โต้ทุจริตกำไลอีเอ็ม! ‘สมศักดิ์’ มอบทนายฟ้องกลับ ‘ศรีสุวรรณ’

15 ม.ค. 2567 - 08:17

  • ‘สมศักดิ์’ โต้ ‘ศรีสุวรรณ’ กล่าวหาเลื่อนลอย ยืนยันไม่มีทุจริตกำไลอีเอ็ม

  • สมัยนั่ง รมว.ยุติธรรม ไม่ปล่อยปละละเลย มั่นใจไม่มีล็อคสเปก-ล็อบบี้

  • ตั้งข้อสงสัยทำไมร้องซ้ำ ย้ำมอบทนายฟ้องกลับทุกมุม

Somsak-counters-Srisuwan-confirms-there-is-no-corruption-in-EM-bracelets-SPACEBAR-Hero.jpg

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือถึง กมธ.กิจการศาลฯ ให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการเช่ากำไลอีเอ็ม ของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยุติธรรม) ว่า ได้ทราบเรื่องแล้ว นายศรีสุวรรณเป็นนักร้องเรียนที่มีผลงาน แต่ในประเด็นนี้คงได้รับข้อมูลมาไม่ครบ ที่กล่าวหาว่าตนปล่อยปละละเลยให้กรรมการทีโออาร์ และกรรมการจัดซื้อทุจริตกันตั้งแต่ต้นน้ำนั้น 

“ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะการเช่ากำไลอีเอ็ม เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด และไม่เคยมีการปล่อยปละละเลย เพราะได้มอบนโยบายในที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมในเวลานั้น ซึ่งมีทั้งปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆ ให้ติดตามเรื่องกำไลอีเอ็มว่าหากการจัดซื้อจัดจ้างผิดระเบียบ ก็ให้ยกเลิกไปได้เลย เพราะตนมีเป้าประสงค์เรื่องความโปร่งใสอยู่แล้ว แต่หากทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็ให้เดินหน้า รวมถึงที่ผ่านมาเมื่อกำไลอีเอ็ม พบปัญหาถอดออกได้ อย่างเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ก็มีการตั้งกรรมการสอบอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่า ไม่เคยปล่อยปละละเลย”

สมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่า มีการวิ่งเต้นล็อบบี้ให้อนุมัติสัญญาจ้างนั้น ขอย้ำว่า เรื่องนี้ไม่มีการวิ่งเต้น เพราะกรมคุมประพฤติ ได้เข้าชี้แจงกรรมาธิการติดตามงบประมาณ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรรมาธิการฯ ก็ไม่ได้มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หลังจากชี้แจงเสร็จสิ้นแล้ว จึงถือได้ว่าโครงการนี้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปด้วยความปกติ ตามกรอบของกฎหมาย 

ส่วนสเปกของกำไลอีเอ็ม ขอยืนยันว่า ไม่ได้ล้าสมัย เพราะได้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ระดับกระทรวง และกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ภาครัฐแล้ว รวมถึงได้มีหน่วยงานที่ใช้กำไลอีเอ็มอยู่แล้ว คือ สำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งมีผลการใช้งานเป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้ ยังได้มีการศึกษาเปรียบเทียบจากต่างประเทศ เช่น อิสราเอล เกาหลี สหรัฐฯ ด้วย 

“รัฐมนตรี ไม่สามารถล็อคสเปก เพื่อช่วยเหลือใครได้ เพราะว่าสเปกถูกกำหนดโดยกรรมการและนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ และยังต้องประกาศให้สาธารณชนทราบ รวมถึงกฎหมายกำหนดให้สเปกต้องมีบริษัทสามารถเข้าร่วมแข่งขันอย่างน้อย 3 บริษัท จึงไม่สามารถมีการล็อคสเปกตามที่กล่าวหาได้”

Somsak-counters-Srisuwan-confirms-there-is-no-corruption-in-EM-bracelets-SPACEBAR-Photo01.jpg

สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่ามีการเปิดโอกาสให้มีการปรับแก้สเปกของกำไลอีเอ็มอย่างเต็มที่ เพราะได้มีการประกาศเชิญชวน และเปิดเผยข้อมูลทุกขั้นตอน ผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ของกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ผู้ที่สนใจ ได้เข้ามาศึกษาและมีการวิจารณ์ แนะนำ ท้วงติง เกี่ยวกับคุณสมบัติ ซึ่งกฎหมายก็กำหนดให้ต้องมีการนำมาพิจารณาร่วมอยู่แล้ว รวมถึงตัวอุปกรณ์ต้องมีการแข่งขันไม่น้อยกว่า 3 ผลิตภัณฑ์ จึงไม่ใช่เป็นการปิดโอกาสในการแก้สเปกแต่อย่างใด

สำหรับกรณีที่กล่าวอ้างว่าการทำงานของอุปกรณ์ ทำงานผิดพลาดหลายครั้งนั้น สมศักดิ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วอุปกรณ์มีการดำเนินการปกติ แต่เนื่องจากการทำงานของอุปกรณ์มีการแจ้งเตือนเป็นจำนวนมาก และเครื่องยังต้องส่งสัญญาณเพื่อแจ้งเตือนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากมีการตรวจพบการชำรุดเสียหายของอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ ก็จะเร่งแจ้งไปยังบริษัท เพื่อนำเครื่องใหม่มาเปลี่ยนให้ทันที 

ส่วนที่เปิดเผยว่า มีกรรมการรับสารภาพว่าไม่ได้ร่วมประชุมและเซ็นใดๆ นั้น ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า ในวันลงมติมีกรรมการไม่เข้าร่วมเพียง 2 คน ดังนั้น การประชุมลงมติ จึงไม่ถือว่าขาดองค์ประชุมแต่อย่างใด

“การร้องเรื่องนี้อีกครั้งทั้งที่มีการชี้แจงไปหมดแล้ว ก็ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งข้อสังเกตว่า มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ เพราะอุปกรณ์ของกระทรวงยุติธรรม ก็คล้ายของศาลฯ แต่มีการพุ่งเป้าร้องเพียงหน่วยงานเดียว และข้อกล่าวหาที่ยื่น กมธ. ก็กล่าวหาแบบเลื่อนลอย ซึ่งเน้นใช้วาทกรรม เพื่อให้ดูน่าสนใจเท่านั้น แต่ไร้ข้อเท็จจริง ผมขอยืนยันว่าเป็นไปตามข้อกฎหมายทั้งหมด โดยจากนี้ผมต้องขอใช้สิทธิตามกฎหมาย ซึ่งได้มอบให้ฝ่ายกฎหมาย ดำเนินการฟ้องนายศรีสุววรณ อย่างละเอียดในทุกกรณี” รองนายกฯ สมศักดิ์ กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์