ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก ที่จะทำให้ประชาชนไม่พอใจ จึงอยากให้รอฟังว่า เราจะพูดถึงเรื่องนี้และมีหมัดเด็ดอย่างไร
ต้องฝากประชาชนให้ช่วยติดตามด้วย เพราะภายหลังมีการเคาะเวลาล่าสุด ปรากฏว่าเราจำเป็นต้องอภิปรายตั้งแต่ 08.00-05.30 น. ของอีกวัน ซึ่งข้อดีคือ อาจจะไม่ค่อยมีคนประท้วงในช่วงนั้น ทำให้เราสามารถอภิปรายได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อเสียคือ ประชาชนอาจจะพลาดการรับชมสด เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่หน้าทีวีอีกต่อไป นอกจากคนอภิปราย และนักข่าว ส่วนตัวเด็ดๆ จะมาในช่วงเวลาไหนนั้น ดิฉันยังบอกไม่ได้จริงๆ แต่ยืนยันว่า จะมีการกระจายไฮไลต์ทุกวันแน่นอน แต่จะอยู่ในช่วงเวลาไหน ยังบอกไม่ได้ เพราะเดี๋ยวโดนว่าเข้าไปยุ่งย่ามวุ่นวายกับพยานหลักฐาน
— ศิริกัญญา ตันสกุล
ส่วนความเป็นไปได้ ที่อาจมีการขยายเวลาอีก 1 วันนั้น ปัญหาคือ หากมีการประท้วงจนรัฐบาลใช้เวลาของตัวเอง ที่รวมกับเวลาชี้แจงของนายกรัฐมนตรี จนเกินหรือหมดแล้ว และฝ่ายค้านยังพูดไม่ครบเวลา เราก็ได้ขอคำมั่นสัญญาจากรัฐบาลแล้วว่า จะให้เราอภิปรายต่อจนครบเวลา และขอเรียกร้องกับฝ่ายรัฐบาลให้รักษาสัจจะที่เคยให้ไว้ให้, ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนร่วมกันกดดันเรื่องนี้ด้วย
เราถอยจนไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว อภิปรายถึงตีห้าครึ่ง ดิฉันยังรู้สึกเคืองคนที่ไปเจรจาอยู่เลยว่า ได้เวลาแบบนี้ได้อย่างไร
— ศิริกัญญา ตันสกุล
ศิริกัญญา ยืนยันว่า มีการจัดกลุ่มผู้อภิปรายแน่นอน ทั้งเรื่องนโยบาย การคอร์รัปชัน และปัญหาอื่นๆ แต่ไม่มีกลุ่มที่เป็นเรื่องบุคคลในครอบครัวโดยเฉพาะ ย้ำว่า เราอภิปรายที่ตัวนายกรัฐมนตรี สำหรับคนที่เกี่ยวข้อง หรือคนในครอบครัวเป็นส่วนเสริมเข้ามา
ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เราไม่ได้อภิปรายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เราอภิปรายนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากปัญหาที่การที่เขาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง
— ศิริกัญญา ตันสกุล
ส่วนการตอบโต้ผ่านโปสเตอร์อภิปราย ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนนั้น เป็นธรรมดาของการเก็งข้อสอบ ซึ่งมีการเก็งผิดบ้างเป็นเรื่องปกติ การรีบออกตัวไปหน่อย ก็อาจจะทำให้ดูร้อนตัว หรือร้อนรน เพราะยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าจะพูดเรื่องอะไร การออกมาพูดเรื่องหลงประเด็น เราก็งงว่า ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลกันแน่ที่หลงประเด็น
ยอมรับว่า กังวลทุกวัน ยังต้องทำงานอย่างปิดเงียบเป็นความลับ พยายามเก็บข้อมูลให้มีคนที่ทราบน้อยที่สุด ซึ่งสื่อฯ ก็น่าจะอยากรู้ มีคำถามเข้ามาเรื่อยๆ ว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง แต่เราต้องขอเก็บแต่ความลับจริงๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ, ตัวผู้อภิปรายเอง ก็อาจจะมีปัญหาในการโทรมาล็อบบี้ ไม่ให้ไปพูดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือพยานหลักฐานต่างๆ ที่เคยมีอยู่ ก็อาจจะหายวับไปตาก็ได้
— ศิริกัญญา ตันสกุล
สำหรับธีมในการที่อภิปราย “ดีลแลกประเทศ” นั้น อธิบายมาจากการที่ประเทศต้องสูญเสียไปเท่าไหร่ กับการที่นายกรัฐมนตรีเข้าสู่อำนาจ และเพื่อให้บิดาได้กลับมาบ้าน เราต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน และการนำผลประโยชน์ประเทศมาต่อรอง ที่ทำให้เราต้องสูญเสียโอกาสไปเท่าไหร่
เมื่อถาม “ฝ่ายรัฐบาลดูร้อนตัว” ใช่หรือไม่? น.ส.ศิริกัญญา กล่าวติดตลกว่า “อั๊วะไม่ร้อน แต่ลื้อดูร้อน เพราะในช่วงนี้มีการโปรโมทผลงานเป็นระยะ เหมือนเตรียมตัวที่จะรับการอภิปราย ซึ่งเราก็เก็งคำตอบเช่นเดียวกัน ว่ารัฐบาลจะตอบว่าอะไร ผ่านการที่เขาดูร้อนรนแบบนี้ ก็ขอบคุณที่ร้อนตัว และโชว์ผลงานใหญ่เลย”
ส่วนเมื่อถามย้ำว่า “คนไหนดูร้อนที่สุด” ? ศิริกัญญา มองว่า นายกรัฐมนตรีน่าจะเป็นร้อนที่สุดอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้อภิปรายคนอื่น รองลงมาอาจจะพ่อนายกรัฐมนตรี
เพราะกรณีที่เราถามว่า จะอภิปรายเรื่อง ‘ทักษิณ’ ได้หรือไม่? แทนที่เขาจะตอบว่า ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่เขากลับตอบกว่า เป็นการไม่ทำตามกติกา จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเหมือนกัน เพราะคิดว่าจะใจกว้างมากกว่านี้
— ศิริกัญญา ตันสกุล
พร้อมย้ำอีกว่า “มีหมัดเด็ดหลายเรื่อง รอบนี้ของจริง มีคนร้อนแน่นอน”
เมื่อถามว่าคิดถูกหรือไม่ที่เลือกอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว? ศิริกัญญา กล่าวว่า รู้สึกว่าคิดถูกมาก เพราะตอนแรก ดิฉันก็เป็นเสียงข้างน้อยที่ไม่อยากเปลี่ยน แต่ตอนนี้รู้สึกว่า หากพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว และส่วนที่เหลือไม่ได้เอาไปต่อรอง หรือหมกเม็ดอะไร พอเปิดสมัยประชุมหน้า ในเดือน ก.ค.นี้ ก็รอติดตามภาคต่อไปได้เลย เพราะขึ้นใหม่แล้ว สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อีกรอบ