










สมาคมคณะประชาชนคนรักในหลวง นำโดย ประยูร จิตเพ็ชร ประธานคณะประชาชนคนรักในหลวง พร้อมมวลชนทั่วประเทศ กว่า 500 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ที่อาคารรัฐสภา โดยมี พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา เป็นตัวแทนมารับหนังสือ ซึ่งทางคณะประชาชนฯ มีจุดยืนไม่ต้องการให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 เพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ และขอให้มาตรา 112 ยังคงดำรงอยู่ในกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ เครือข่ายภาคประชาชนยังให้กำลังใจสมาชิกวุฒิสภาไม่ให้ถูกกดดันในการโหวตนายกรัฐมนตรี และไม่ให้โหวตพรรคการเมืองที่คิดล้มล้างสถาบัน
ทั้งนี้ พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวภายหลังการรับยื่นหนังสือว่าต้องขอดูจากเนื้อหาสาระก่อนว่าเข้าเงื่อนไขอะไรบ้างและจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อ
ส่วนที่ ส.ว.บางส่วน มีจุดยืนในการตรวจเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวมองว่าทุกคนมีวุฒิภาวะพอที่จะตัดสินใจอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนของคนที่เป็น ส.ส. เพราะยังไม่มีการรับรองจาก กกต. เพราะฉะนั้นยังเร็วเกินไปที่จะตอบในตอนนี้ ส่วนคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีที่จะโหวตให้ ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นคนเก่งเป็นคนดี เก่งด้วยดีด้วยและทำงานเพื่อประเทศชาติเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
สำหรับตัวเลข ส.ส. ที่พักแกนนำกำลังรวมเสียงอยู่ในขณะนี้จะเป็นปัจจัยในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝั่ง ส.ส. เรามีหน้าที่พิจารณาตอนที่เสนอชื่อใครเป็นนายกเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นคนละขั้นตอนกัน
สำหรับ ส.ว. ควรเคารพเสียงของประชาชนหรือไม่ เพื่อให้เสียงพรรคอันดับ 1 ได้จัดตั้งรัฐบาลนั้น พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า หลายคนเข้าใจผิด เสียงส่วนใหญ่กับเสียงส่วนน้อยเสียงยังไงเป็นขั้นตอนหลังการเลือกตั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่มีเสียงส่วนใหญ่ เป็นเพียงการวางแผนกันเท่านั้น ซึ่งต้องฟังเสียงส่วนใหญ่แลพคนที่ได้รับการเลือกตั้งอันดับ 1 ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่
พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวอีกว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคก้าวไกล ถ้าติดต่อมาจนพร้อมรับฟัง เพราะมีเพื่อนอยู่ทุกพรรค ไม่ใช่แค่พรรคใดพรรคหนึ่ง ตนรู้จักแกนนำหมดทุกพรรค ส่วนปัญหาของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจหรือไม่นั้น ตนยังไม่รู้เพราะ ตัวเลขของ ส.ส. ยังไม่นิ่ง ฉะนั้นตัดสินใจยังไม่ได้ ตนขอเลือกคนเก่งคนดีและทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ เครือข่ายภาคประชาชนยังให้กำลังใจสมาชิกวุฒิสภาไม่ให้ถูกกดดันในการโหวตนายกรัฐมนตรี และไม่ให้โหวตพรรคการเมืองที่คิดล้มล้างสถาบัน
ทั้งนี้ พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวภายหลังการรับยื่นหนังสือว่าต้องขอดูจากเนื้อหาสาระก่อนว่าเข้าเงื่อนไขอะไรบ้างและจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อ
ส่วนที่ ส.ว.บางส่วน มีจุดยืนในการตรวจเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวมองว่าทุกคนมีวุฒิภาวะพอที่จะตัดสินใจอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนของคนที่เป็น ส.ส. เพราะยังไม่มีการรับรองจาก กกต. เพราะฉะนั้นยังเร็วเกินไปที่จะตอบในตอนนี้ ส่วนคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีที่จะโหวตให้ ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นคนเก่งเป็นคนดี เก่งด้วยดีด้วยและทำงานเพื่อประเทศชาติเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
สำหรับตัวเลข ส.ส. ที่พักแกนนำกำลังรวมเสียงอยู่ในขณะนี้จะเป็นปัจจัยในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝั่ง ส.ส. เรามีหน้าที่พิจารณาตอนที่เสนอชื่อใครเป็นนายกเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นคนละขั้นตอนกัน
สำหรับ ส.ว. ควรเคารพเสียงของประชาชนหรือไม่ เพื่อให้เสียงพรรคอันดับ 1 ได้จัดตั้งรัฐบาลนั้น พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า หลายคนเข้าใจผิด เสียงส่วนใหญ่กับเสียงส่วนน้อยเสียงยังไงเป็นขั้นตอนหลังการเลือกตั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่มีเสียงส่วนใหญ่ เป็นเพียงการวางแผนกันเท่านั้น ซึ่งต้องฟังเสียงส่วนใหญ่แลพคนที่ได้รับการเลือกตั้งอันดับ 1 ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่
พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวอีกว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคก้าวไกล ถ้าติดต่อมาจนพร้อมรับฟัง เพราะมีเพื่อนอยู่ทุกพรรค ไม่ใช่แค่พรรคใดพรรคหนึ่ง ตนรู้จักแกนนำหมดทุกพรรค ส่วนปัญหาของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจหรือไม่นั้น ตนยังไม่รู้เพราะ ตัวเลขของ ส.ส. ยังไม่นิ่ง ฉะนั้นตัดสินใจยังไม่ได้ ตนขอเลือกคนเก่งคนดีและทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์