ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภา ซึ่งมี วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธาน กมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาแนวคิดการออกแบบกฎหมายและรายละเอียดของการมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศ โดยเชิญ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาชี้แจง
ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เข้าชี้แจงแทน แต่ จุลพันธ์ ติดราชการที่ประเทศเวียดนาม ทำให้ที่ประชุมเปิดเวทีให้ กมธ.ฯ ที่มีบทบาทเป็นฝ่ายวิชาการอภิปรายเสนอมุมมองการวิเคราะห์
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะที่ปรึกษา กมธ. ได้อภิปรายต่อที่ประชุมบางช่วงบางตอนว่า รัฐบาลมีพิรุธในการเปิดบ่อนถูกกฎหมาย ออก พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.... เพื่อให้รัฐสภามอบอำนาจเกือบเบ็ดเสร็จในพื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์และบ่อน ให้กับกรรมการนโยบายที่มีนายกฯ เป็นประธาน โดยขอเรียนว่าเป็น ‘ครม.กาสิโน’
ทั้งนี้ การขออำนาจรัฐสภากำหนดจำนวนและที่ตั้งกาสิโน จะกำหนดค่าตอบแทนอย่างไร เพราะกฎหมายเขียนว่า ‘ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท’ ทั้งที่การเขียนกฎหมายนั้นต้องระบุว่ารัฐต้องได้ผลตอบแทน ‘ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท’
คำถามคือ คนที่จะได้สัมปทานนี้เกิดขึ้นโดย ‘ครม.กาสิโน’ ไม่มีการเสนอการแข่งขัน และมีการยกเว้นกฎหมายต่างๆ ให้เป็นเหมือนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นหรือประเมินผลกระทบ ทั้งที่ควรทำประชามติเฉพาะเขต
— เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
เจิมศักดิ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลยืนยันจะเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายขนาดใหญ่ มีข่าวหนาหูว่าพื้นที่ กทม. จะทำที่คลองเตย บนพื้นที่ 3,800 ไร่ โดยเตรียมแก้ไข ‘พ.ร.บ.การท่าเรือ’ เพื่อให้ใช้พื้นที่ได้ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีมูลค่าตารางวาละ 1.2 ล้านบาท หากใช้ 10% ทำกาสิโน เท่ากับจะใช้เงิน 1 แสนล้านบาท แต่คนลงทุนจ่ายค่า 1,100 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ จะทำที่ อ.สันกำแพง, จังหวัดชลบุรี ที่อู่ตะเภา
ทั้งนี้ การออกกฎหมายให้สัมปทาน 30 ปี หากมีผลกระทบต้องยกเลิก จะเป็นภาระของลูกหลานที่ต้องรับผิดชอบ เหมือนกรณีโฮปเวล ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม
เจิมศักดิ์ ยังชี้ให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไม่เคยสัญญากับประชาชนว่าจะเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายในเมือง แต่เมื่อได้อำนาจแล้วกลับทำในสิ่งที่ไม่ได้สัญญา ถือว่าทำผิดหรือไม่? และจากที่ฟัง รัฐบาลบอกว่าไม่ยินดีทำประชามติ ทั้งที่การออกกฎหมายที่มีผลกระทบต่อสังคม รัฐบาลควรจัดให้มีประชามติเพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนก่อน
มีความน่าสนใจต่อการทำร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่อาจมีประเด็นขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งในอนุกรรมาธิการผลกระทบกับสังคมต้องพิจารณา
— เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ด้าน แก้วสรร อติโพธิ กมธ.ฯ กล่าวว่า แนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้มีสถานบันเทิงที่มีบ่อนกาสิโน ซึ่งเสนอร่างกฎหมายต่อสภาฯ เป็นความต้องการที่เปิดให้ทุนข้ามชาติเข้ามาประกอบธุรกิจ ในการศึกษาของ กมธ. จำเป็นต้องพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจ ชุมชน และสังคม
ทั้งนี้ ที่ทราบมาว่าเขาจะตั้ง 5-10 ที่ขับรถไปถึงภายใน 3 ชั่วโมง, ดังนั้น ที่ตั้ง ขนาด และจำนวน เป็นประเด็นต้องพิจารณาซักถามรายละเอียดจากรัฐมนตรี
ผมพบพิรุธในโครงการที่จะทำคือ มีคนในตระกูลชินวัตร จัดหาผู้ออกแบบได้แล้วในโครงการที่จะทำที่ท่าเรือคลองเตย แต่ส่วนที่เหลือนั้นผมไม่ทราบ
— แก้วสรร อติโพธิ
แก้วสรร กล่าวด้วยว่า ในการพิจารณาของ กมธ. ต้องคำนึงถึงการตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อไม่ให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของอาชญากรรม ยาเสพติด การค้าประเวณี และผู้มีอิทธิพลในจังหวัดต่างๆ หากเกิดกรณีทุนสีเทาเข้ามาสุมในพื้นที่บ่อน อาจกลายเป็นทุนเทาเต็มสภาฯ จากที่ปัจจุบันก็มีอยู่แล้วประมาณ 5
พร้อมระบุว่า “หากผมเป็น สว. จะทำให้ถึงศาล เพราะเท่ากับเป็นการยกอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติให้กับองค์กรอื่น และมีเนื้อหาเท่ากับการยกสิทธินอกอาณาเขตให้คนอื่น”
ทั้งนี้ ขอให้พิจารณาในประเด็นสำคัญต่อประเด็นการหารายได้ให้กับประเทศในภาวะที่มีปัญหาศูนย์เหรียญเกิดขึ้น ดูดเงินออกจากประเทศไทยไปต่างชาติ นอกจากนั้นแล้วจำเป็นต้องพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจและธุรกิจเดิมในพื้นที่ เช่น กรณีที่จะตั้งที่คลองเตย การท่องเที่ยวย่านสีลมจะรอดหรือไม่ ทั้งนี้ จำเป็นต้องจัดการให้ดีสุด
ผมไม่ดัดจริตว่าไม่เอา แต่ต้องบริหารจัดการผลกระทบให้ได้
— แก้วสรร อติโพธิ

ด้าน จรัญ ภักดีธนากุล กมธ.ฯ กล่าวว่า คนร่างและเสนอกฎหมายเข้าสู่สภาฯ นั้นแปลง ครม.ให้เป็นกรรมการนโยบาย ทั้งที่ ครม.เป็นฝ่ายบริหารของประชาชน แม้บุคคลจะเป็นคนเดียวกัน แต่สถานะไม่เหมือนกัน เพราะกรรมการนโยบายไม่ต้องรับผิดชอบต่อสภาฯ
จากประเด็นของการเสนอกฎหมายนั้น ผมมองว่าเป็นเนื้อหาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หลายมาตรา เริ่มจาก มาตรา 115, มาตรา 3, มาตรา 65
— จรัญ ภักดีธนากุล
จรัญ ระบุด้วยว่า การเปิดให้มีบ่อนพนันออนไลน์จะส่งผลกระทบต่อประเทศ การวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์จะกระทบเครดิตของประเทศไทยในทุกด้าน รวมถึงการลงทุน และต้องใช้หลักธรรมาภิบาล โดยมีหลักนิติธรรม หากไม่มี จะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 65
ผมไม่คิดว่าเสียงเอกฉันท์ของ สว. จะยับยั้งโครงการนี้ถาวร เพราะรัฐบาลจากพรรคที่กุมเสียงข้างมากในสภาฯ ได้เบ็ดเสร็จ สามารถโต้แย้งได้ ผมเห็นว่าจำเป็นต้องอ้างรัฐธรรมนูญและเชื่อว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นว่าการทำเรื่องดังกล่าว ขัดแย้งกับสำนึกในศีลธรรมอันดีของคนไทย ธรรมาภิบาลยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดให้ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
— จรัญ ภักดีธนากุล