้น กลุ่ม ศปปส. จะออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน
‘อานนท์’ ยังมองว่า สว. ควรปิดสวิตช์ตัวเอง ประกาศลาออกจากตำแหน่งก่อนมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาด่าว่าขัดต่อฉันทามติประชาชน อย่าไปยึดติดกับตำแหน่ง เมื่อถามย้ำว่าหาก สว. ลาออกจะไม่ยิ่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลง่ายขึ้นอย่างนั้นหรือ ‘อานนท์’ อธิบายว่าสิ่งที่เขาต้องการ คือ ให้ สว. ทำทุกวิถีทางในการขัดขวางไม่ให้มีรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขหรือยกเลิก มาตรา 112
ประเด็นสำคัญที่ ‘อานนท์ กลิ่นแก้ว’ ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน ต้องการสื่อสาร คือ ย้ำว่ากลุ่ม ศปปส. รู้สึกไม่ไว้วางใจ ‘พรรคก้าวไกล’ ที่มีสถานะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะมองว่าพรรคก้าวไกล มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และแม้จะมีไม่การบรรจุเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ใน MOU ของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค แต่เชื่อว่าสุดท้ายพรรคก้าวไกลจะผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่สภาฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เพราะมาตรา 112 ควรเป็นกำแพงปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จากการถูกดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย
ดังนั้น กลุ่ม ศปปส. จึงต้องการเรียกร้องให้ สว. เป็นเสาหลักในการปกป้อง 3 สถาบันหลักของชาติ เพราะมองว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ต้องมีจุดยืนในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ‘อานนท์’ ยอมรับว่าทางกลุ่มมีกังวลต่อท่าทีของ สว. จึงขอย้ำเตือนว่าช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา สว. ถูกถอนหงอกมาตลอด ถ้าอยู่ๆ ไปยกมือให้กับคนที่ต้องการแก้มาตรา 112 ก็เหมือนไม่ให้ราคาตัวเอง และหาก สว. ทั้ง 250 คน ยกมือสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล มองว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว เชื่อว่าคนไทยอีก 10 ล้านคน คงไม่เห็นด้วย และหากเป็นแบบนั้น กลุ่ม ศปปส. จะออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน
‘อานนท์’ ยังมองว่า สว. ควรปิดสวิตช์ตัวเอง ประกาศลาออกจากตำแหน่งก่อนมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาด่าว่าขัดต่อฉันทามติประชาชน อย่าไปยึดติดกับตำแหน่ง เมื่อถามย้ำว่าหาก สว. ลาออกจะไม่ยิ่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลง่ายขึ้นอย่างนั้นหรือ ‘อานนท์’ อธิบายว่าสิ่งที่เขาต้องการ คือ ให้ สว. ทำทุกวิถีทางในการขัดขวางไม่ให้มีรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขหรือยกเลิก มาตรา 112