สมคิด เชื้อคง อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ของพรรคเพื่อไทย หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ เศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ประสานกับผู้บริหาร ซึ่งจะมีการประชุมกันเพื่อสรรหารายชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจากข่าวคือ ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม มีหลายเสียงที่อาจเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) จะอธิบายต่อ สส.ได้ ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องรอติดตาม ซึ่งมีกำหนดการเลือก (นายกรัฐมนตรี) ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่อาคารรัฐสภา
บางคนเสนอชื่อ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีความเหมาะสม แต่อยู่ที่การพูดคุยในพรรค คน 140 เห็นไม่ตรงกัน แต่พรรคเพื่อไทยมีระเบียบวินัยอยู่แล้ว ว่า ถ้าเสียงส่วนมากไปทิศทางไหนก็จะไปทางนั้น ความเห็นต่างถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่า ทำไมถึงส่งชื่อ ชัยเกษม ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมคิด ก็ระบุ ไม่ทราบว่าทำไมถึงตั้ง ชัยเกษม แต่มองว่าเป็นผู้อาวุโส มีประสบการณ์การเมืองมาอย่างยาวนาน เป็นอดีตอัยการสูงสุด จึงเป็นเหตุผลที่ดี ส่วนหัวหน้าพรรค อาจทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเหมือนเดิม ก็ทำงานเหมือนกัน แต่คงไม่ได้มาดำรงตำแหน่ง เช่นเดียวกับตอนที่ เศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี
ส่วนข้อกังวลด้านสุขภาพของ ชัยเกษม นั้น สมคิด กล่าวว่า ท่านก็แข็งแรงดี แต่หากเปรียบกับ เศรษฐา ที่ทำงานหนักนั้น มองว่า ก็แล้วแต่ว่าถ้าเข้ามาแล้วจะบริหารอย่างไร เชื่อว่านายกรัฐมนตรีแต่ละท่านบริหารงานไม่เหมือนกัน
สำหรับกรณีกระแสข่าวการวางตัว ชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น สมคิด ชี้แจงว่า ได้ข่าวแบบนั้น เห็นว่าไปตกลงกัน
“ผมก็ได้ข่าวเหมือนท่านว่า มีพรรคต่าง ๆ ได้เข้าไปพูดคุยกัน ถือเป็นเรื่องปกติของพรรครัฐบาลที่ไม่อยากให้แตกแยกกันเป็นธรรมดา
ส่วนการที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ไปประชุมกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จะขัดต่อกฎหมายเรื่องครอบงำพรรคหรือไม่ สมคิด มองว่า ไม่น่าจะขัด คงไม่ครอบงำ เพราะทุกพรรคการเมืองเห็นชอบ ครอบงำไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า เสียงค้าน ชัยเกษม มาจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ สมคิด กล่าวว่า ไม่ทราบ ทราบแค่ในพรรคเพื่อไทย มีนิดหน่อยหน่อย แต่เมื่อสรุปจบ ก็อธิบายกันเข้าใจ ส่วนโอกาสที่นายกรัฐมนตรี จะเปลี่ยนมือไปเป็นของพรรคอื่นนั้น มองว่า วันนี้ไม่มี
เพราะเรามี 141 เสียง โดยหลักการเป็นอย่างนั้น จะยอมหรือไม่ยอม หลักการก็เป็นอย่างนั้น เชื่อว่าพรรคอื่นก็จะเข้าใจในหลักการ เราเป็นแกนนำเสียงข้างมากถือเป็นสิทธิ์ชอบธรรมอยู่แล้ว
ในส่วนโควตาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังคงแบบเดิมหรือไม่นั้น สมคิด กล่าวว่า พรรคอื่น ๆ เหมือนเดิม ส่วนพรรคเพื่อไทยจะปรับบุคคลหรือไม่อย่างไร ก็แล้วแต่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็เป็นปกติในการปรับอยู่แล้ว แต่มองว่าพรรคอื่นยังคงโควตาเดิม ไม่มีอะไรเพิ่มมากมาย ส่วนการปรับตัวบุคคล อาจเป็นเรื่องของแต่ละพรรค ซึ่งเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยอาจมีบ้าง เรื่องการปรับตัวบุคคล
ส่วนจะสามารถปรับ ครม.ได้เลยหรือไม่นั้น สมคิด อธิบายว่า ในสมัยของรัฐบาลเศรษฐา ใช้เวลา 20 กว่าวัน ถึงจะแถลงข่าว เราคาดว่าใช้เวลาประมาณนั้น เมื่อถามต่อไปว่า การตั้ง ชัยเกษม ขึ้นมานั้น ไม่ใช่เป็นเพราะ เศรษฐา ขัดตาทัพใช่หรือไม่ สมคิด กล่าวว่า ไม่มีขัด ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว ไม่มีใครขัดตาทัพใคร ส่วนการตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะราบรื่นหรือไม่นั้น เท่าที่ฟังวันนี้ ไม่น่ามีปัญหา
เท่าที่ไปวิปรัฐบาล ก็จบเหมือนกัน คุยประธานวิปของแต่ละพรรค ไม่น่ามีปัญหาอะไร พรรคร่วมรัฐเดิมก็ไม่มีแตกแถว ผมเองไม่ได้รับโทรศัพท์ว่ามีใครแตก