





บรรยากาศการเลือก สว. ระดับประเทศ ที่อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ผู้สมัครเลือก สว. ได้เดินทางมารายงานตัว เพื่อทำการคัดเลือก สว. ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 รอบ แบ่งเป็นเรื่องในกลุ่มเดียวกันเองและการเลือกไขว้ในแต่ละกลุ่ม โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียงในหลายสาขาอาชีพเข้าร่วม ได้แก่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ , นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ , ษิทรา เบี้ยบังเกิด (ทนายตั้ม) , พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรอง ผบ.ตร. , อังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน , ธัชพงศ์ แกดำ อดีตนักเคลื่อนไหวการเมือง เป็นต้น
ทั้งนี้ ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้สมัครเลือก สว. ระดับประเทศได้ยิ้มให้สื่อมวลชน หลังถูกถามว่านำสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรติดตัวมาด้วยหรือไม่ โดยตอบเพียงว่า “เอาความตั้งใจมา”
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตที่ว่ากลุ่มที่ 1 บริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ที่ มีความขับเคี่ยวในการเลือกครั้งนี้ ‘สมชาย’ กล่าวว่า “เป็นเรื่องธรรมดา”
เมื่อถามว่ามีกำลังใจอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ‘สมชาย’ กล่าวว่า “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” (ภรรยา)
ส่วนกระแสข่าวที่มีการวางตัว สมชายเป็นประธานวุฒิสภานั้น สมชาย ได้โบกมือปฏิเสธตอบ พร้อมกล่าวว่าพร้อมระบุว่า “วันนี้มาคัดเลือกตามระเบียบ จะผ่านหรือไม่ อยู่ที่ผู้สมัครจะเลือก ตอนนี้ยังไม่คิดอะไร”
เมื่อถามว่าหากได้รับเลือกเป็น สว. อยากผลักดันเรื่องอะไร ‘สมชาย’ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เป็น พูดอะไรไม่ได้ ยังสัมภาษณ์อะไรไม่ได้ ขอให้มีการคัดเลือกก่อน
เมื่อถามว่าเมื่อคืนนี้กินอิ่ม นอนหลับ ดีหรือไม่ สมชาย กล่าวว่า “สบายมากครับ”
เมื่อถามว่าได้ขอกำลังใจจาก ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ สมชาย กล่าวว่า “ไม่มีอะไรครับ”
ขณะที่ ษิทรา เบี้ยบังเกิด (ทนายตั้ม) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงความรู้สึกในการคัดเลือก สว. ระดับประเทศ และ เมื่อคืนได้นอนบ้างหรือไม่ ทนายตั้ม กล่าวว่า เมื่อคืนตนได้นอนบ้าง และมีความกังวลว่ารถจะติดในช่วงเช้า แต่วันนี้ตนไม่กังวลอะไรแล้วเพราะวันนี้ตื่นเช้ามาก่อนที่รถจะติด และได้ถ่ายรูปกับผู้สมัคร สว. ทั้งที่รู้จักกันและพึ่งมารู้จักกันในวันนี้
เมื่อถามต่อว่าในวันนี้มีกำลังใจครบ 100% หรือไม่ ทนายตั้ม กล่าวว่า กำลังใจมีอยู่แล้วครบ 1,000% แต่จะได้รับเรื่องหรือไม่ ก็ต้องมาดูกันที่รอบแรกและอยู่ที่ผู้สมัครที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ถ้าตอนได้เข้าไปในรอบที่สองจะเปิดโอกาสมากขึ้น
เมื่อถามถึงกระแสที่มีการฮั้วหรือมีการซื้อเสียงเกิดขึ้น ทนายตั้ม กล่าวว่า ตนจะรอดูสำหรับคนที่มีคะแนน 30 ขึ้นไป ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้น เพราะถ้าเป็นผู้สมัครทั่วไปจะมีคะแนนอยู่ที่ 10 คะแนน เนื่องจากหนึ่งบุคคลลงคะแนนได้เพียง 10 ถึง 12 คะแนนเท่านั้น ส่วนการฮั้วสังเกตได้จากคะแนนที่กระโดดจากคนอื่นมากเกินไป
ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า การเลือก สว. ในครั้งนี้ตนเข้าใจกติกา ว่าให้กลุ่มเดียวกันเลือกกันเองก่อนซึ่งต้องพยายามทำความรู้จักกับว่าที่ผู้สมัคร สว. ทุกคน และตนได้เดินทางไป จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก เพื่อไปแนะนำตัวกับผู้สมัครทีละคน
เมื่อถามว่า ในส่วนกรณีที่มีประเด็นว่ามีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง มองว่าวันนี้จะมีกระแสการฮั้วหรือการจัดตั้งขึ้นหรือไม่ ทนายตั้ม กล่าวว่า มีเนื่องจากเขาจัดตั้งกันเป็นระบบ ซึ่งสังเกตได้ว่าเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) ผู้สมัครถูกเก็บโทรศัพท์ จองตัวเข้าไปเก็บในเซฟเฮาส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เฉพาะผู้จัดตั้ง) เพื่อไม่ให้คุยกับใคร
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ทำไมปิดข่าวว่า ตนเองไม่ได้สมัครรับเลือก สว. ทนายตั้มกล่าวว่า ตนรู้ตนเองว่าจะมีแรงกดดันเสียดทานสูง หากเปิดเผยกลัวจะโดนกีดกันเยอะ ตนขอนิ่งนิ่งเงียบเงียบไม่บอกสื่อมวลชน จนได้ผ่านรอบคัดเลือกระดับจังหวัดจนไม่สามารถปิดบังได้ จึงต้องเปิดเผยออกมา ว่าอยู่อันดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม
ทนายตั้ม ยังระบุอีกว่า บรรยากาศช่วงเช้าวันนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก ผู้สมัครแต่ละคนอัธยาศัยดีมีการทักทายกัน ส่วนบรรยากาศข้างในห้องการคัดเลือกตนไม่ทราบว่าจะมีความตึงมากน้อยแค่ไหน
ทนายนายตั้ม ยังระบุทิ้งท้ายด้วยว่า การจัดฮั้วเลือก สว. สามารถตั้งข้อสังเกตได้แต่การจะดำเนินคดีกับใครต้องมีหลักฐานด้วย ยกตัวอย่าง จ.สมุทรสาคร ตนมีหลักฐานรวมทั้งมีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลดังกล่าวรับเงินมาจากใคร และนักการเมือง ป. ที่ตนเคยบอกไว้มีความเกี่ยวข้องอย่างไร
ส่วนการคัดเลือกระดับประเทศ หากมีหลักฐานมากพอ ตนจะนำหลักฐานไปมอบให้ กกต. เพื่อให้ดำเนินคดีต่อไป และบุคคลดังกล่าวก็จะถูกสอย
ส่วนที่หากมีพรรคการเมืองเกี่ยวข้อง ก็จะถูกยุบพรรค เนื่องจากมีกฎข้อห้าม คือ ห้ามเกี่ยวข้องการเลือกสว.
ส่วนกรณีที่มีการมองว่า การออกมาแฉข้อมูลเรื่อง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. จะส่งผลทำให้ถูกสกัดในการเลือก สว. ครั้งนี้หรือไม่ ทนายตั้ม ยอมรับว่า การดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีกระบวนการที่พยายามทำให้ตนไม่ได้เป็น สว. จึงต้องดูว่า ผลที่ออกมาว่าจะเป็นอย่างไร